ดรามา 'หยก' ปีนโรงเรียน เตรียมพัฒน์ฯ แจงไม่มีสถานะ นร. ไม่มามอบตัวตามกำหนด ไม่ทำตามกฎระเบียบ

ทีมข่าวรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 13 มิ.ย. เวลา 20.28 น. 'หยก' เยาวชนอายุ 15 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า

“โรงเรียนบอกว่าไล่เราออกแล้ว บอกว่าให้เราจำไว้ว่า ต่อไปนี้เราคือบุคคลภายนอก วันที่ 13 มิถุนายน 2566 วันนี้ เราถูกเรียกเข้าไปคุย หลังจากเข้าคาบเรียน ครูบอกขอคุย แต่เราขอเรียนก่อน (เขาเฝ้าเราหน้าห้อง) พอเลิกเรียนเราก็ไป เขาให้เพื่อนที่เป็นหัวหน้ากับรองหัวหน้าไปด้วย

เข้าไป มีครูที่เป็นรอง ผอ. 2 คน ครูผู้ชาย 2 คน ครูประจำชั้น 2 คน ครูผู้ชายว่าเราว่าไปทำอะไรมา ทำไมถึงโดนตาม ทำไมเราถึงไม่ปลอดภัย เราขอให้โทรหาผู้ปกครองเรา เรากดอัดเสียง เพราะเราอยากจะแจ้งผู้ปกครองเราว่า ครูทำอะไร ครูถามว่าเราไลฟ์เหรอ เราบอกว่าไม่ใช่ แต่เราบอกไปตรงๆ ว่า เราอัดเสียง

ครูผู้ชายก็พูดขึ้นมาว่า รักษาสิทธิ์แต่ละเมิดสิทธิคนอื่น เราถามละเมิดสิทธิ์คนอื่นตรงไหน เขาตอบก็อัดเสียง เรารู้สึกอึดอัด รู้สึกไม่ไหว เลยขอออก แต่ครูเขาก็ห้าม เขานั่งขวางทุกทาง เราเลยหาทางออก แต่ไม่มีทางให้ออก ข้างหลังเป็นหน้าต่าง ข้างหน้ามีโต๊ะ เราเลยเลือกที่จะคลานมุดโต๊ะออกไป

สุดท้าย รอง ผอ.ผู้หญิง หนึ่งในสองคน บอกเราว่า จะคืนค่าเทอมให้ และครูพูดใส่เราว่า จำไว้นะ ว่าเธอคือบุคคลภายนอก #ใต้เตียงเกียม....”

-------------
ต่อมา เช้าวานนี้ (14 มิ.ย. 66) เวลา 08.17 น. หยกได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก บริเวณหน้าโรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาเจรจา

หยกแจ้งว่า วันนี้ทางโรงเรียนจะไม่ให้ตนเข้าไปในโรงเรียนใช่หรือไม่ ผู้บริหารสั่งมาให้ล็อกประตูไม่ให้ตนเข้า ซึ่ง รปภ.พยายามจะอธิบายว่า ทรงผมและการแต่งกาย ไม่ถูกกระเบียบ ขณะที่หยกว่า การแต่งกายหรือทรงผมไม่น่าจะมีผลต่อการเรียน

จากนั้น ภาพในการไลฟ์ตัดมาในห้องพัก หยกได้โทรศัพท์ไปหารุ่นพี่คนหนึ่ง ระบุว่า "รออยู่ห้องประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่รอผู้บริหารมาคุย ไม่เข้าใจว่า ทำไมเข้าไม่ได้ หนังสือก็อยู่ใต้โต๊ะ”

จากนั้น มีเสียงรุ่นพี่ทั้งชายและหญิงโต้ตอบว่า ไม่มีเอกสารแจ้งก็เข้าไปเรียนสิ ซึ่งหยกตอบว่าก็ “มันปิดประตูพี่” แล้วก็สิ้นสุดการไลฟ์

-------------

กระทั่ง เวลา 10.44 น. หยกได้ไลฟ์อีกครั้ง ที่หน้าโรงเรียน โดยมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน แต่โรงเรียนปิดประตูไว้ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปได้

กลุ่มเพื่อนของหยก มีการตะโกนสอบถามว่า ทำไมไม่เปิดประตูให้เด็กเข้าเรียน “แน่จริงสอบถามนักเรียนสิว่า เขาอยากใส่ชุดไปรเวท และย้อมผม มาเรียนมั้ย ตอนนี้ประสานเรื่องถึงไหน” บางช่วงมีการตะโกนต่อว่าอาจารย์ ที่หน้าโรงเรียน

