ครอบครัววอน 'กรมอุทยาน' ปล่อย 'ก็อตซิลลา' กลับบ้าน หลังหมอลงความเห็นปล่อยป่าไม่ได้ เหตุป่วยเบาหวาน

สังคม

ครอบครัววอน 'กรมอุทยาน' ปล่อย 'ก็อตซิลลา' กลับบ้าน หลังหมอลงความเห็นปล่อยป่าไม่ได้ เหตุป่วยเบาหวาน

โดย pichaya_s

18 มิ.ย. 2564

4.2K views

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าตรวจยึด เจ้าก็อตซิลล่า ลิงแสมอ้วนวัยกว่า 3 ปี ที่มีน้ำหนักถึง 22 กก. จากเจ้าของในตลาดย่านมีนบุรี และถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา เพื่อทำการรักษาด้วยการปรับโภชนาการและออกกำลังกาย ก่อนที่ ในเวลาต่อมาจะมีกระแสข่าวว่าจากการตรวจร่างกายของเจ้าก็อตซิลล่า เจ้าก็อตซิลล่า มีโรคประจำตัวคือ โรคไทรอยด์ และ Cushing Syndrome คือ ภาวะร่างกายอาจผลิตสเตียรอยด์ ออกมามากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะอ้วน หน้ากลม รวมทั้งเวลานี้ ยังมีภาวะโรคเบาหวานเข้ามาแทรกอีกด้วย


ทีมข่าวช่อง 3 ไปสอบถามกับ สพ.ญ. กมลลักษณ์ วิลาศรี สัตวแพทย์เจ้าของไข้ที่ดูแลเจ้าก็อตซิลล่า อยู่ในขณะนี้ โดย สพ.ญ. กมลลักษณ์ ระบุว่า ตอน แรกทางทีมแพทย์หลังรับตัวเจ้าก็อตซิลล่า ก็มีการวางแผนว่าจะดำเนินการลดน้ำหนักให้ได้อย่างน้อย 5 กิโลกรัมก่อนที่จะดำเนินการเข้าสู่ขั้นตอนเอาไปปรับตัวในกรงขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้และเริ่มขั้นตอนการนำลิงตัวอื่นเข้ามาให้ก็อตซิลล่าปรับตัว เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งกลับคืนสู่ป่าแต่ขณะนี้หลังจากมีการรับตัวมาเป็นเวลากว่าสามเดือนซึ่งทางโรงพยาบาลมีการคุมน้ำหนักของเจ้าก็อตซิลล่า


โดยการคุมอาหารรวมถึงการออกกำลังกายที่ทางเจ้าของจะเดินทางมาในช่วงเช้าและช่วงเย็นของทุกวันเพื่อมาช่วยทีมสัตวแพทย์ ดูแลเจ้าก็อตซิลล่า ทั้งการเดินและการว่ายน้ำแต่ปรากฏว่าสามารถลดน้ำหนักได้เพียงสามกิโลจึงมีการตรวจร่างกายซ้ำอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุจนพบว่าก็อตซิลล่า โรคประจำตัวคือ โรคไทรอยด์ และ Cushing Syndrome ซึ่งเป็นโรค ที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด ไม่ใช่เกิดตากการเลี้ยงดูของเจ้าของ และการป่วยด้วยโรคแบบนี้


จากเอกสารการแพทย์ ทั่วโลกพบว่ามีปรากฏครั้งแรกเมื่อปี 1999 ที่สหรัฐอเมริกา และมาพบที่ไทยในครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง และเป็นครั้งแรกของประเทศ ซึ่งการรักษาต้องใช้การเอาใจใส่ และการเลี้ยงดูป้อนยา อาหาร และตรวจเลือดบ่อยๆเพื่อตรวจสอบอาการซึ่งจะต้องดูแลพไปตลอดชีวิต ที่คาดว่าอยู่ได้อีก 5-6 ปี ต่อจากนี้ ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้นอกจากเจ้าของ ที่เต็มใจเลี้ยงดู ดูแลรักษา และสามารถเข้าถึงตัวก็อตซิลล่า ได้โดยที่ก็อตซิลล่า จะไม่เกิดความเครียด เพิ่มเติม


