หนุ่มใหญ่วัย 50 เมาแล้วขับ ชนดะรถหลายคัน พลเมืองดีขี่รถไล่ตาม แต่ถูกต่อยบาดเจ็บ

หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี เมาแล้วขับ ชนดะหลายคันกลางถนนย่านพระราม 3 พลเมืองดีขี่รถไล่ตาม แต่ถูกต่อยบาดเจ็บ ตำรวจควบคุมตัวดำเนินคดีแล้ว พบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  


เพจ Social Hunter 2024 โพสต์คลิปเหตุการณ์รถเก๋งสีดำขณะคันหนึ่ง ขับชนรถจักรยานยนต์หลายคัน จนคนขี่รถจักรยานยนต์ล้มกลิ้งไปกับพื้น รถเก๋งคันดังกล่าว ก็ยังพยายามขับไปต่อ จนไปชนกับรถคันอื่นๆ บนถนนอีกหลายคัน ซึ่งคนที่โดนชนก็พากันวิ่งตามไปสกัดไว้ ทั้งนี้ ทางเพจบอกว่า คนซ้อนถูกลากไปกับรถกลิ้งๆๆ ไปกับพื้นด้วย


ส่วนคลิปอีกมุมหนึ่งจะเห็นรถเก๋งของผู้ก่อเหตุขับหนีเข้าไปในซอยตัน และกลับรถออกมา โดยมีผู้เสียหาย และพลเมืองดี ช่วยกันขี่รถจักรยานยนต์บีบแตรไล่ตาม พร้อมตะโกนให้ระวัง คนชนแล้วหนี


โพสต์ดังกล่าวมีข้อความ ระบุว่า #ทรงนี้เมาแล้วขับชัวร์ ขับชนดะชนแล้วหนี ชนมอไซด์ลากคนซ้อนไปด้วยดีที่มีพี่ๆพลเมืองดีเข้าไปช่วยเหลือ แถมกร่างอีก เห็นแล้วสมครวยเป็นอย่างยิ่งที่โดนแบบนั้น (ไม่สนับสนุนใช้ความรุนแรง)


#ชนเค้าเกือบตาย แล้วหนี ยังลงไปต่อยคนอื่นอีก มึงไปทำคนไม่สุ้ มึงต้องมาทำคนที่เค้าสุ้มึงสิ Cr.เจ้าของคลิป #พระราม3


วานนี้ (19 ต.ค.) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ อยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก ก่อนถึงแยกตัดกับถนนพระราม 3 พื้นที่ สน.บางโพงพาง พบว่าจุดเกิดเหตุ เป็นบริเวณทางโค้งที่ลงมาจากสะพานข้ามแยก


โดยนายบุญมี ปรเมพาน ชาวบ้านตรงจุดดังกล่าว บอกว่า เหตุเกิดประมาณ 6 โมงเย็น ของวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ตอนนั้นฝนตกหนัก รถติด ตนนั่งเตรียมของขายอยู่ในบ้าน ก็ได้ยินเสียงรถชน และเสียงโวยวาย ว่ามีคนชนแล้วหนี เรียกให้หยุด ซึ่งตนไม่ได้ออกไปดู แต่หลานๆ ออกไป บอกว่า รถชนหลายคันเลยแล้วพอไฟเขียวก็ขับหนีไป โดยในที่เกิดเหตุ มีคุณลุงที่ขี่รถจักรยานยนต์มา ถูกชนได้รับบาดเจ็บ 1 คน


ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายธรรมนูญ แซ่จึง พลเมืองดีที่เป็นคนถ่ายคลิป และถูกคนขับรถเก๋งทำร้ายร่างกายด้วย โดยนายธรรมนูญ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์ จะไปซื้อข้าวกับแฟน แล้วเห็นเหตุการณ์ที่รถเก๋งชนรถจักรยานยนต์แล้วไม่หยุดช่วยเหลือ แต่พยายามขับหนี ตนและรถจักรยายนต์อีกหลายคัน จึงช่วยกันขับไล่ตาม ผู้ก่อเหตุก็ขับหนีเข้าไปในซอยตันแล้วกลับรถออกมา แต่ตอนนั้นฝนตกรถติด จึงหนีต่อไม่ได้ จากนั้น ผู้เสียหายที่โดนขับชนตอนแรก ก็ไปเรียกคนขับลงมาจากรถ และต่อยทันที คนขับรถเก๋งก็สู้ ต่อยกลับจนเลือดเต็มหน้า ตนจึงเข้าไปห้าม เลยโดนลูกหลงมาด้วยจนปากเป็นแผล ตนโมโหก็เลยต่อยกลับไปด้วย เพราะตอนที่ขับตามเข้าไปในซอย คนขับรถเก๋งก็จะถอยรถชนตนด้วย


ทั้งนี้ ท่าทางของคนขับรถเก๋งคล้ายกับมีอาการมึนเมา และตนก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ด้วย ซึ่งอยากฝากบอกว่า ถ้าเมาก็ให้นอนอยู่บ้าน และเมื่อเกิดเหตุแล้ว เป็นเหตุเล็กน้อย ก็ควรจะหยุดคุยกัน ไม่ใช่หนีแบบนี้


สำหรับรถเก๋งสีดำคันที่ก่อเหตุ พบว่าถูกนำไปจอดไว้ที่ป้อมจราจรของ สน.บางโพงพาง อยู่ห่างจากจุกเกิดเหตุไปประมาณ 800 เมตร โดยสภาพรถพบว่า พังเสียหายเกือบทั้งคัน กระจกหน้ารถแตก กระจกไฟหน้าแตก ทะเบียนด้านหน้าหลุด กันชนหน้ารถฝั่งขวาหลุดเสียหาย ส่วนประตูฝั่งซ้ายมีรอยครูดเป็นแนวยาว กันชนด้านหลังหลุด และมีรอยถลอกรอบคัน


เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมจราจร บอกว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายและพลเมืองดีได้ขี่รถไล่ตามไปสกัด จนผู้ก่อเหตุจอดรถลงมา และมีปากเสียงกัน ตำรวจจราจรจึงไปตรวจสอบเหตุการณ์ และนำตัวคนขับรถ ส่งดำเนินคดีที่ สน.บางโพงพาง และนำรถมาจอดไว้จุดนี้


ขณะที่ พันตำรวจเอก อนันต์ชัย กมลรัตน์ ผู้กำกับการ สน.บางโพงพาง เปิดเผยว่า กรณีนี้หลังเกิดเหตุ ได้มีการนำตัวคนขับรถเก๋ง พร้อมคู่กรณีที่ถูกชน คือ รถจักรยานยนต์ 2 คัน มาที่ สน.บางโพงพาง โดยตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์คนขับรถเก๋งได้ 87 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนเรื่องการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถขณะเมาสุรา และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ กับคนขับรถเก๋ง


เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ บอกว่า ดื่มเบียร์มา 2 กระป๋องและกำลังขับรถกลับบ้านกับภรรยา แต่ฝนตก และทางลงสะพานถนนลื่น จึงเสียหลักไปชนรถจักรยานยนต์ โดยตำรวจนำตัวส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครใต้แล้ว ส่วนรถคันอื่นๆ ที่ถูกชน ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ

https://youtu.be/O_9mBsnpfoM