ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุญาตให้นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ประกันตัวในคดีเกี่ยวกับการตายของเด็กหญิงชมพู่ได้ โดยให้วางหลักทรัพย์เงินสด 1.8 แสนบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามหลบหนี ห้ามยุ่งเกี่ยวพยาน ขณะที่ทนายความนายไชย์พล ยังติดใจและจะฟ้องกลับตำรวจที่ขอหมายจับ และที่ลงนามในบันทึกจับกุมนายไชย์พล ใส่กุญแจมือ ระหว่างไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทนายอ้างว่า นั่นเป็นการไปเพื่อมอบตัว จึงไม่ใช่การถูกจับกุม

หลังใช้เวลารวมเกือบ 10 ชั่วโมง เพื่อไต่สวนคำร้องฝากขังนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ในคดีที่ถูกตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนักพัวพันการตายของเด็กหญิงชมพู่วัย 3 ขวบ ท่ามกลางการยื่นคัดค้านประกันของตำรวจและครอบครัวน้องชมพู่ แต่ที่สุด ศาลพิจารณาให้ประกันตัวได้ โดยกำหนดหลักทรัพย์เงินด 1.8 แสนบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามมหลบหนี ห้ามข่มขู่พยาน หรือยุ่งเหยิงกับหลักฐานในคดี ห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนการได้รับอนุญาต และศาลตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านกกอก เป็นผู้กำกับดูแลให้เป็นไปตามเงื่อนไข และนายไชย์ต้องรายงานตัวต่อศาลตามกำหนด โดยใช้วิธีออนไลน์จากบ้านกกกอกได้ ภายใต้การกำกับของผู้ใหญ่บ้าน หากผิดเงื่อนไข อาจถุกร้องถอนประกัน

โดย นายไชย์พล ยืนยันว่าเขาทำตามเงื่อนไขได้ และเขาไม่เคยข่มขู่คนที่ถูกระบุว่าเป็นพยานแต่อย่างใด

ทนายความของนายไชย์พล อ้างว่าระหว่างไต่สวนฝากขังวันนี้ พยานที่คัดค้านประกันตัวอยมรับต่อศาลว่าไม่เคยถูกนายไชย์พลข่มขู่ และทนายความระบุว่าตำรวจก็ให้การว่า นายไชย์พล ไม่มีพฤติการจะหลบหนี ซึ่งเป็นมูลเหตุให้ต้องขอหมายจับ นั่นทำให้ทนายความระบุว่าเขาจะฟ้องกลับพนักงานสวน ที่ลงนามขอหมายจับ เพราะกล่าวเท็จต่อศาลว่านายไชย์พลจะหลบหนี รวมถึงดำเนินคดี ตำรวจที่ลงชื่อบันทึกจับกุมนายไชย์พล ขณะไปมอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

ส่วน นางสาวิตรี วงษ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ที่มาร้องคัดค้านการประกันตัว เปิดเผยสั้นๆว่า ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อประเด็นดังกล่าว

วันนี้ นายไชย์พล เดินทางกลับบ้านกกกอก ขณะที่ตำรวจมีเวลาอีกราว 80 กว่าวัน สำหรับเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องศาล เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ข้อกล่าวหาให้สิ้นข้อสงสัยว่าเด็กหญิงชมพู่ ถูกฆาตกรรม โดยคนที่มีฐานะเป็นลุงเขยของเธอหรือไม่.