ชาวกะเหรี่ยงหวาดกลัวถูกกดดันกลับรัฐ ผู้นำ KNU เรียกร้องเมียนมา หยุดขวางช่วยผู้ลี้ภัย

อาชญากรรม

ชาวกะเหรี่ยงหวาดกลัวถูกกดดันกลับรัฐ ผู้นำ KNU เรียกร้องเมียนมา หยุดขวางช่วยผู้ลี้ภัย

โดย nicharee_m

24 เม.ย. 2564

87 views

สถานการณ์การสู้รบในรัฐกะเหรี่ยง ต่อเนื่องมากว่าสามสัปดาห์ ทำให้ประชาชนยังหวาดกลัว หลบหนีอยู่ในป่าเขา และริมน้ำสาละวิน ที่ล่าสุดถูกผลักดันกลับรัฐกะเหรี่ยงแล้ว แต่ยังไม่มั่นในในความปลอดภัย จึงคาดหวังการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ขณะที่ผู้นำ KNU เรียกร้องให้ทหารพม่า หยุดขัดขวางการส่งสิ่งของช่วยเหลือผู้อพยพ ด้วยการยิงเรือบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือในแม่น้ำสาละวิน


หญิงชาวกะเหรี่ยงคนนี้ อุ้มลูกน้อยวัยเพียง 4 วัน ด้วยความเป็นห่วง หลังพาลูกข้ามแม่น้ำสาละวินจากฝั่งไทย กลับมายังบ้านแม่หนึท่า รัฐกะเหรี่ยง ในเช้าวันที่ 22 เมษายน เด็กน้อยที่เกิดริมแม่น้ำสาละวินฝั่งไทย ในขณะที่แม่ต้องหนีภัยการสู้รบมาพร้อมกับชาวกะเหรี่ยงจากเมืองเดปูโน่ว นับตั้งแต่กองทัพพม่า โจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดด้วยเครื่องบินรบตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์แล้ว จากผู้อพยกว่า 1 พันคนในจุดนี้ ยังมีเหลือกว่า 500 คนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็ก และคนชรา


แต่ล่าสุดทหารไทยขอให้เดินทางกลับ หากมีเหตุสู้รบให้กลับมาใหม่ได้ แต่พวกเขายังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะยังมีโดรนและเครื่องบินรบของทหารพม่าบินอยู่อย่างต่อเนื่อง การอพยพเด็ก คนชรา รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ที่มีกว่า 40 คน ไม่ใช่เรื่องง่าย นี่จึงเป็นเหตุผลที่คณะกรรมการผู้พลัดถิ่นชาวกะเหรี่ยง ถึงกับน้ำตาคลอ เมื่อพูดถึงชะตากรรมที่ผู้อพยพต้องกลับมาเผชิญกับความตาย เธอจึงอยากให้รัฐบาลไทย เห็นใจผู้อพยพที่ขอเพียงที่พักพิงที่ปลอดภัยชั่วคราวเท่านั้น


ขณะที่ชาวบ้านกลุ่มนี้ก็อพยพมาจากฝั่งไทย แต่บ้านของพวกอขาอยู่ในหมู่บ้านเลเตอโข่ และหมู่บ้าน ยูวาเดอ ห่างจากริมฝั่งสาละวิน ประมาณ 10 กิโลเมตร หากต้องกลับบ้านพวกเขาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ด้วยสภาพที่มีแต่ผู้หญิง เด็ก พร้อมทั้งสิ่งของ รวมทั้งคนชรา ที่มีคุณตาอายุเกือบ 100 ปี ที่ความจำเสื่อม คุณยายอายุ 80 ปีที่เป็นอัมพฤกษ์ และสถานการณ์ที่ยังมีเสียงระเบิด ทำให้แม้จะกลับไปหมู่บ้าน แต่ยังไม่กล้าเข้าบ้าน พวกเขาคงต้องหลบหนีอยู่ในป่า ทำให้ยังคิดไม่ตกว่าจะกลับไปหรือไม่


