แม่ฉะ รร.ไร้ความรับผิดชอบ รุ่นพี่โหดอาบซีม่า ‘น้องภูผา’ อ้างแค่ทำแผลให้น้อง ผู้เชี่ยวชาญถามกลับ “ลองทาบ้างไหม?”

สังคม

แม่ฉะ รร.ไร้ความรับผิดชอบ รุ่นพี่โหดอาบซีม่า ‘น้องภูผา’ อ้างแค่ทำแผลให้น้อง ผู้เชี่ยวชาญถามกลับ “ลองทาบ้างไหม?”

โดย nicharee_m

25 มี.ค. 2564

4.7K views

วันที่ 25 มี.ค.2564 รายการโหนกระแสพูดกับ แม่น้องภูผาวัย 9 ขวบ ที่ถูกรุ่นพี่ราดซีม่าจนเป็นแผลพุพอง ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ในอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ถูกรุ่นพี่ชั้น ป.5 และ ม.4 ทำโทษที่เข้าแถวไม่เป็นระเบียบ และถูกสั่งให้วิ่ง แต่น้องภูผาวิ่งไม่ไหวเพราะเจ็บขา รุ่นพี่ทั้ง 2 คน จึงใช้ยาซีม่า จำนวน 6 ขวด ราดตามร่างกาย จนเป็นแผลพุพอง โดยเฉพาะที่ขาหนีบและอวัยวะเพศ เป็นแผลมากที่สุด ขณะนี้อาการสาหัสรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเขาพนม


นางจินตนาพร วาชะอุ้ม แม่ของน้องภูผาบอกว่า ยืนยันว่า น้องภูผา ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายอย่างแน่นอน เพราะน้องภูผาบอกว่าถูกรุ่นพี่เอาซีม่าราดใส่ตามร่างกาย ไม่ใช่เอาสำลีมาทาแผลให้อย่างที่ผู้อำนวยการโรงเรียนบอก ยอมรับตอนนี้ยังคาใจในหลายประเด็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครูที่รู้ว่าน้องภูผาเป็นแผลตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม แต่กลับไม่ยอมพาไปส่งโรงพยาบาล จนกระทั่งพี่ของน้องภูผา ที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันมาเห็น จึงยืมโทรศัพท์จากช่างที่มาทำประตู โทรศัพท์มาหาตน และตนต้องไปรับลูกจากโรงเรียนมารักษาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง


ขณะที่นายสมยศ แก้วใหญ่ ครูผู้ดูแลหอพัก บอกว่า หอพักที่น้องภูผาอยู่ จะเป็นหอพักที่มีเด็กชั้น ป.1 ถึง ป.6 พักอยู่รวมกัน รวม ประมาณ 60 คน โดยจะมีนักเรียนชั้น ม.1 ถึง ม.6 จำนวน 10 คน ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง


ทั้งนี้ จากการคุยกับพี่เลี้ยง ที่เป็นคนทาซีม่าให้น้องภูผา ทราบว่าได้ทาซีม่าให้น้องภูผาครั้งแรกวันที่ 18 มีนาคม เพราะน้องเป็นหิด จนวันที่ 20 เห็นว่าอาการดีขึ้น จึงทายาให้อีก แต่พอวันที่ 22 อาการกลับไม่ดี และในวันรุ่งขึ้น ได้ประสานเพื่อจะนำน้องภูผาไปโรงพยาบาล แต่แม่ของน้องภูผา มารับตัวไปก่อน


ด้าน รศ.ดร.วีระชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม ม.เกษตรศาสตร์ หรือ อ.อ๊อด เผยว่า เป็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจ สำหรับยาดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับยา แต่ส่วนผสมนั้นมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อนำมาทาผิวหนังจะมีผลทันที ทำให้ผิวหนังไหม้และถูกเปิด และอาจทำให้ติดเชื้อ หากร้ายแรงกว่านั้นอาจติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งข้อบ่งชี้ของการใช้ยาดังกล่าว ห้ามใช้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี และด้วยตัวยามีความเข้มข้นสูง เมื่อคูณด้วย 9 ขวด ทำให้เกิดอันตราย หากเข้าถึงเยื่อบุตา เสี่ยงที่จะทำให้ตาบอดได้ พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการทารุณกรรม “อยากถาม ผอ.ว่า ลองทาซีม่าทั้งตัวไหม”


แต่ในขณะที่ นายศักดิ์ชัย สุวรรณราช ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลที่แตกต่างกัน โดยยอมรับว่ารุ่นพี่ได้ทำโทษน้องภูผาจริง เพราะไม่รักษาความสะอาด จนเป็นหิด รุ่นพี่จึงใช้สำลีชุบยาซีม่าทาที่ตัวน้องภูผาด้วยความหวังดี จนเป็นแผลพุพอง


ด้านแม่น้องภูผาได้ฟังสัมภาษณ์และพูดคุยผ่านโทรศัพท์กับ ผอ. ได้ปฏิเสธทันทีว่าข้อมูลที่ ผอ.กล่าวมาไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด “ท่าน ผอ.เคยโดนมีดบาดแล้วทาซีม่าไหม แล้วน้อง 9 ขวบ ต้องโดนทาซีม่าถึง 9 ขวดเลยหรอ”


“ทำไมท่านถึงพยายามปกป้องโรงเรียนนักหนา กับชีวิตคนหนึ่ง ท่านเลือกที่จะให้การต้อนรับ สว. ก่อนอย่างนั้นหรอคะ โดยไม่นำเด็กส่งโรงพยาบาล ปล่อยประละเลยจนเด็กมีบาดแผลดังที่ปรากฏในภาพเหรอคะ”


นอกจากนี้ ทนายรณรงค์ ได้ย้อนถามกลับ ผอ.ว่า ห้ามแม่เด็กออกรายการจริงหรือไม่ ผอ.ตอบกลับว่า ไม่จริง ทางแม่เด็กจึงได้สวนกลับทันทีว่า ไม่จริง เนื่องจากเมื่อวานยังได้ให้ รอง ผอ.นำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้ที่โรงพยาบาล และสั่งห้าม “ท่านอย่าดูถูกคนจนสิคะ” และยังเผยอีกว่าขณะที่โดยสารอยู่บนรถแท็กซี่ยังได้รับสายว่าขอให้ยุติการออกสื่อเพื่อให้สัมภาษณ์ “โทรมาบอกว่า ขอร้องนะครับ ให้หยุดออกรายการ อัดเสียงไว้ด้วยนะคะ”


ในตอนท้ายของรายการ แม่น้องภูผายืนยันว่า จะยังไม่ให้การกับใคร โดยจะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายก่อนเท่านั้น พร้อมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

คุณอาจสนใจ

Related News