กรณีตำรวจลักษณะเมากร่าง ชักปืนขู่คู่กรณี ที่หน้าร้านส้มตำ ในจังหวัดกำแพงเพชร ล่าสุดผู้การฯพิษณุโลกสั่งสอบวินัยร้ายแรงแล้ว

อำเภอไทนงาม จังหวัดกำแพงเพชร ขณะนั้นได้มีชายวัยรุ่นใส่เสื้อสีเหลืองขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านส้มตำเพื่อซื้อของ ในจังหวะที่ยังไม่ทันจอดรถก็ถูกชายที่ใส่เสื้อลายสก๊อต เดินตรงเข้าไปหาแล้วกระชากคอเสื้อ “มึงสายไหน” “มาซื้อหรือมาส่งยาบ้า” แต่ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวไม่ทันตอบ ก็ถูกชกไปที่หน้า 1 ครั้ง ทำให้รถล้ม ชายวัยรุ่นจึงวิ่งเข้าไปในร้านส้มตำ

ในภาพยังเห็นผู้ชายอีกคนเดินออกมาห้าม แต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกค้ายาบ้าด้วย พร้อมกลับเดินไปที่รถนำอาวุธปืนยาว ออกมาข่มขู่ หลังจากนั้นชายที่ใส่เสื้อลายสก๊อตก็อ้างว่าตัวเองเป็นตำรวจ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหน้าร้านส้มตำ อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร พบนายสุทธา เจ้าของร้านส้มตำ บอกว่า ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจขับรถกระบะมาจอดหน้าร้าน มาดื่มกินอยู่ที่บ้านฝั่งตรงข้ามร้าน ต่อมาผู้ก่อเหตุเดินกลับมาที่หน้าร้านด้วยอาการมึนเมา แล้วขี่รถมอเตอร์ไซค์ของลูกค้าในร้านออกไป คนในร้านจึงช่วยกันตะโกนเรียก ผู้ก่อเหตุจึงเกิดความไม่พอใจ เลี้ยวรถกลับมาแล้วถามว่าพวกตนค้ายาบ้าใช่หรือไม่ และอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ต่อมามีชายวัยรุ่นขี่รถมาซื้อของที่ร้าน แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และนำอาวุธปืนออกมาขู่

ด้านน๊อต วัยรุ่นที่สวมเสื้อสีเหลืองที่ถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณคิ้วปูดโน ต้นคอด้านหลังมีรอยมีดจี้ ได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว พร้อมบอกว่า ตนเองมาจอดรถจะมาซื้อของ อยู่ๆ ผู้ก่อเหตุก็เข้ามาทำร้ายตนโดยไม่มีสาเหตุ และไม่ได้รู้จักกันมาก่อน โดยผู้ก่อเหตุถามว่า “มึงสายไหน” แต่ตนเองไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด เขาก็เข้ามาทำร้ายร่างกายทันที

ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งว่า หลังจากก่อเหตุที่อำเภอไทรงามแล้ว ตำรวจนายดังกล่าวยังได้ขับรถชนกับรถของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอลานกระบือ จึงได้เดินทางไปสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สภ.ลานกระบือ โดย ผู้กำกับ สภ.ลานกระบือ เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 21 กันยายน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถชนที่หน้าป้อมจราจรวัดแก้ว อำเภอลานกระบือ

จากการตรวจสอบ พบว่าชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจตามคลิป เป็นตำรวจจริง ชื่อคือ พลตำรวจโท ยสพนต์ พวงทอง อายุ 48 ปี สารวัตรหัวหน้า สภ.ชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

ขณะที่ พันตำรวจเอก ทรงพล สังข์เกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพิษณุโลก ได้มีคำสั่งให้ พันตำรวจโท ยสพนต์ มาช่วยราชการที่ ศปก.ตำรวจภูธร จังหวัดพิษณุโลก จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้รายงานผลภายใน 7 วัน ส่วนอาวุธปืนที่ปรากฏนั้น ทราบว่าเป็นชนิดอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจม จึงยึดมาเก็บเอาไว้ที่ภูธรจังหวัดพิษณุโลกแล้ว