เปิดใจ ร.ต.อ.ขับกระบะขวางรถฉุกเฉิน อ้าง ตกใจ ไม่รู้จะไปทางไหน

กลายเป็นประเด็น ที่โลกออนไลน์แชร์คลิปรถกระบะสีขาว ขับรถขวางรถฉุกเฉินของกู้ภัย ที่กำลังนำส่งผู้ป่วยหมดสติไปยังโรงพยาบาล และกลายเป็นว่า คนขับรถขวาง เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านขุนทด ล่าสุด เจ้าตัวชี้แจง ไม่ได้เจตนา



มีคลิปขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กำลังนำส่งผู้ป่วยหมดสติ แต่ระหว่างทาง กลับมีรถกระบะคันหนึ่ง ขวางทาง ไม่ยอมหลบ แม้ทางอาสาสมัครจะประกาศขอความร่วมมือ แต่ก็ไม่ยอมหลบ



ทีมข่าว ได้สอบถามไปยัง คุณวรวุฒิ แนบชิด อาสาสมัครและผู้ที่ขับรถฉุกเฉิน กู้ภัยมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อ ตอนเวลาประมาณ 8 โมงกว่าๆ



ขณะที่กำลังนำส่ง ผู้ป่วยหมดสติเป็นหญิง อายุประมาณ 73 ปี ซึ่งเป็นเคสสีแดง จากที่บ้านโคกสง่า ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง เพื่อที่จะนำไปเปลี่ยนถ่ายผู้ป่วย หน้าที่ว่าการอำเภอปากช่อง เพื่อส่งต่อไปรถโรงพยาบาลปากช่องนานา



แต่เมื่อขับไปถึงถนนมิตรภาพสายเก่า พอถึงตลาดสดมิตรภาพ รถทุกคันก็หลบตามปกติ มีเพียงรถกระบะ สีขาว ที่ขับอยู่ด้านหน้าขวางอยู่ จนถึงแยกไฟแดงหนองสาหร่าย ทางคุณวรวุฒิจึงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เพื่อขอทาง หลังรถมีผู้ป่วยหมดสติ แต่รถกระบะก็ไม่ยอมหลบ



ก่อนที่ชายที่ขับรถกระบะ จะลงมาถามตนว่า "น้องไม่เห็นสัญญญาณไฟหรอ" ตอนนั้นไฟแดง พอพูดเสร็จก็เดินกลับขึ้นรถและขับออกไป และก็ขับเหมือนดึงเกมส์ 50-60 กม./ชม. จนมาถึงไฟแดงต่อมา ตนจึงหักเลี้ยวขวา และก็มุ่งไปที่หน้าที่ว่าการอำเภอปากช่อง เพื่อเปลี่ยนถ่ายคนไข้



ซึ่งรถกระบะขับตามมา ตนจึงบอกให้จอดและคุยกัน ทางรถกระบะถามว่า "ทำไมไม่ลงซ้าย" พวกตนเลยตอบว่า "ในรถมีคนไข้หมดสติ น้องกำลังทำหัตถการอยู่ " ก่อนถามกลับว่า "แล้วทำไมพี่ไม่ลงซ้ายให้ผม ผมไม่รู้หรอกว่าใหญ่มาจากไหน" ก่อนจะขึ้นรถกระบะขับออกไป



ระยะทางที่รถคันดังกล่าวพยามขวางทาง ตั้งแต่จุดที่เจอ จนถึงจุดที่ส่งผู้ป่วย เป็นระยะทางทั้งหมด 3 กิโลเมตร ซึ่งพอตนมาทราบว่าคนขับรถกระบะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ร้อยตำรวจเอก สถานีตำรวจภูธรด่านขุนทด จังหวัด นครราชสีมา ก็ยิ่งรู้สึกแย่ เพราะเป็นคนที่ถือกฎหมายเอง แต่กลับทำแบบนี้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมาขอโทษตนเอง แต่อยากให้ไปขอโทษญาติของผู้ป่วยที่อยู่ในรถดีกว่า



ขณะที่ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก ที่ขับรถกระบะคัน ชี้แจงกับว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะขวางรถของอาสาสมัคร ตอนที่รถเปิดไซเรน และประกาศขอทาง ยอมรับว่าได้ยินเสียงประกาศ แต่ไม่มีทางหลบหลีก เพราะว่าติดสัญญาณไฟแดงที่แยกพอดี และตนก็จะเลี้ยวขวา ตอนนั้นตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ประกอบกับแถวนั้นเป็นตลาด ซึ่งมีรถเยอะจึงไม่รู้จะหลบไปทางไหน ส่วนที่ตนเดินลงจากรถ เป็นการลงไปชี้แจงกับคนขับรถฉุกเฉินว่า ตนจะเลี้ยวขวา และมันติดไฟแดง ไม่รู้จะไปข้างไหน



เบื้องต้นวันนี้ ตนจะเข้าไปเสียค่าปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจร มาตรา 76(2) ขณะขับขี่ เมื่อเห็นรถฉุกเฉินที่ใช้ไฟสัญญาณไฟวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หรือสัญญาณเสียงอย่างอื่น ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้ชิดขอบทางด้านซ้าย



ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อบ่าย 2 โมง นายวิชัย มณีรัตนะกูล ประธานมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง และ นายปัญญา ลีฬกาญจนากุล ผู้จัดการแผนกกู้ภัยฯ และ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย รอการมาขอโทษของ ตำรวจนายนี้ ที่ประสานว่าจะเข้าขอโทษพร้อมกระเช้าตั้งแต่ประมาณ 12.00 น.แต่ก็ยังไม่มา



ด้าน พ.ต.อ.ภูไทม์ เชาว์สูงเนิน ผู้กำกับการ สภ.ด่านขุนทด แจ้งว่า ตำรวจที่ขับรถกระบะ เดินทางไป ที่ สภ.ปากช่อง เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อเสร็จจากการสอบสวนแล้ว จะเดินทางไปที่มูลนิธิ

สามารถดูได้ที่ : https://youtu.be/vK_8OHcOK-M