ข่าวโซเชียล

สาวผวา หนุ่มขวางหน้ารถบนทางด่วน ตะโกนขอขึ้นรถ-ใช้หมวกกันน็อกทุบกระจก ตั้งคำถามขึ้นมาได้อย่างไร?

โดย nattachat_c

11 มี.ค. 2567

478 views

ผวา! ขับรถกลับคอนโดฯ เจอชายแปลกหน้ายืนขวางหน้ารถบนทางด่วน พยายามเปิดประตูแต่เปิดไม่ออกเพราะประตูล็อก ใช้มือตีกระจกตะโกน “ไปลงด้วยได้มั้ย! ผมขอลงหน่อย! ผมขอไปลงข้างหน้าหน่อยเด้!” เอาหมวกกันน็อกฟาดกระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง เจ้าของรถหวาดกลัวรีบขับหนี เผย สติคือสิ่งสำคัญ ล่าสุดได้แจ้งความแล้ว วอนมามอบตัว เผยควรพูดจาดีๆ ขอร้องดีๆ เพื่อให้สอบถามที่มาที่ไปก่อน แบบนี้คือการคุกคาม


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Panhathai Buranaprasoetkun ได้โพสต์คลิปกล้องหน้ารถ พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า


เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2567 ณ ทางด่วนด่านเลียบแม่น้ำ ถ.พระราม 3 ช่องนนทรี เวลาประมาณ 13:24 น. ตนเองขับรถออกจากบริษัท เพื่อจะกลับคอนโดที่ห้วยขวาง เลือกที่จะขึ้นทางด่วนปกติ มีผู้ชายวัยกลางคนถือหมวกกันน็อกในมือ  ยืนอยู่บนทางด่วน ห่างจากด่านเก็บค่าผ่านทางไม่ไกล แต่เนื่องจาก ตนเป็นผู้หญิงขับรถคนเดียว ไม่มีเจตนาจะจอดเพื่อรับคนแปลกหน้า ให้ขึ้นรถไปด้วย


แต่มีเก๋งสีน้ำเงินคันด้านหน้า ที่อยู่เลนขวามือ เปิดสัญญานไฟเลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวปาดหน้ารถของตน ตนคิดว่า รถคันนั้นจะจอด จึงชะลอ และเปิดสัญญานไฟฉุกเฉิน เผื่อมีรถตามมาข้างหลัง แต่รถสีน้ำเงินคันนั้นไม่จอด และขับไป


แต่ผู้ชายคนนั้น ยืนขวางอยู่เลนซ้าย ทำให้ตนขับรถต่อไปไม่ได้ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินมาที่ประตูรถฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า พยายามเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก เพราะประตูล็อกอยู่ เขาพยายามดึงแรงขึ้น แล้วก็เอามือตีกระจกรถ พร้อมตะโกนว่า “ไปลงด้วยได้มั้ย! ผมขอลงหน่อย! ผมขอไปลงข้างหน้าหน่อยเด้!” แล้วผู้ชายคนนั้นก็เอาหมวกกันน็อกฟาดที่กระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง


จากนั้น เจ้าของรถ (ผู้โพสต์) ค่อย ๆ เคลื่อนรถไปข้างหน้าด้วยความกลัว เธอคิดแค่ว่าต้องเอาตัวเองออกจากบริเวณตรงนั้น พอพ้นจุดนั้น ก็รีบโทร 1543 (EXAT Call Center การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) เล่าให้เจ้าหน้าที่ปลายสายฟังว่าเกิดอะไรขึ้น


และขอให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ไปจัดการกับผู้ชายคนนั้น เพราะรู้สึกว่าเขาอันตรายมาก ทางเจ้าหน้าที่ปลายสายแนะนำว่า หากต้องการแจ้งความ ให้ไปที่ สน.ทางด่วน 1 ตรงคลองเตย


ผู้โพสต์ตั้งคำถามว่า ผู้ชายคนนั้นขึ้นมาบนทางด่วนได้ยังไง? ยืนอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว? แล้วจุดเกิดเหตุใกล้กับด่านเก็บค่าผ่านทางมาก ๆ เจ้าหน้าที่ตรงด่านเก็บค่าผ่านทาง ไม่มีใครสังเกตเห็นผู้ชายคนนั้นจริง ๆ เหรอ? ถ้าตนไม่โทรแจ้ง จะมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ มาจัดการมั้ย?


ต่อมา เวลาประมาณ 14.27 น.วันเดียวกันนั้น ตนโทรกลับไปที่ 1543 เพื่อถามว่าเป็นยังไงบ้าง เจ้าหน้าที่ปลายสายแจ้งว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่อยู่แล้ว ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า มีกระบะคันหนึ่งจอดให้ผู้ชายคนนั้นโดยสารไปด้วย

-------------

ทั้งนี้ ผู้โพสต์ ระบุว่า ตนเองไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับการดูแล และให้คำแนะนำที่ดีมาก ๆ จากสารวัตรที่รับเรื่อง และมีทีมจากพิสูจน์หลักฐานตำรวจ มาเก็บลายนิ้วมือของผู้ก่อเหตุแล้ว


สุดท้ายนี้ ตนอยากบอกผู้ชายคนนั้นว่า “ไม่รู้จักคุณ เราไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร คุณไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง คุณมีปัญหาชีวิตอะไร แต่พฤติกรรมที่คุณทำคือ การคุกคาม และทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น คุณไม่แม้แต่จะพูดจาดี ๆ ขอร้องดี ๆ ไม่ให้โอกาสคนบนรถได้ลดกระจกพูดคุยสอบถามที่มาที่ไป หรือให้โอกาสคน ๆ นั้นได้คิดตัดสินใจว่า จะรับคุณขึ้นรถรึเปล่า แต่คุณตีกระจกทุบรถเราเลย


ถึงคน ๆ นั้นจะไม่ให้คุณโดยสารไปด้วย มันก็คือสิทธิ์ของเขา คุณไม่มีสิทธิ์คุกคามและทำลายทรัพย์สินของใคร อยากฝากแชร์โพสต์นี้ ถ้าหากมีครอบครัว ญาติ หรือคนรู้จักของผู้ชายในคลิปนี้ รบกวนบอกเขาให้มาแสดงตัวที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับชอบต่อสิ่งที่ทำด้วย”


ผู้โพสต์ ยังระบุอีกว่า

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ คือ สน.ทางด่วน ไม่รับแจ้งความคดีอาญา เคสของตนถือว่า มีการทำลายทรัพย์สิน เป็นคดีอาญาต้องแจ้งความกับ สน.ในพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้น ๆ 


หากเกิดเหตุแบบนี้ ไม่ว่าเราอยู่คนเดียว หรืออยู่หลายคน การล็อกรถคือสิ่งที่ดีและปลอดภัยที่สุด 


ถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้ เกิดขึ้นอีก ให้รีบหาจังหวะขับรถออกจากบริเวณนั้นเร็วที่สุด อย่าให้โอกาสคน ๆ นั้น มาถึงตัวรถเด็ดขาด


สติคือสิ่งสำคัญตอนนั้น ตกใจจนทำตัวไม่ถูกพูดไม่ออก เราต้องดึงสติไว้ แล้วพอออกมาบริเวณที่ปล่อยภัย ค่อยจอดรถ และเสียสติที่หลังได้


ก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพการใช้งานของกล้องหน้ารถเสมอ เผื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบครั้งนี้

-------------




รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7qRnqxHrQL0






คุณอาจสนใจ

Related News