กสทช.เรียกเงินคืนจาก กกท. 600 ล้าน ปมจอดำ - 'ดร.ก้องศักด' ยันไม่ทำอะไรผิด สวนกลับให้ไปดูคำสั่งศาล

วานนี้ (8 ธ.ค. 65) บอร์ด กสทช. ได้ประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน 'ฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย)'

ที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์ 6 เสียง ให้ส่งหนังสือทำคำสั่งทางปกครองไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้คืนเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) วงเงิน 600 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี (หากมี) หลังจากมีปัญหาโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก IPTV จอดำ โดย กกท.ต้องคืนเงินภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว

---------------

ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. สวนกลับ กสทช. ยืนยันว่าได้ปฎิบัติตามกฎ Must Carry เข้าถึงทุกกลุ่ม ยืนยันไม่คืน 600 ล้าน พร้อมท้าให้ กสทช.กลับไปดูคำสั่งศาล

ซึ่ง กกท. ยืนยันว่าได้ปฎิบัติตามกฎมัสต์ แคร์รี่ ด้วยการส่งสัญญาณไปยังดิจิทัลทีวี ทั้งภาคพื้นดิน และดาวเทียมต่างๆ ซึ่งเข้าถึงทุกกลุ่มอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องอยู่ในกรอบภายใต้ลิขสิทธิ์ด้วย

---------------

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ให้เร่งดำเนินการแก้ไขการบริหารจัดการลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ให้ถูกต้องตามข้อตกลงในเอ็มโอยู และกฎมัสต์แครี่

ซึ่ง กสทช. กล่าวว่า กฎมัสต์แครี่ไม่ว่าจะดูแบบไหน ต้องได้ดูหมดห้ามจอดำ 
-------------

วานนี้ (8 ธ.ค.) ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือ ชี้แจงไปยัง กสทช. แล้ว ซึ่งไม่ทราบว่าในที่ประชุมบอร์ด กสทช. ได้เห็นหนังสือหรือไม่ ซึ่ง กกท. ยืนยันว่าได้ปฎิบัติตามกฎมัสต์ แคร์รี่ ด้วยการส่งสัญญาณไปยังดิจิทัลทีวี ทั้งภาคพื้นดิน และดาวเทียมต่างๆ ซึ่งเข้าถึงทุกกลุ่มอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องอยู่ในกรอบภายใต้ลิขสิทธิ์ด้วย

โดยศาลได้วินิจฉัยกรณีข้อพิพาทระหว่าง AIS กับ True โดยคำสั่งศาลได้กล่าวถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย และ กสทช. ที่ดำเนินการถ่ายทอดฟุตบอลโลกให้ประชาชนได้ดูฟรีตามช่องทางต่างๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะ IPTV เท่านั้น ถือว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมัสต์ แคร์รี่แล้ว ซึ่งคำสั่งศาลเขียนไว้ชัดเจน เพราะฉะนั้นการดำเนินการของกกท.อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของคำสั่งศาล ไม่ได้ไปละเมิดอะไร

ดร.ก้องศักด บอกอีกว่า การที่ กสทช.เรียกเก็บเงินคืนแบบนี้ อยู่ที่มุมมอง และทางนั้นมองมุมที่ต่างกัน เป็นที่มาของการทำหนังสือตอบกลับไปทันทีว่า กกท.ไม่ได้ทำผิดอะไร ทุกอย่างให้ไปดูในคำสั่งศาล ซึ่งหาก กสทช. ยืนกราน ว่า จะเรียกเงิน 600 ล้านบาทคืน ก็คงต้องไปสู้กันในกระบวนการของกฎหมาย แต่คงไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น เนื่องจากเป็นองค์กรของรัฐด้วยกันทั้งคู่น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่า ที่สามารถตกลงพูดคุยกันได้

อย่างไรก็ตาม หาก กสทช. จะเรียก กกท. เข้าไปชี้แจงก็ยินดี แต่ที่ผ่านมาไม่มีการพูดคุยแต่อย่างใด และเมื่อมติออกมาก็ยิ่งทำให้ กกท. สับสนไปกันใหญ่

-------------