โฆษกกองทัพเรือ ตำหนิผู้จัดกิจกรรมอนุรักษ์ทะเล แต่ปล่อยสัตว์ผิดสปีชีส์ หวั่นระบบนิเวศ

กลายเป็นเรื่องดรามา หลังมีการแชร์ภาพ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ จัดกิจกรรมอนุรักษ์ท้องทะเล ด้วยการปล่อยปลาฉลาม ปลานีโม แล้วยังมีการเอาปะการังจากใต้ทะเลขึ้นมาขยายเป็นปะการังเทียม ทำให้หลายคนห่วงว่าจะกระทบระบบนเวศหรือไม่



หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นดราม่า หลัง "เพจขยะมรสุม" โพสต์ตำหนิถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้น ว่า พังพินาศ ที่สุด ในบรรดากิจกรรม CSR ทั้งหมด การปล่อยสัตว์ผิดสปีชี่ หรือเอาปะการังสภาพดีขึ้นมาจากน้ำแล้วเอามาทำเป็นปลูก เอาฉลามมาถ่ายกันแห้งๆ มันผิดทั้งหมด แถมมีการเก็บเงินเข้าร่วมกิจกรรมด้วย "



ในภาพที่โพสต์ เป็นการจัดกิจกรรม ที่มีคน คนมีชื่อเสียง และเจ้าหน้าที่ทหารร่วมอยู่ด้วย กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ แถมยังมีการเรียกเก็บเงินอีก อย่างปลาฉลาม คู่ละ 1500 บาท / ปลาการ์ตูนนีโม่ คูละ 380 บาท /มีค่า เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอีก 500 บาท



เรื่องนี้ พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ระดับผู้ปฏิบัติ ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น พร้อมตำหนิถึงความไม่เหมาะสมของกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากสัตว์ทะเลบางชนิดไม่ใช่้สัตว์ในพื้นที่ อาจทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุล อีกทั้งกิจกรรมลักษณะนี้ถูกห้ามมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว



ขณะที่ คุณวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่าจากการ ตรวจสอบปลาฉลามที่ปล่อยเป็นฉลามกบ พบได้ทั้งในฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน ถ้าปล่อยอาจจะไม่มีปัญหา แต่ ปลาการ์ตูน บางชนิดถ้าปล่อยแล้ว ถือเป็นเอเลี่ยนสปีชี่ จึงขอให้หน่วยงาน ที่จัดกิจกรรมต้องระมัดระวัง



สอดคล้องกับ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.เกษตรศาสตร์ ที่ยืนยันว่า ปลาการ์ตูน นีโม ขาวส้ม ไม่สามมาถปล่อยได้ในฝั่งอ่าวไทย เพราะเป็นสตว์ที่อยู่ในฝั่งอันดามัน



ส่วนปลาฉลามกบ แม้จะไม่ใช่ชนิดที่มีความดุร้าย แต่การปล่อยควรต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างถูกต้อง ต้องคำนึงถึงพื้นที่และที่มาของปลา ไม่ควรมาปล่อยตามชายหาดหรือ ในทะเลน้ำตื้น อย่างกรณีที่เกิดขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vZkIkhNsul8