ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลสำรวจ ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย ในปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ครัวเรือนยังมีความกังวลต่อรายได้ และการจ้างงาน ขณะที่เงินออมมีแนวโน้มลดลง

โดยการออมเงินในเดือนพฤษภาคม ลดลงจากเดือนก่อนหน้าถึง 54.9% เพิ่มขึ้นจากก่อนเกิดการระบาดในระลอกที่ 3 (เดือนมี.ค.) ที่ 43.9%

นอกจากนี้ผลสำรวจ ยังระบุว่า ระดับเงินออมในปัจจุบันของครัวเรือนในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ (20.5%) จะสามารถใช้ดำรงชีวิตได้โดยไม่เดือดร้อนมาก เป็นระยะเวลา 3 เดือน ขณะที่ในต่างจังหวัด (19.1%) ได้อีกแค่ 1 เดือนเท่านั้น

ซึ่งคาดว่าเกิดจากผลกระทบจากโควิด-19 ในระลอกที่สาม ที่เข้ามากระทบฐานะการเงินของครัวเรือน ซ้ำเติมจากระลอกที่หนึ่งและระลอกที่สอง ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่าย มีการงดการทานอาหารที่ร้าน / สั่งอาหารออนไลน์ลดลง เปลี่ยนเป็นทำอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคมีเงินในกระเป๋าน้อยลงกว่าเดิม

โดยกสิกรไทย ระบุว่า “วัคซีน” จะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญให้สถานการณ์กลับมาดีขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงรอยต่อระหว่างที่สถานการณ์ยังไม่สิ้นสุด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จึงยังมีความจำเป็นที่จะเข้ามาช่วยประคับประคองภาคธุรกิจและครัวเรือน