หลังการประชุม การแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ส่งออก" ผ่านระบบ ZOOM ร่วมกับทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ ผู้ประกอบการด้านขนส่งโลจิสติกส์ รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 50601 ชั้น 6 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ วันนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับด่านชายแดนและผ่านแดนเพื่อส่งเสริมการส่งออกผลไม้ขนาดนี้ และได้มีการเปิดเผยข้อมูลการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 2564 ประจำเดือนมิถุนายน

ดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การแก้ปัญหามังคุดนั้นจะช่วยให้การส่งมังคุดไปยังประเทศจีนคล่องตัวสะดวกขึ้นจะมีผลต่อตัวเลขการส่งออก โดยเฉพาะตัวเลขการค้าชายแดนและข้ามแดนในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้นดีมาก คือ การค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนของไทยสามารถทำรายได้เข้าประเทศถึง 92,646 ล้านบาท +55.77% โดยมีมูลค่ารวม 146,094 ล้านบาท + 41.68% "

โดยการค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียนั้นมีมูลค่ารวม 24,849 ล้านบาท +15.33% ลาว 17,894 ล้านบาท +18.40% เมียนมา 17,139 ล้านบาท +31.79% และกัมพูชา 13,494 ล้านบาท +20.99% ส่วนจีนซึ่งถือเป็นการค้าข้ามแดนสามารถทำรายได้ถึง 35,740 ล้านบาท +86.56% สิงคโปร์ 10,158 ล้านบาท +81.65% เวียดนาม 6,082 ล้านบาท +16.91% ตามลำดับ โดยทำรายได้รวมกัน 146,094 ล้านบาทขยายตัวในภาพรวม 41.68%

สิ่งสำคัญที่ทำให้ขยายตัวคือ 1.การทำงานร่วมกันกับภาคเอกชนระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับเอกชนในรูป กรอ.พาณิชย์เมื่อมีปัญหาลงไปช่วยกันแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที 2.มีการทำเป้าหมายร่วมกันว่าจะเร่งเปิดจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้การค้าชายแดนคล่องตัวขึ้น โดยเมษายน 63 ถึง มิถุนายนปีนี้ จากที่เปิดด่าน 25 ด่านเพราะติดปัญหาโควิด สามารถเปิดเป็น 44 ด่านซึ่งมีส่วนช่วยทำให้การค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนคล่องตัวขึ้น และมีเป้าหมายกับภาคเอกชนในการเปิดด่านเพิ่มอีก 11 ด่านโดยมีด่านบ้านปากแซง ที่จังหวัดอุบลราชธานีได้ลงไปกับภาคเอกชนหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้มีการลงนาม MoU ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและแขวงสาละวัน มีความเป็นไปได้สูงในการเปิดด่านร่วมกัน

อย่างไรก็ตามรายงานกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าด้านตัวเลขการค้ารวมครึ่งปีแรก 2564 นั้นแตะ 800,000 ล้านบาท +31.21% โดยอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เดินหน้าตามนโยบายเน้นการจับมือทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับเอกชนในรูปแบบของ กรอ.พาณิชย์ มีการหารือกันบ่อยครั้งและเดินหน้าเร่งรัดการเปิดจุดผ่านแดนตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์จนสามารถเปิดเพิ่มขึ้นได้

นอกจากนั้นยังนำคณะลงพื้นที่ผลักดันการเปิดจุดผ่านแดนหลายแห่งโดยการนำของนายจุรินทร์ซึ่งล่าสุดนั้นได้สัญจรชายแดนจังหวัดอุบลราชธานีตรงข้ามกับแขวงสาละวันของ สปป.ลาว และในวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2564 นี้จะมีการจัดประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดด้าน สปป.ลาวต่อเนื่องกันด้วย นอกจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังสั่งการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระทรวงพาณิชย์ภายใต้โครงการ"จับคู่กู้เงิน" สถาบันการเงิน กับ SMEs ส่งออก ที่จับมือร่วมกับ Exim Bank ในการปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่องและเงินหมุนเวียนผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก อย่างไรก็ตามรายงานจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่ามูลค่าการค้าชายแดนผ่านแดนของไทยปี 2564 ยังมีแนวโน้มที่ดีและคาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ 3-6%ตามเป้าที่ตั้งไว้