ข่าวโซเชียล

กรรมการอึ้ง! โชเฟอร์แท็กซี่ อธิบายละเอียดยิบ นโยบาย ‘เงินดิจิทัล 1 หมื่น’ แนะเพื่อไทย ตั้งเป็นโฆษกเถอะ

โดย nattachat_c

14 เม.ย. 2566

240 views

ในโลกออนไลน์ ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ได้เผยแพร่คลิปคนขับแท็กซี่รายหนึ่งได้อธิบาย เรื่องเงิน 1 หมื่นบาท ได้อย่างเชี่ยวชาญ ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ทั้งคำศัพท์ทางเศรษฐศาสตร์


โดยบทสนทนาดังกล่าว ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนทัศนะ ระหว่างคนขับแท็กซี่และผู้โดยสาร หลักๆ คือเรื่องนโยบาย ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ของพรรคเพื่อไทยที่กำลังเป็นประเด็นในสังคม รวมถึงความคิดเห็นต่อเรื่องการบริหารเศรษฐกิจประเทศ โดยเรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า…


ผู้โดยสาร: เขาใช้เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ใช้เหรียญโทเคน


แท็กซี่ : ใช่ เขาต้องไล่ไปศึกษาว่าเงินดิทัล มันคือเงินอะไร ใช้ได้สี่กิโลเมตร มันจะควบคุมรัศมีโดยบัตรประชาชนอยู่แล้วไง ผ่านรหัสบัตรประชาชน คนไหนอยู่ที่ไหน แล้วต้องใช้ภายใน 6 เดือน เพราะฉะนั้น การใช้จะทำให้เกิด Demand (อุปสงค์) เขาเรียกว่า Take power of demand เป็นการสร้างอุปสงค์ให้มากขึ้น ขายของมากขึ้น ผลิตมากขึ้น เงินมากขึ้น ซื้อมากขึ้น ภาษี VAT เข้ารัฐมากขึ้น GDP โตมากขึ้น เอามา subsidy ส่วนต่างที่มันหายไป แล้วมันจะขึ้นมาประมาณ 3 ล้านล้านบาท


ผู้โดยสาร : โห 3 ล้านล้านเลยหรอพี่


แท็กซี่ :  เอ้อ มูลของมันที่จะเกิดขึ้น ที่นี้มองในเชิงหลักบริหารจัดการสิ เงินเป็น Asset นะครับ เงินเป็นสินทรัพย์ แล้วสินทรัพย์จะมีประโยชน์ มีมูลค่าก็ต่อเมื่อ management หรือมีการบริหารจัดการนะครับ แต่ผู้บริหาร ต้อง Trust and confidence ต้องมีความเชื่อมั่นเชื่อถือนะครับ ถ้าไม่น่าเชื่อถือ ต่อให้คุณพูดยังไงก็ไม่มีใครเชื่อนะครับ


ผู้โดยสาร : คนเชื่อมั่นเพื่อไทย ทำได้แน่


แท็กซี่ : แน่นอน อย่าลืมนะ พรรคเพื่อไทยเขาเป็นตัวรับรองนโยบาย ทุกนโยบายที่คิดขึ้นมา เขาต้องทำได้ ไม่อย่างนั้นเขาเสียครับ


ผู้โดยสาร : อื้ม เสียฟอร์มนี่แย่เลย


แท็กซี่ :  ไม่ได้เลย 20 ปี ไปดูนโยบายของเพื่อไทยยังอยู่หมดนะครับ กองทุนหมู่บ้าน จากล้าน ขึ้นเป็น 5 ล้าน สินค้า OTOP ขายดีที่สุดในประเทศไทย SME ถ้าเกิดทักษิณอยู่มันคงไม่เกิด NPL (หนี้เสีย) ขนาดนี้ แล้วที่ดีที่สุดก็คือ 30 บาทรักษาทุกโรคสิครับ


ผู้โดยสาร : เอ้อ ได้ประโยชน์ทุกคน


แท็กซี่ :  โอ้โห ไปดูในโรงพยาบาลจุฬาฯ  โรงพยาบาลรามาฯ  บัตรทองล้วนๆ ครับ ทีนี้ หลักการคิดบัตรทองนั้น ก็คือไม่เอาเงินเข้า พอไม่เอาเงินเข้า คนก็มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น มันก็ซื้อมากขึ้น ภาษีเข้ารัฐมากขึ้น GDP มากขึ้น


ผู้โดยสาร : ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้


แท็กซี่ : ใช่ อันนี้แหละเขาเรียกว่า Take power of demand


โดยชาวเน็ตถึงกับบอกว่า “พี่เขาต้องเป็นประธานบริษัทอุตสาหกรรมอะไรสักอย่างแน่นอน แล้วปลอมตัวมาขับแท็กซี่ มีความรู้ด้านเศรษฐกิจการเงิน การบริหารจัดการและสามารถอธิบายโดยใช้คำพูดเข้าใจง่าย ถ้าพรรคเพื่อไทยเห็นคลิปนี้ต้องเชิญพี่เข้ามาเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยแล้วครับ ประเทศไทยเรามีคนที่มีความรู้และมีความสามารถเยอะมาก ขาดแค่เพียงโอกาสครับ”

-----------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/VGc1AFlAtmc


คุณอาจสนใจ

Related News