หมู่บ้านทิโพท่า ในเมืองเดปูโน่ว ไร้ซึ่งผู้อยู่อาศัย มากว่าสามสัปดาห์แล้ว ส่วนหนึ่งอพยพไปริมแม่น้ำสาละวิน อีกส่วนหนึ่งหลบหนีอยู่ตามป่า เราพบครอบครัวหนึ่ง สร้างเพิงพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมลูกน้อย ผู้เป็นแม่บอกว่า เธอต้องอยู่ที่นี่ ท่ามกลางแดดและฝน ต้องทำกินให้เสร็จในตอนกลางวัน เพราะตอนกลางคืนห้ามใช้ไฟ ป้องกันไม่ให้เครื่องบินหรือโดรนของทหารพม่า มองเห็นได้ สิ่งที่เธอห่วงมากขณะนี้คือ อาการท้องร่วงของเด็กๆ ที่ไม่มียาเพียงพอ รวมทั้งข้าวที่กำลังจะหมดลงในไม่ช้านี้


ลุงคนหนึ่ง อพยพไปอยู่ริมน้ำสาละวินฝั่งไทยตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตัดสินใจกลับมาในหมู่บ้าน เมื่อ 4 วันก่อน แต่ยังไม่กล้าเข้าบ้าน เขาจึงกำลังสร้างเพิงพักในป่า และกำลังพยายามกลับมาทำไร่ให้ได้มากที่สุด แม้ช่วงกลางวันจะหวาดกลัวกับเสียงระเบิด เขาบอกว่าหากไม่ทำไร่เวลานี้ ปีหน้าก็จะไม่มีข้าวกิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บัญชาการกองพล 5 เป็นห่วงประชาชน ที่เห็นได้ชัดว่า การสู้รบของทหารพม่าครั้งนี้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงถือเป็นปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม ที่ต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนกับทหารกะเหรี่ยง


การทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศของทหารพม่า ยังส่งผลให้โรงเรียนสองแห่งในเมืองเดปูโน่ว เสียหาย หลังคาอาคารทิ้งลังพังลงทบโต๊ะเก้าอี้ ประตู หน้าต่างแตกจากแรงระเบิด อุปกรณ์การเรียนการสอน กองจมอยู่กับพื้น รวมถึงหน้ากากอนามัยของเด็ก จากสภาพอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู และกลายเป็นผลกระทบที่สำคัญไปถึงการศึกษาของเด็ก ที่ยังคงหลบหนีการสู้รบอยู่กับครอบครัว


การสู้รบครั้งนี้ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อ เด็กนักเรียน และครู ในพื้นที่ของ KNU ด้วย เพราะหนึ่งในพื้นที่ที่กระทบ คือวิทยาลัยครูกะเหรี่ยง Karen Teacher Training Collage ที่ตั้งอยู่ริมน้ำสาละวิน มากว่า 20 ปี ต้องปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด


สถานการณ์ที่ยังไม่แน่นอนทำให้การส่งสิ่งของช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม ยังจำเป็นต่อผู้อพยพ กว่า 1 หมื่นคน ซึ่งช่องทางเดียวที่ทำได้คือการขนส่งทางเรือผ่านแม่น้ำสาละวิน เพราะเส้นทางในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงมีฐานทหารพม่าอยู่ตามเส้นทาง การเข้าถึงขององค์กรต่างๆทำได้ยาก ซึ่งสิ่งของบริจาคของคนไทยได้ส่งมาถึงก่อนหน้านี้ ได้รับคำขอบคุณจากผู้นำ KNU แต่ล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ทหารพม่า ฐานตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ได้ยิงเรือส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ ทำให้ชาวบ้านที่รับจ้างขับเรือส่งของหวาดกลัว หากต้องแล่นเรือต้องไปแจ้งรายชื่อที่ฐานทหารพม่าด้วย


พลเอกบอจ่อแฮ คาดหวังว่าผู้นำทุกฝ่ายจะมองเห็นความสำคัญของการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ต้องมีต่อประชาชน

คุณอาจสนใจ

Related News