ดังนั้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาล จึงได้มีการจัดทำหนังสือชี้แจงรวมถึงแนบผลการตรวจร่างกายไปให้ทางกรมอุทยานโดยหนังสือมีการระบุความเห็นของทางคณะแพทย์ว่าเห็นควรส่งเจ้าก็อตซิลล่า กลับไปให้เจ้าของดูแลและรักษาตลอดอายุที่เหลืออยู่แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากทางกรมอุทยานจึงยังไม่มีความชัดเจนว่าการดำเนินการต่อจากนี้จะต้องดำเนินการอย่างไร


ในส่วนของการเลี้ยงดูเจ้าก็อตซิลล่าในขณะนี้ แบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนของอาหารการกินจะเป็นทางเจ้าของดำเนินการจัดหาและนำมาป้อนให้กับก็อตซิลล่า ด้วยตัวเองของทุกวันส่วนเรื่องที่อยู่การรักษาหรือการตรวจใดใดเป็นหน้าที่และภาระในการจ่ายของทางโรงพยาบาลที่เต็มใจช่วยเหลือ แต่ก็อยากให้ทางกรมอุทยานมีความชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเพราะหากพูดถึงความจำเป็นของตัวก็อตซิลล่าก็เชื่อว่าการอยู่กับเจ้าของจะเป็นผลดีมากกว่า การส่งกลับไปอยู่ป่าหรืออยู่ในความดูแลของคนอื่นเพราะก็อตซิลล่าเองจะเกิดความเครียด


ขณะที่ นายมานพ เอ็มสรรค์ และ นางรำพึง เอ็มสรรค์ สอง ตายายที่ดูแลก็อตซิลล่า มานานกว่าสี่ปี ระบุว่าส่วนตัวทางครอบครัวทุกคนคิดถึงก็อตซิลล่าอย่างมากเมื่อทราบว่าก็อตซิลล่า ป่วยด้วยโรคประจำตัวที่มีภาวะทำให้อ้วนกว่าปกติก็ยิ่งเป็นห่วงซึ่งก่อนหน้านี้ทางหมอก็ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับอาการของก็อตซิลล่า ซึ่งทางครอบครัวยินดีที่จะเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูและรักษาก็อตซิลล่า ไปตลอดช่วงอายุของก็อตซิลล่า จึงอยากขอทางกรมอุทยานช่วยเห็นใจทั้งตัวก็อตซิลล่า และทางครอบครัวตนที่มีความผูกพันกันอย่างมาก


นอกจากนี้นายมานพ ยังระบุว่า เมื่อย้อนไปเมื่อครั้งที่ตนเองเจอก็อตซิลล่า ที่ขณะนั้นเข้าใจว่าแม่ของก็อตซิลล่า ถูกรถชนตายที่บริเวณถนนหทัยราษฎร์ซึ่งตนเองขับผ่านด้วยความสงสารจึงช่วยเหลือเจ้าก็อตซิลล่า ไว้และขณะนั้นได้มีการพยายามติดต่อโดยการโทรศัพท์สอบถามไปยังกรมอุทยานว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปกับก็อตซิลล่า ซึ่งขณะนั้นได้รับคำตอบว่าให้เลี้ยงดูไปอย่าปล่อยให้ไปกัดใครคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่พอมาถึงตอนนี้กลับบอกว่าตนเองไม่สามารถเลี้ยงก็อตซิลล่า ได้เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าทั้งทั้งที่ก็อตซิลล่า ก็ใช้ชีวิตมาร่วมกับตนเองและครอบครัวรวมถึงเดินทางมาขายของ ร่วมกับครอบครัวตนเองที่ตลาดมินบุรีทุกวันตลอดระยะเวลาสี่ปีก็ไม่เคยมีปัญหาไปกัดหรือทำร้ายใคร


ทั้งนี้ก็อตซิลล่าเองก็เป็นที่รักของคนในตลาดเป็นอย่างดีจึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานเข้าใจและเห็นใจครอบครัวตนส่งคืนก็อตซิลล่า มาให้ตนดูแลต่อ ซึ่งตลอดการสัมภาษณ์และการพูดคุยกับเจ้าของก็อตซิลล่า ทีมข่าวพบว่าประชาชนที่เดินผ่านไปผ่านมามักจะสอบถามนายมานพและ นางรำพึง เจ้าก็อตซิลล่า กลับมาหรือยังเพราะทุกคนคิดถึงอยากเล่นด้วยอยู่เป็นในระยะๆ

คุณอาจสนใจ

Related News