ข่าวโซเชียล

ชายหัวร้อนแพ้เสียงแตรถือท่อนเหล็กขู่

โดย onjira_n

23 ก.ค. 2566

357 views

 จากกรณีที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์คลิปวิดีโอของผู้เสียหายท่านหนึ่ง พร้อมข้อความ “แพ้เสียงแตร” และได้บรรยายว่า ผู้เสียหายกำลังขับรถกลับบ้านมุ่งหน้าออกจากถนนสุวรรณภูมิ 2 ไปยังถนนมีนบุรี ส่วนรถคู่กรณี รถกระบะ  บรรทุกคนงาน มาจากถนนลาดกระบัง ขับรถเบี่ยงปาดซ้ายเข้าถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข7 คู่ขนานแบบกระทันหัน ผมกลัวโดนชนเลยบีบแตรให้ระวังไป 2 ครั้ง ทำให้คู่กรณีไม่พอใจ ลงจากรถถือท่อนเหล็กเกือบ 1 เมตรแล้วด่าหยาบ ท้าทายหาเรื่อง ก่อนจะเดินกลับไปที่รถ  แม้ว่าคู่กรณีจะไม่ได้ทำให้เสียทรัพย์ แต่ผู้เสียหายรู้สึกไม่พอใจ และอยากฝากเตือนให้กรณีดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์



โดยทีมข่าวได้ติดต่อไปยังผู้เสียหาย คือ นาย มงคล  อายุ 39 ปี ที่เดินทางมาแจ้งความ ยัง สภ.ท่าอากาศสยานสุวรรณภูมิ ได้เล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 8 โมงกว่า หลังจากที่ตนเองปั่นจักรยานเสร็จก็จะกลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณทางเบี่ยงไปยังทางหลวงหมายเลข7 ก็มีรถกระบะ รถกระบะ ที่บรรทุกคนงานสวมเสื้อสีส้มด้านหลังกระบะ 2 คน ได้ขับปาดหน้ารถของเขากระทันหัน ทำให้เขาน้องต้องบีบแตรสั้นๆในลักษณะเตือนให้ระวังไป 2 ครั้ง จากนั้นรถคู่กรณีก็จอดกะทันหันอีก ทำให้ตนเองต้องหยุดรถกะทันหันตามและบีบแตรสั้นๆไปอีก จากนั้นคู่กรณีที่เป็นคนขับรถกระบะ ก็คือท่อนเหล็กความยาวประมาณเกือบ 1 เมตรลงมาด่าด้วยคำที่หยาบคาย และท้าทายให้ตนเองลงไปชกต่อย แต่จังหวะนั้นตนเองตกใจ จึงไม่กล้าเปิดกระจกและพยายามยกมือขึ้นมาไหว้เพราะเกรงว่าคู่กรณีจะทำร้ายทรัพย์สินหรือทำร้ายตนเอง จึงทำให้คู่กรณีเดินกลับไปที่รถ  แต่เมื่อทุกคนแยกย้าย ผู้เสียหายก็ได้ขับรถตรงไป แต่คู่กรณีกลับขับตามมาแบะหักพวงมาลัยเบียดรถมาทางรถของผู้เสียหายและยังเปิดกระจกท้าทายอีก แต่เลนส์ของผู้เสียรถติดทำให้ฝั่งของคู่กรณีขับเลยไปไม่ได้มีการปะทะอะไร



นายมงคล ยังบอกอีกว่า แม้จะยังไม่เกิดความเสียหายของทรัพย์สิน แต่พฤติกรรมของคู่กรณีนั้นอาจจะเป็นอันตราย และจากการสังเกตของผู้เสียหาย

ได้สันนิษฐานว่าอาจจะมีการดื่มสุราด้วยหรือไม่ของคู่กรณี เพราะจังหวะที่ตนเองบีบแตร์ไปและคู่กรณีลงจากรถมารถมานั้นไม่ถึงนาที แต่ทำไมถึงโกรธหน้าแดงขนาดนั้น เลยไม่รู้ว่า ที่หน้าแดงนั้นมาจากอาการโกรธหรือเมากันแน่ และหากคู่กรณีไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับบุคคลอื่นก็อาจจะเป็นอันตรายก็ได้ จึงอยากฝากให้เรื่องดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ ให้ขับรถด้วยความใจเย็นและปฏิบัติตามกฎจราจรด้วย  โดยหลังจากแจ้งความ ทางตำรวจจะตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ว่ารถคันก่อเหตุนั้นเป็นของคู่กรณีหรือไม่และจะเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยต่อหน้ากันอีกครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News