ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 ต.ค.64 ที่สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบุคคลประจำลุมพินีคอนโดปากเกร็ดนำช่างประจำอาคารเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณี การตัดเชือกโรยตัวของช่างทาสี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาโดยการสอบปากคำ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงและไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ แต่อย่างใด

จากการโทรศัพท์พูดคุยกับช่างทาสีผู้ประสบเหตุดังกล่าว คือช่างสอง ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าในวันเกิดเหตุตนได้โรยตัวจากชั้น 32 เพื่อทาสีอาคารซึ่งทาไปได้ประมาณ1 ชั่วโมงแต่เมื่อโรยตัวมาถึงชั้นที่ 26 ตนรู้สึกผิดปกติมีแรงดึงแรงสั่นสะเทือนแปลกๆเกิดขึ้นที่ปลายเชือก จึงก้มลงไปดูพบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังตัดเชือกโรยตัวของตนเองอยู่ จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าของห้องชั้น 26 ขอเข้าห้องเพื่อลงไปจากอาคารไปดูเชือกและแจ้งเหตุให้ฝ่ายอาคารทราบเรื่องดังกล่าว

ซึ่งสอดคล้องกับผลการสืบสวนในเบื้องต้น ที่พบว่าเชือกโรยตัวที่ถูกตัดสายอยู่ตรงบริเวณห้องพักห้องหนึ่งของชั้น 21 ซึ่งเจ้าของห้องเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 34 ปี จากข้อมูลของฝ่าบนิติบุคคลคอนโดพบว่าเจ้าของห้องผู้ต้องสงสัยมือตัดเชือกมีพฤติกรรมเป็นขาวีน ประจำคอนโด ชอบโทรร้องเรียนไปที่โรงพัก

แต่จากการสอบปากคำหญิงสาวผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว เจ้าของห้องพัก กลับปฏิเสธอ้างไม่รู้ไม่เห็น กับเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอเชิญตัวมาสอบสวนที่ โรงพักแต่เจ้าตัวไม่ยินยอม ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงเตรียมออกหมายเรียกหญิงสาวคนนี้ มาสอบปากคำ พร้อมนำเชือก 2 ส่วน ในที่เกิดเหตุส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานสํานักงานตํารวจแห่งชาติตรวจลายนิ้วมือแฝง บริเวณปลายเชือกที่ถูกตัด

ต่อมา พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก. สภปากเกร็ด พร้อมชุดสืบสวนร่วมประชุมหาตัวคนก่อเหตุ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน โดย พ.ต.อ.พงศ์จักร เปิดเผยว่า จากการสืบสวนและสอบสวน ขณะนี้พบตัวบุคคลผู้ต้องสงสัยก่อเหตุตัดเชือกโรยตัวของช่างทาสีแล้วซึ่งคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริงโดยมีพยานหลักฐานเป็นพยานแวดล้อมทั้งพยาน บุคคลและภาพ จากกล้องวงจรปิดบางส่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ได้ทำการตรวจดีเอ็นเอ และรอยตัดของเชือก ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานสํานักงานตํารวจแห่งชาติเพื่อทำการตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ต้องสงสัยรายนี้ ยังไม่ให้ความร่วมมือใดๆกับพนักงานสอบสวน ตำรวจจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนคือออกหมายเรียกมาสอบปากคำต่อไป

ขณะที่วันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกนิติบุคคลของคอนโดดังกล่าวมาสอบปากคำในประเด็น ลูกบ้านของคอนโด โดยเฉพาะชั้น 21 มีจำนวนกี่ห้อง แต่ละห้องมีผู้พักอาศัยกี่คน และในวันเวลาเกิดเหตุแต่ละห้องมีคนอยู่กี่คนและผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญ อยู่ที่ห้องหรือไม่ หากผลการสืบสวน และผลจากนิติวิทยาศาสตร์ออกมาตรงตามที่ตั้งข้อสงสัยไว้คดีนี้ตำรวจพร้อมแจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และพยายามฆ่าได้ทันที

ส่วนผู้ต้องสงสัย เป็นหญิงอายุ 34 ปี อาศัยอยู่ที่คอนโดชั้น 21 ทราบชื่อคือนางสาวณิชานันท์ แซ่โต๊ะ ทางชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ได้ประสานทางผู้จัดการนิติบุคคลของคอนโดลุมพินีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเข้าตรวจสอบที่บริเวณในห้องพักแต่นางสาวณิชานันท์ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือเข้ามาถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทุกนาย พร้อมทั้งขู่ว่าจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำแบบนี้เบื้องต้นให้ความร่วมมือด้วยดีในการตรวจสอบห้องพัก

ส่วนพฤติกรรมที่ผ่านมาพบว่าหญิงสาวรายนี้มักมีเรื่องร้องเรียนโทรเข้าไปที่ สภ.ปากเกร็ดเดือนหนึ่งจะโทรเข้าไปหลายๆครั้ง พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุนี้เกิดขึ้นตรงนู้นตรงนี้ เมื่อไปตรวจสอบมักจะไม่พบตามที่ร้องเรียนจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จำเสียงและเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจนรู้ถึงพฤติกรรมได้ดีว่านางสาวนณิชานันท์ เป็นคนโทรศัพท์เข้าไปร้องเรียนประจำ เบื้องต้นทาง พลตำรวจตรีไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เตรียมให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกหญิงสาวรายนี้มาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป