กีฬา
‘พ่อน้องฟ่าง’ ฮีโร่โอลิมปิก ดีใจลูกคว้าเหรียญเงิน จนนอนไม่หลับ ล่าสุดหมดสติ ถูกหามส่งรพ.
โดย thichaphat_d
9 ส.ค. 2567
106 views
จากกรณีที่ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือ น้องฟ่าง นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ชาวจังหวัดศรีสะเกษ คว้าเหรียญเงิน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 จากกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 61 กิโลกรัมชาย โดยยกท่าสแนตช์ รวม 132 กก. ก่อนต่อด้วย คลีน แอนด์ เจิร์ก ที่ผ่านฉลุยทั้ง 3 ครั้ง 171 กก. รวมทั้งสิ้น 303 กก.
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านกระเบาเดื่อ ตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือ น้องฟ่าง นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ที่คว้าเหรียญเงิน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 จากกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 61 กิโลกรัมชาย โดยยกท่าสแนตช์รวม 132 กก. ก่อนต่อด้วย คลีน แอนด์ เจิร์ก ที่ผ่านฉลุยทั้ง 3 ครั้ง 171 กก. รวมทั้งสิ้น 303 กก. ซึ่งสร้างความภูมิใจให้กับคนไทย เป็นอย่างมาก
โดยบรรยากาศในบ้าน พบ นายเษม ศิลาชัย ซึ่งเป็นพ่อของน้องฟ่าง และ ญาติพี่น้อง มาร่วมแสดงความยินดี ด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี โดยพ่อของน้องฟ่าง และชาวบ้านได้พากันนำธูปเทียนไปกราบไหว้ศาลตายาย ซึ่งเป็นศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน หลังจากที่ได้มาบนบาลขอให้ได้รับชัยชนะ
นายเษม ศิลาชัย ซึ่งเป็นพ่อของน้องฟ่าง เปิดเผยว่า ตนรู้สึกตื้นตันและดีใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายของตนสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ซึ่งตอนที่ตนนั่งเชียร์การแข่งขัน ตนก็หวั่นในใจ ว่าลูกชายของตน จะสู้นักกีฬาจากประเทศอื่นได้ไหม เพราะว่า ตนดูจากในทีวี มีแต่คนตัวใหญ่ๆ แต่พอเห็นลูกสามารถชนะคู่แข่งได้ ซึ่งตนคาดหวังกับลูกแค่เหรียญทองแดงตนรู้สึกภูมิใจแล้ว แต่น้องข้าวฟ่างทำได้เกินคาดคว้าเหรียญเงินมาครองได้ ทำให้ตนดีใจทั้งคืนจนนอนแทบไม่หลับ ซึ่งหลังจากที่ลูกตนกลับมาสิ่งแรกที่อยากจะทำคือการผูกแขนให้ลูก
นางเสงี่ยม ม่วงศรี อายุ 66 ปี ป้าของน้องข้าวฟ้าง กล่าวว่า น้องฟ่างเป็นคนชอบกีฬายกน้ำหนักมาตั้งแต่เด็ก ตั้งใจฝึกซ้อมและเล่นกีฬายกน้ำหนักมาตั้งแต่อยู่ ป.3 มีครูพละที่โรงเรียนประถมที่น้องข้าวฟ่างเรียนอยู่ตอนเด็กช่วยฝึกสอน ตั้งแต่ลูกไปแข่งขันตนไม่ค่อยได้โทรหาลูกส่วนมากจะเป็นน้าที่โทรหาและจะคอยประสานงานดูแลน้องฟ่าง เรื่องอาหารที่น้องข้าวฟ่างชอบส่วนมากจะเป็นประเภท หมูและเนื้อไก่ทอด น้องฟ่าง เป็นคนกินอาหารยากจะควบคุมอาหารกลัวน้ำหนักขึ้น ถ้ากลับมาบ้านก็มาอยู่แค่ 1-2 วันก็ต้องรีบกลับ
ในส่วนการต้อนรับการกลับมาของน้องข้าวฟ่างคงต้องปล่อยให้น้าเป็นคนจัดการ ก่อนการแข่งขันตนและครอบครัวได้ไปบนบานไว้กับศาลตายาย และต้นยางใหญ่กลางหมู่บ้าน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนและคนในหมู่บ้านเคารพนับถือ สิ่งที่บนบานไว้ถ้าน้องข้าวฟ่างได้เหรียญกลับมา จะนำหัวหมู ไก่ต้ม ข้าวหม้อแกงหม้อ เครื่องดื่มไปเซ่นไหว้ ตนอยากฝากบอกน้องข้าวฟ่างว่าตนดีใจและภูมิใจกับตัวหลานมาก ขอให้น้องข้าวฟ่างมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ต่อไป
