สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอินเดีย วันนี้กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในช่วง 24 ที่ผ่านมา สูงถึง 349,691 คน นับเป็นวันที่ 4 แล้วที่อินเดียมีสถิติมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในโลก ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อรวมสะสมทั่วประเทศ มีจำนวนเกือบ 17 ล้านคน ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2,067 คน รวมสะสม 192,311 คน

โดยเฉพาะที่กรุงนิว เดลี เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ต้องเผชิญการแพร่ระบาดหนักและรุนแรงมากที่สุด ล่าสุด ทางการได้ออกมาประกาศขยายระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ ขณะที่ชาวอินเดีย หลายคนรู้สึกสิ้นหวังกับระบบสาธารณสุขที่ส่อสลาย เนื่องจากผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ไม่มีเตียงและออกซิเจน ทำให้ผู้ป่วยหลายคนนอนเสียชีวิตกันบริเวณริมทางเท้า ขณะที่คนงานที่ทำงานอยู่ที่เมรุเผาศพ ก็ต้องทำงานกันตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตส่งเข้ามากันอย่างต่อเนื่อง ด้านสหรัฐอเมริกา ออกมาแสดงความวิตกกังวลกับสถานการณ์ในอินเดีย และประกาศว่าจะมอบความช่วยเหลือให้กับทางรัฐบาลอินเดียเพิ่มเติม

ขณะที่หลายประเทศ มีมาตรการคุมเข้มห้ามผู้เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ หวั่นเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย เช่น เยอรมนี มีคำสั่งห้ามผู้ที่เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ ยกเว้น พลเมืองของเยอรมนี ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. เช่นเดียวกันกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีคำสั่งระงับเที่ยวบิน ที่จะเดินทางไปและกลับจากอินเดีย เป็นระยะเวลา 10 วัน มีผล 26 เม.ย. จนถึง 4 พฤษภาคม จนถึงขณะนี้ มีหลายประเทศแล้วที่มีคำสั่งห้ามผู้เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร, แคนาดา, คูเวต, และอิหร่าน ส่วนสิงคโปร์ เพิ่มระยะเวลากักตัวผู้ที่มาจากอินเดีย จาก 14 วัน เป็น 21 วัน

ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่น บรรยากาศในกรุงโตเกียว, โอซาก้า, เกียวโต, และเฮียวโงะ เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังจากที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ห้างสรรพสินค้า, บาร์, โรงภาพยนตร์ ต้องปิดให้บริการ ก่อนหน้าที่จะถึงช่วงเทศกาลหยุดยาว หรือ โกลเด้น วีค ในต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะมีประชาชนออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน มีรายงานรัฐบาลญี่ปุ่น เตรียมเปิดศูนย์การฉีดวัคซีนขนาดใหญ่เพิ่มอีกหลายแห่ง ในพื้นที่กรุงโตเกียว และโอซาก้า ภายในเดือนหน้า เพื่อเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน คาดว่าจะสามารถฉีดได้ 1 หมื่นคนต่อวัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการฉีดให้กับผู้สูงอายุและบุคคลากรทางการแพทย์ไป โดยคาดว่าจะใช้เวลา ไปจนถึงช่วงเดือนธันวาคมหรือ กุมภาพันธ์ปีหน้า จึงจะสามารถฉีดให้กับประชากรส่วนใหญ่ได้

ส่วนที่อิรัก เกิดเหตุไฟไหม้ที่โรงพยาบาลอัล กาติบ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด นายน์ทีน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงแบกแดด เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 82 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน เบื้องต้น สันนิษฐานว่าสาเหตุมาจากถังออกซิเจนระเบิด ทำให้เกิดประกายไฟ ที่บริเวณชั้นสองของโรงพยาบาล จากนั้นลุกลามลามอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุมีผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 120 คน โดยเป็นผู้ป่วยหนัก 30 คน พนักงานดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ด้านนายกรัฐมนตรีสั่งให้มีการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั่วโลกอยู่ที่ 147,091,849 คน , เสียชีวิตกว่า 3,113,284 คน และรักษาหาย 125,094,560 คน