กีฬา
กสทช.มีมติถอน 'ฟุตบอลโลก' ออกจากกฎ 'มัสต์แฮฟ' ชี้คนไทยไม่ได้แข่ง - เปิดให้เอกชนแข่งขัน
โดย nattachat_c
3 เม.ย. 2567
56 views
วานนี้ (2 เม.ย. 67) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กล่าวภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการ กสทช. ว่า
คณะกรรมการ กสทช.ได้พิจารณาลงความเห็นเรื่อง เห็นควรยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 หรือ ประกาศ 'มัสต์แฮฟ (Must Have)'
โดยคณะกรรมการได้ลงมติเอกฉันท์ 7 เสียง ให้ถอนการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ออกจาก กฎมัสต์แฮฟ (Must Have) ที่กำหนดให้ถ่ายทอดรายการกีฬา 7 ประเภท ให้ประชาชนรับชมฟรีทั่วประเทศ
“สำหรับกฎมัสต์แฮฟจะคงไว้ซึ่งทุกอย่าง ยกเว้นฟุตบอลโลก สาเหตุที่ตัดฟุตบอลโลกออก เพราะมีมูลค่า และเข้าตลาดได้ชัดเจน และเป็นประเภทที่มีอุปสรรคปัญหามาโดยตลอด หลังจากลงคะแนนเสียงที่ 7 เสียง จากนี้ จะมีผลทันที ระหว่างนี้ อยู่ขั้นเตรียมเอกสารเพื่อรอการประกาศชัดเจน” ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณกล่าว
ขณะที่ กฎมัสต์แครี่ โดยมีการเสนอว่า เวลามีกีฬาบางประเภท เช่น โอลิมปิกเกมส์ ก็มีการเสนอความคิดเห็นว่า จะฉายเฉพาะแต่กีฬาที่คนไทยได้เข้าร่วมการแข่งขัน หรือเฉพาะรอบชิงชนะเลิศในกีฬาทุกชนิด สามารถทำให้ได้ดูฟรีทั้งหมด
ขณะเดียวกัน กีฬาที่คนไทยไม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน เช่น กีฬาบาสเกตบอล แข่งขันระหว่างประเทศสหรัฐและคิวบา ไทยไม่ได้ถ่ายทอด เพราะไม่ได้มีคนไทยแข่งขัน แต่อาจมีคุณค่าทางธุรกิจ เอกชนอื่น ๆ ต้องการถ่ายทอด อาจนำไปถ่ายทอดได้
ด้าน น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 (Must Have) ผ่านมาถึงวันนี้ ก็ 10 ปีแล้ว ดังนั้น บริบทการถ่ายทอดก็เปลี่ยนแปลงไป และจนถึงวันนี้ ก็ถือว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เข้าสู่กลไกการแข่งขันอย่างสมบูรณ์แล้ว
ทั้งนี้ สำหรับกฏมัสต์แฮฟ (Must Have) หรือประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 กำหนดให้รายการถ่ายทอดสดกีฬา 7 รายการ ประกอบด้วย
- ซีเกมส์
- อาเซียนพาราเกมส์
- เอเชียนเกมส์
- เอเชียนพาราเกมส์
- โอลิมปิกเกมส์
- พาราลิมปิกเกมส์
- ฟุตบอลโลก
นอกจากนี้ มีกฎควบคู่กันคือ มัสต์แครี่ (Must Carry) ที่ผู้ถือลิขสิทธิ์จะต้องให้ผู้ชมได้รับชมผ่านทางทุกแพลตฟอร์ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีการอุดหนุนเงินฟุตบอลโลก เป็นดราม่ายืดเยื้อในบอร์ด กสทช.ถึงปัจจุบัน จากกรณีที่ เมื่อการประชุม กสทช. วันที่ 23 มกราคม 2566 กรรมการ กสทช.ทั้ง 4 คน ลงมติเสียงข้างมากปลด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล จากรักษาการเลขาธิการ กสทช. จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี อนุมัติเงินเงินกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) สนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก จำนวน 600 ล้านบาท ที่นายไตรรัตน์ถูกตั้งกรรมการสอบ พร้อมมีมติให้ตั้ง นายภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ เป็น รักษาการเลขาธิการ กสทช.แทน จนทำให้เป็นคดีฟ้องร้องเกิดขึ้นในบอร์ด กสทช.
โดยเรื่องย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 9 พฤษจิกายน 2565 นายไตรรัตน์กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนแก่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ 2022 ตามจำนวนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ภายในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) และสำนักงาน กสทช. ดำเนินการตามระเบียบต่อไป
ทั้งนี้ กรณีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ทั้ง 64 นัด ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อย่างทั่วถึง ตามมาตรา 52 (1) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
อีกทั้ง เป็นการดำเนินการเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการและคนด้อยโอกาส ให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป ตามมาตรา 36 และ 52 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ซึ่ง กสทช.สามารถดำเนินการได้ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ กทปส. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final) เป็น 1 ใน 7 รายการที่ กสทช. กำหนดไว้ในประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (Must Have)
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/RW2syEQ2Ye8