มติรัฐสภาตีตกร่าง 12 ฉบับ ให้ผ่านฉบับเดียว "รื้อระบบเลือกตั้ง" ตามที่ ปชป.เสนอ

เลือกตั้งและการเมือง

มติรัฐสภาตีตกร่าง 12 ฉบับ ให้ผ่านฉบับเดียว "รื้อระบบเลือกตั้ง" ตามที่ ปชป.เสนอ

โดย pattraporn_a

24 มิ.ย. 2564

100 views

ที่ประชุมรัฐสภา ยังอยู่ในระหว่างลงมติร่างรัฐธรรนูญ ซึ่งจากคะแนนล่าสุด คาดว่าจะมีเพียงฉบับเดียวที่ผ่านการพิจารณา คือร่างที่ 13 เสนอแก้ไขระบบเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์


ที่ประชุมรัฐสภา ใช้เวลาลงมติร่างรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ ตั้งแต่เวลา 17 นาฬิกา จนถึงเวลานี้กว่า 5 ชั่วโมงแล้ว ผลการลงมติ พบว่า มี 1 ร่าง ที่ผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 คือ ร่างฉบับที่ 13 ที่เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ ประเด็นระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ เนื่องจากมีเสียงของ ส.ว.ร่วมเห็นชอบด้วย ส่วนอีก 12 ร่าง เสียง ส.ว.ไม่ถึง 84 เสียง และ ส.ว.ส่วนใหญ่งดออกเสียง จึงทำให้มีเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ไม่ผ่านความเห็นชอบ


สำหรับร่างของพรรคพลังประชารัฐ ที่คาดหมายว่าจะผ่านความเห็นชอบ แต่กลับไปผ่าน เพราะ ส.ว.ส่วนใหญ่ แสดงท่าทีชัดเจน และอถ้ปรายอย่างดุเดือด ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข มาตรา 144 และ มาตรา 185 และได้งดออกเสียง และยังมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในช่วงต้น งดออกเสียงด้วย แต่มาในช่วงหลัง ที่คะแนนมีแนวโน้มจะไม่ผ่าน ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลงมติรับหลักการทุกฉบับ รวมทั้งร่างที่เกี่ยวกับการตัดอำนาจ ส.ว.ด้วย


ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย รับหลักการทุกร่าง ยกเว้นพรรคก้าวไกล ที่ไม่รับหลักการ ร่างของพรรคพลังประชารัฐ งดออกเสียงร่างแก้ไขระบบเลือกตั้ง 2 ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย รับหลักการ 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการปิดสวิตซ์ ส.ว.


พรรคประชาธิปัตย์ รับหลักการทุกฉบับ ส่วนพรรคภูมิใจไทย งดออกเสียงร่าง 1 ของพรรคพลังประชารัฐ และร่างที่ 13 บัตรเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา งดออกเสียง ปิดสวิตซ์ ส.ว.ทั้ง 2 ฉบับ และพรรครวมพลังชาติไทย ไม่รับหลักการ ทุกฉบับ เนื่องจากมีจุดยืนไม่เห็นด้วยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560


จากคะแนนพบว่า ร่างที่ 13 ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสียงของรัฐสภาอย่างท่วมท้น จากการนับคะแนนเมื่อเวลา 22.12 น. มีการลงมติรับหลักการไปแล้ว 454 เสียง เป็นเสียง ส.ว. 165 เสียง มากกว่าเสียงกึ่งหนึ่ง 366 เสียง จากสมาชิกรัฐสภา 733 คน


ส่วนอีก 12 ฉบับยังไม่ผ่าน เนื่องจากเสียงของ ส.ว. ไม่ถึง 84 เสียง ตามเงื่อนไข แต่ในจำนวน 12 ฉบับที่เหลือ มี 6 ฉบับ ที่ผ่านเสียงข้างมากในรัฐสภาแล้ว โดยเฉพาะ ฉบับท่ 4 และ ฉบับที่ 11 ประเด็นปิดสวิตช์ ส.ว. ของพรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ มี ส.ว. ลงมติตัดอำนาจ ตัวเอง 13 คน และฉบับของพรรคประชาธิปัตย์ ส.ว. 17 คน


สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้รับความเห็นชอบ ครั้งนี้ เป็น 1 ใน 6 ฉบับที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ โดยเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไข มาตรา 83


มาตรา 83 ให้ ส.ส.มีจำนวน 500คน มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 400คน และมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ100 คน จากที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนด ให้ ส.ส.เขต 350 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ150 คน โดยเป็นการเพิ่มจำนวนเขตเลือกตั้ง และเป็นเลือกตั้งแยกระหว่างเลือกคน กับการเลือกพรรค แบบรัฐธรรมนูญปี 2540หรือ2550 ซึ่งส่งผลให้เกิดการเลือกตั้งแบบบัตร2 ใบ


มาตรา 91 ยกเลิกวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของรัฐธรรมนูญ 2560 กลับไปใช้วิธีการคำนวณที่สอดคล้องกับรูปแบบบัตร 2ใบ กำหนดให้ นำคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคได้รับทั่วประเทศ มาคำนวณเพื่อจัดสรรที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค


แต่ระบบเลือกตั้งนี้ ถูกอภิปรายไม่เห็นด้วย ทั้งจาก สมาชิกวุฒิสภา และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่มองว่าจะเป็นการเพิ่มเขตเลือกตั้ง ทำให้สัดส่วนพื้นที่ถูกทำให้มีขนาดเล็กลง เอื้อต่อระบบพรรคการเมืองใหญ่ที่มีอิทธิพล และอาจกระทบต่อพรรคการเมืองเล็กที่ไม่ได้เป็นเจ้าของพื้นที่ เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศมาตลอดว่าร่วมเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ด้วยระบบที่อาจส่งผลต่อจำนวน ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ทำให้การลงมติวันนี้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยส่วนใหญ่ งดออกเสียง

คุณอาจสนใจ

Related News