นางสาว เกษร ศรีสังข์ อายุ 39 ปี เป็นอาที่คอยดูแลน้องข้าวฟ่าง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แม่ของน้องฟ่างเสียชีวิตตั้งแต่น้องข้าวฟ่างอายุได้ 2 ขวบ ตอนนั้นพ่อแม่น้องข้าวฟ่างทำงานอยู่ที่ชลบุรี คุณพ่อจึงได้เอา น้องข้าวฟ่าง มาฝากไว้ให้คุณย่าเลี้ยงที่บ้านคุณย่า น้องข้าวฟ่าง มีพี่ชาย 1 คน ชื่อน้องข้าวโพด อายุ 22 ปี โดย น้องข้าวฟ่าง ได้คลอดก่อนกำหนดแต่ก่อน น้องข้าวฟ่าง จะเป็นคนตัวเล็กๆ ผอมๆ ครอบครัว น้องข้าวฟ่าง ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองจึงเป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กถ้าน้องประสบความสำเร็จในชีวิตน้องจะสร้างบ้านให้คุณพ่อ เพราะตอนนี้บ้านที่ น้องข้าวฟ่าง และพ่อ อาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านของปู่ย่า อาศัยอยู่กันหลายครอบครัว
ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้น้องข้าวฟ่างมีความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมเพื่อให้ได้เหรียญรางวัลและได้เงินรางวัลจะได้มาสร้างบ้านให้กับคุณพ่อ การคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกในครั้งนี้ทำให้ชีวิตครอบครัวน้องข้าวฟ่างเปลี่ยนเพราะเป็นความหวังที่ทางครอบครัวหวังมาตลอด เหรียญโอลิมปิกเป็นความหวังความใฝ่ฝันที่น้องข้าวฟ่างอยากได้มาโดยตลอดและพยายามฝึกซ้อมจนประสบความสำเร็จในวันนี้
นางสาว เกษร ศรีสังข์ อายุ 39 ปี กล่าวต่อไปว่า วันที่น้องข้าวฟ่างฮึดสู้ที่สุดคือวันที่ย่าน้องข้าวฟ่างเสียชีวิตน้องข้าวฟ่างไปกราบศพคุณย่าและร้องไห้พูดต่อหน้าศพย่าว่าผมจะทำให้ดีที่สุดและทำให้ย่าภูมิใจ ในส่วนของการเล่นกีฬายกน้ำหนักทางครอบครัวเป็นห่วงเพราะบางครั้งน้องข้าวฟ่างจะแชทมาบอกตนว่าผมท้อ ผมบาดเจ็บผมต้องไปหาหมอและทำกายภาพ ตนก็ได้แต่คิดว่าสิ่งที่เขาเลือกสิ่งที่เขาทำมันคงดีที่สุดแล้วเพราะเขาทำคนเดียวไม่ต้องโฟกัสที่คนอื่น เขาคงจะพยายามทำให้ดีที่สุดด้วยตัวเขาเอง
นอกจากกีฬายกน้ำหนักแล้วน้องข้าวฟ่างยังชอบเล่นกีฬาฟุตบอล เคยไปแข่งขันได้เหรียญรางวัลมาก็มาก แต่โอลิมปิก เป็นสิ่งที่สูงสุดในชีวิตแล้วสำหรับนักกีฬา ซึ่งถ้าถามตน นั้น คิดว่า ตอนนี้ ส่งน้องฟ่าง ถึงฝั่งแล้ว ในฐานะคนที่ค่อยผลักดัน หนุนหลัง และให้กำลังใจเขามาตลอด ให้สู้เต็มที่ ซึ่งในวันนี้ ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ส่งน้องฟ่าง ถึงฝั่งแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายทศพร แช่ตั้ง กำนันตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หลังทราบว่านายเกษมพ่อของน้องฟ่างไม่สบาย และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลขุนหาญ
นายทศพร กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวจากลุงและป้าของน้องฟ้างว่า ในช่วงสายวานนี้ ทางลุง ป้า และพ่อของ น้องฟ้าง ได้ไปซื้อของใช้ที่ร้านสะดวกซื้อ และในขณะที่กำลังเลือกซื้อของอยู่นั้น ป้าได้สังเกตเห็นว่า พ่อขอของน้องฟ่างมีอาการเหม่อลอยผิดปกติ คล้ายคนไม่มีสติ ลุงและป้าจึงพยายามเรียกและพูดคุย แต่พ่อน้องฟ่างกลับไม่ตอบ หลังจากนั้นก็มีอาการชักเกร็ง หมดสติ ลุงและป้าจึงรีบพาตัวพ่อของน้องฟ้างส่งโรงพยาบาล
ตนได้โทรไปสอบถามข่าวคราวกับทางลุงและป้า ทราบว่าพ่อของน้องฟ่างอาการยังไม่ดีขึ้น ตนจึงได้สอบถามสาเหตุ ซึ่งลุงของน้องฟ่างยังไม่สะดวกที่จะคุย เนื่องจากอยู่บนรถโรงพยาบาลและยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ซึ่งทางโรงพยาบาลขุนหาญได้นำตัวพ่อพ้อน้องฟ่างส่งต่อเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษต่อไป ขณะนี้พ่อของน้องฟ่าง อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dVvKlSWSijw