การพิจารณางบประมาณ ปี 2565 วันที่ 2 ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ยังอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ในประเด็นว่าไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหา โดยเฉพาะงบประมาณกระทรวงสาธารณสุข ที่ส.ส.ภูมิใจไทย ก็อภิปรายแสดงความไม่พอใจต่อการตัดลดงบดังกล่าวที่มีความสำคัญ ส่วนนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทำงบประมาณไว้เหมาะสม และความเข้าใจกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแล้ว

(1 มิ.ย.) วันที่ 2 ของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ปี 2565 ยีงคงมีการจับตาไปที่ท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ที่ ส.ส.ของพรรค อภิปรายไม่พอใจการจัดสรรงบประมาณกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาชี้แจงว่า สามารถชี้แจงรายละเอดียดได้ทุกเรื่อง และได้ทำความเข้าใจกับนายอุนทิน ชาญวีรกูล รองนายกรับมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว แม้ว่างบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขจะถูกตัด แต่ก็มีเงินทดแทนส่วนอื่น โดยเฉพาะเงินกู้ก้อนแรก 45,000 ล้านบาท ก็นำมาให้กับกระทรวงสาธารณสุขกระทรวงเดียว ขณะเดียวกันายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล

สำหรับการอภิปรายงบประมาณ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เช่นนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ต่างอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณในส่วนกระทรวงสาธารณสุข ที่ตั้งคำถามไปถึงสำนักงบประมาณ ทั้งๆที่กำลังทำสงครามกับโรคระบาด ที่เป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับตัดงบประมาณไปกว่า 4,300 ล้านบาท โดยกรมควบคุมโรคถูกตัดงบไปกว่า 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่น นายขจิตร ชัยนิคม ยังได้อภิปรายไม่สามารถรับหลักการร่างบประมาณฉบับนี้ได้ และยังเรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างนี้อออกไป ถ้าไม่ถอน ก็ให้นายกรัฐมนตรี ออกไป ก็ยิ่งดี

ทำให้ พลเอกประยุทธ์ ที่ฟังการอภิปรายอยู่นั้น ต้องยกมือเพื่อขอชี้แจง โดยย้ำว่าร่างงบประมาณปี 65 ได้ผ่านการไตร่ตรอง คัดกรอง อย่างเจ้มงวดมาแล้ว โดยเฉพาะการจัดการโรคโควิด ทั้งบริหารเตียง โรงพยาบาลสนาม และปรับการบริหารฉีดวัคซีน ที่มีเวลา 7 เดือน ตั้งแต่มิถุนายนถึง ธันวาคม หากเราสามารถจัดหามาได้ 10 ล้านโดส จะคุ้มครองคนได้ 70 ล้านคน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข กำลังจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่นเพิ่มเติม เป็นไปตามแผนแน่นอน โดยใช้งบจาก พ.ร.ก.เงินกุ้ และงบกลาง รวมทั้งย้ำว่า ไม่ได้ใช้อำนาจ ศบค.แต่เพียงผู้เดียว และไม่ได้ทำงานแบบ เอาแต่ใจ และชี้แจงถึงการบริหารหนี้สาธารณะ ที่ถึงขั้นถอนหายใจกลางที่ประชุม ย้ำว่า ได้ใช้หนี้จำนำข้าวไปจำนวนมากแล้ว

ทางด้าน นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการจัดทำงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ควรที่จะมีการลด ตัด เลื่อน โดยเฉพาะงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์แบบปีเดียว และแบบผูกพันข้ามปี หากมีการลดตัดเลื่อนงบจัดซื้ออาวุธยุทธโทรปกรณ์จะสามารถตัดลดงบประมาณได้ถึง 29,414 ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นงบฟื้นฟูประเทศ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะยังมี ประชาชนมากมาย และ ผู้ประกอบการ ยังคงไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมถึงผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยว การหดตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และยังกล่าวถึงการจัดทำงบประมาณที่ไม่เหมาะสมระหว่างบกลาโหมกับสาธารณะสุข ก็ได้แต่หวังว่าภรรคภูมิใจไทยจะไม่ทำตัวเป็นเด็กงอแอ จนทำให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยต้องลุกมาประท้วงให้ถอนคำพูด

ในขณะที่ นายอุนทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงกรณีไม่มีงบวัคซีนในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 65 นั้น รัฐบาลได้อนุมัติผ่านงบเงินกู้ และงบกลาง โดยมีค่าเสี่ยงภัยให้กับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข และย้ำว่ารัฐบาลดูแลผู้ป่วยโควิด ทุกคน ทุกชาติอย่างเท่าเทียม

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงค่าใช้จ่ายการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ในปี 2563 และปี 2564 รวมทั้งสิ้น 21,134 ล้านบาท และโดยใช้งบกลาง 11,346 ล้านบาทจากงบเงินกู้ 9,877 ล้านบาท โดยยืนยันว่า ไม่ต้องการให้คนไทยต้องเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว เพราะรักประชาชน และบริหารให้เกิดความทั่วถึงทุกพื้นที่