กรณีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเสาร์ 5 ทำให้เกิดปัญหานักท่องเที่ยนแห่แหนขึ้นถ้ำนาคา ภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ฝั่งอำเภอบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จำนวนมาก จนลงจากเขาไม่ทันเวลา ต้องติดค้างบนยอดเขาภูลังกานับพัน ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ป่าไม้ และกู้ภัย เข้าไปช่วยเหลือ จนสามารถนำนักท่องเที่ยวลงมาได้อย่างปลอดภัยทุกคน ใช้เวลาเกือบตี 1 ของวันอาทิตย์

ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุที่เกิดภาพผู้คนแออัดยัดเยียด เพราะมีคณะแขก VIP จากหลายหน่วยงาน ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์มาที่อุทยานฯ เพื่อขอขึ้นถ้ำนาคาแบบไม่จองคิวจำนวนมาก ตกสัปดาห์ละเกือบ 10 หน่วยงาน มีทั้งอธิบดี และตำรวจ ที่นำคณะขึ้นถ้ำนาคาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ทางอุทยานฯ กำหนดให้นักท่องเที่ยวขึ้นถ้ำนาคาได้ไม่เกิน 500 ต่อวัน  และยังมีกระแสว่าเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจในการเรียกรับเงิน เพื่อได้คิวขึ้นถ้ำนาคาด้วย

เมื่อวานนี้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ชุดเดิม ที่ปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวถ้ำนาคาออกไป ให้ชุดใหม่เข้ามาทำงานแทน พร้อมปรับระบบใหม่ ห้ามนำรถทุกชนิดเข้าไปในเขตอุทยานฯ เด็ดขาด เพื่อป้องกันทัวร์ผีพาลูกค้า VIP เข้าถ้ำนาคา ให้มาตามเวลาที่จองในแอพ QueQ (คิวคิว) เท่านั้น ต้องเตรียมบัตรประชาชนและเอกสารการฉีดวัคซีนให้ตรงกับรายชื่อที่จองในแอพ ห้ามขึ้นแทนกัน และให้ยกเลิกไกด์อาสาที่มีคิวจองทั้งหมด ซึ่งไกด์ทุกคนจะต้องมาจับฉลาก และลงทะเบียนปกติ โดยเริ่มเมื่อวานนี้ทันที

ทำให้เมื่อวานนี้มีนักท่องเที่ยวที่ซื้อทัวร์จากไกด์ เจอปัญหาทันที เพราะไปถึงแล้ว แต่ไม่สามารถขึ้นไปบนถ้ำนาคาได้ หลายคนเดินทางไกลกว่าจะไปถึง มีทั้งกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ขณะที่ไกด์อาสารายหนึ่ง เผยว่า เป็นไกด์อาสานำเที่ยวมาประมาณ 1 ปี ปัญหาที่เกิดขึ้นในเสาร์ 5 น่าจะเกิดจากตรงบันไดแดง เนื่องจากแคบและชัน บางคนกลัวความสูงทำให้ขึ้นลงช้า และอีกจุดคือที่ทำให้ทุกอย่างช้าตาม คือ จุดไฮไลท์ในถ้ำนาค มีการจำกัดเวลากลุ่มละ 10 นาที ซึ่งยอมรับว่าทุกกลุ่มใช้เวลาเกิน

ฝากถึงทุกคนที่ทำงานและมาเที่ยวถ้ำนาคา เราควรทำตามระเบียบที่ว่างไว้ ควรจองคิวตามระบบ กลุ่มคนที่ทำหนังสือมาขอขึ้นถ้ำแบบ vip นั้นไม่ควรใช้วิธีนี้ เพราะหากทำหนังสือมาขอ 300 คน บวกอีก 500 คน ซึ่งจองผ่านแอปมาตามระบบ ก็จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในวันนั้นเป็น 800 คน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้คนอื่นที่เขาทำตามระเบียบต้องเดือดร้อนไปด้วย

ส่วนบรรยากาศที่ถ้ำนาคาเช้าวันนี้ ตรงจุดลงทะเบียนเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีเพียงนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนผ่านแอพคิวคิวมาใช้บริการ ขณะที่ไกด์อาสาที่มารอนักท่องเที่ยว นั่งอยู่เป็นกลุ่มอย่างเงียบเหงา เพราะนักเที่ยวลดลง โดยบอกว่า ระบบใหม่ที่เจ้าหน้าที่ตั้งขึ้นมันก็ดี แม้จะได้รับผลกระทบทำให้รายได้ลดลงบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับ

ด้านนายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานฯ กล่าวว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้นพบ มีไกด์นำเที่ยวหรืออาสาท้องถิ่น 5-6 คน เกี่ยวข้อง ทางกรมฯจึงได้สั่งระงับการให้บริการนักท่องเที่ยวแล้ว

ในส่วนเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ได้มีคำสั่งให้สับเปลี่ยนออกนอกพื้นที่ไปปฏิบัติงานอื่นแทน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนจะลงโทษถึงขั้นให้ออกจากราชการหรือไม่ ขอให้คณะกรรมการสอบเสร็จเรียบร้อยก่อน เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ

สำหรับกลุ่มบุคคลวีไอพี ที่ประสานขอขึ้นไปเยี่ยมชม ยอมรับว่า มีประสานมาบ้าง แต่เป็นลักษณะของกลุ่ม ที่จะพิจารณาแผนพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งได้อธิบายถึงเหตุผลข้อจำกัด และแนวทางที่กำหนดให้ลงทะเบียนผ่าน QueQ ทั้งหมดต่างเข้าใจและยอมรับในแนวทางนี้

ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า ไม่มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ ตามกระแสข่าว และส่วนตัวยังตกใจว่ามีข่าวนี้ได้อย่างไร เนื่องจากตอนนี้ทางอุทยานกำลังระดมเจ้าหน้าที่เข้ามาเพิ่มเติม ในพื้นที่ถ้ำนาคาให้เพียงพอ ดังนั้นการจะย้ายเจ้าหน้าที่ คงเป็นไปไม่ได้

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะมีการหารือกัน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องแขก VIP ใช้ช่องทางพิเศษ ที่ได้กำชับทางพื้นที่ไม่ให้เกิดขึ้น และจากนี้ไปจะต้องมีการควบคุมนักท่องเที่ยวให้ไม่เกิน 700 คนต่อวัน รวมถึงอาจมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น กล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์นับจำนวนคนในการเข้า-ออกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวก และควบคุมปริมาณให้มีความเข้มข้นมากขึ้น