นูน่าพร้อมมากจ้ะ

คาริสา (กันติชา ชุมมะ) ที่ถูกลักพาตัวไป ได้เจอกับ วิภู (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ค) ทั้งคู่ได้นึกย้อนไปถึงตอนที่วิภูไปเจอคาริสาที่ต่างประเทศ เพื่อให้คาริสานำ “เพชรดวงใจนักรบ” มาที่เกาะเพชร ทำให้คาริสาได้รู้ว่า “วิภู คือ มทิรา” ก่อนที่จะถูกฆ่าเพื่อไม่ให้นำความลับนี้ไปบอกใคร ฝั่ง พชร (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) ได้พบกับ อ้อย (จรรยา ธนาสว่างกุล) เพื่อสอบถามเรื่อง อร (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) น้องสาวของเธอที่หายตัวไป อ้อยได้เล่าให้พชรฟังว่า ก่อนที่อรจะหายตัวไป เธอบอกว่า “เมื่อสุริยุปราคาเกิดขึ้นอีกคราคำสาปจะต้องถูกลบล้างไม่เช่นนั้นกรรมจะไม่มีวันสิ้นสุด” พชรรู้สึกแปลกๆ กับเรื่องราวทั้งหมด ด้านวิภูทำทีเป็นเครียดเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้ พริ้มพักตร์ (ลลินา ชูเอ็ทท์) รู้สึกเห็นใจ และเชื่อใจเขามากยิ่งขึ้น การปรากฏตัวของ ชาร์ล (ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์) ตำรวจสากล และ สุทธิชัย (ทนงศักดิ์ ศุภการ) ทนายความ ที่พ่อของคาริสาส่งมาเพื่อช่วยสืบคดี ทำให้วิภู และ พชร ได้รู้ความจริงทันทีว่าทั้งสองคนคือ องค์ชายรุทระ และ เสนาบดีสุรายาพ่อของมทิราที่กลับชาติมาเกิด ชาร์ลขอสอบปากคำทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการหายไปของเพชรและคาริสา ทำให้ได้เจอกับ พราวพลอย (ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) ทั้งคู่รู้สึกคุ้นเคยเหมือนรู้จักกันมาก่อน แต่ตรงกันข้ามกับพริ้มพักตร์ ที่รู้สึกไปถูกชะตาตั้งแต่แรกพบ ชัดเจนแล้วว่า “วิภู คือ มทิรา” และการปรากฏตัวของคนใหม่จากอดีต เพื่อมาช่วยแก้ปมความแค้นในชาตินี้ หรือพวกเขามาเพื่อหลอกให้พชรตายใจและถูกฝั่งความแค้นไว้ต่อไป พลาดไม่ได้กับโค้งสุดท้ายของ “ดวงใจในมนตรา”