เวลาต่อมา หยกตัดสินใจปีนรั้วเข้าไปในโรงเรียน จากนั้น อาจารย์ได้ถามว่า ทำไมถึงปีนเข้ามาในโรงเรียน ทั้งที่ เดี๋ยวโรงเรียนจะเปิดประตูให้ หยกจึงบอกว่า ขอเข้ามาเรียนตามปกติ ก่อนตัดไลฟ์ไป
-------------
วานนี้ (14 มิ.ย. 66) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า เบื้องต้นผู้อำนวยการโรงเรียนรายงานว่า ยังไม่มีการให้น้องหยกออกจากโรงเรียน โดยยังคงสภาพความเป็นนักเรียนของโรงเรียน ยืนยันว่า น้องหยกยังสามารถเข้าเรียนได้ตามปกติ

ส่วนจะสวมใส่ชุดไปรเวตเข้าเรียนได้หรือไม่นั้น ก็ต้องดูตามระเบียบของโรงเรียน ซึ่งอาจจะมีบางวันที่สามารถสวมใส่ได้ ต้องเป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน

ซึ่งการที่น้องหยกสวมใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียน โดยให้เหตุผลเรื่องสิทธิเสรีภาพนั้น สิทธิเสรีภาพคงต้องคำนึงว่าเราอยู่ในองค์กรใด และต้องให้ความเคารพต่อระบบ และระเบียบของโรงเรียนนั้น ซึ่งไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่ไม่ว่าจะเป็นในสังคมใดก็ตาม ก็ต้องเคารพถึงระบบ และระเบียบขององค์กรนั้นๆ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนและนักเรียนต้องคำนึงถึง
-------------

เว็บไซต์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เผยแพร่แถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยมีนายปรีชา จิตรสิงห์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนา ลงนามในแถลงการณ์ ระบุว่า

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามสื่อต่างๆ และช่องทางโซเชียลมีเดียนั้น คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียน สมาคมนักเรียนเก่า ชมรมครูเก่า เครือข่ายผู้ปกครอง รวมถึงสภานักเรียน ขอแถลงการณ์ ดังนี้

1. หยก สำเร็จการศึกษาชั้น ม.3 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมาย วันที่ 1 เม.ย.2566 มารดาของหยก มาบันทึกขอเลื่อนการมอบตัวเพื่อศึกษาต่อระดับชั้น ม.4

ต่อมาวันที่ 19 พ.ค. 2566 โรงเรียนได้รับรายงานตัวหยกไว้ก่อน เพื่อรักษาสิทธิ์ในการศึกษาต่อ (หลังจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี จ.นครปฐม ได้ปล่อยตัวในคดี ม.112)  

ซึ่งในการรายงานตัวดังกล่าวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการมอบตัวตามประกาศการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ซึ่งโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนเข้าเรียนก่อน และเน้นย้ำให้นำผู้ปกครอง (มารดา) มามอบตัวนักเรียนให้สมบูรณ์ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่โรงเรียนจะต้องยืนยันข้อมูลจำนวนนักเรียนในระบบ DMC ของกระทรวงศึกษาธิการ

แต่นักเรียนไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบ จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปีการศึกษา 2566

2.หลังจากหยกเข้าเรียนในวันที่ 22 พ.ค. 2566 โรงเรียนได้ชี้แจงให้รับทราบระเบียบแนวปฏิบัติตามคู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ที่ผ่านการประชาพิจารณ์โดยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และนักเรียนทุกคนได้ปฏิบัติตามระเบียบนี้ แต่หยกไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ไม่แต่งกายชุดนักเรียน การทำสีผม การมาเรียนตามเวลา/รายวิชาตามความพอใจของนักเรียน รวมทั้งขอไม่เข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธง และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการไม่ยอมรับกฎระเบียบและไม่เข้าสู่กระบวนการของโรงเรียน


3.โรงเรียนขอเน้นย้ำให้ทราบว่า ไม่เคยปฏิเสธการรับนักเรียนเข้าเรียน และได้ให้การดูแลตามระบบ ดูแลการช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ถึงแม้นักเรียนไม่ได้ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงพฤติกรรม ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

----------------