เคลียร์แล้ว! เก๋งหัวร้อนถอยชนเก๋งจอดขวางทางเข้า-ออก ที่แท้เป็นญาติ ทะเลาะกัน ถอยชนระบายอารมณ์

วานนี้ (วันที่ 21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโซเซียลแชร์ คลิปเหตุการณ์ ขณะที่รถยนต์สีเทาที่ด้านท้ายพังยับเยิน ที่ถอยหลังไปชนกับรถเก๋งอีกคันที่จอดอยู่ ด้านหน้าได้รับความเสียหาย ก่อนที่รถเก๋งสีเทาคันดังกล่าวจะขับพุ่งเข้าไปในซอย และถอนหลังออกมา จากนั้นได้ขับรถและขับหลบหนีไป

ส่วนคลิปที่สอง เป็นภาพจังหวะที่รถเก๋งคนดังกล่าว ถอยมาชนกับรถเก๋งอีกคันจนหม้อน้ำของรถแตก ก่อนจะขับรถหลบหนีไป

จากนั้นสำนักข่าวเกียรติภูมิ ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า สรุป #กรณีคลิปคนขับหัวร้อน ปรากฏว่าเป็นการทะเลาะกันในครอบครัวเดียวกันครับ  #เกิดการทะเลาะและทำร้ายร่างกายกัน ระหว่างลูกชายของครอบครัว เรื่องนิสัยและเรื่องสมบัติ สุดท้ายทำร้ายร่างกายกัน แล้วคนที่เป็นน้องชายก็ออกมาจากบ้าน #ระบายอารมณ์ด้วยการขับรถชนรถของพี่เขยที่จอดอยู่เสียเลย เพราะเคืองที่พี่เขยมาช่วยเถียงด้วย     


หมายเหตุ ซอยนั้นเป็นที่ส่วนบุคคลไว้จอดรถของครอบครัว ซึ่งมีทั้งหมด 3 คัน คันที่มีเรื่องคือกันของลูกเจ้าของบ้านชนกับของพี่เขย ซึ่งจอดอยู่ด้วยกันแหละ #เขาจอดอยู่ในนั้นทั้งคู่ครับไม่มีการจอดขวางทางเข้าออกอะไรทั้งนั้น ปล. #คนถ่ายคลิปไม่ใช่เจ้าของรถนะ

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สอบถามเจ้าของรถเก๋งที่ถูกถอยชน ทางเจ้าของรถได้ให้ข้อมูลว่า จริงๆแล้วตามภาพที่ปรากฏในโลกโซเชียล ว่ารถตนนั้นได้จอดขวางประตูทางเข้าบ้านคนอื่นซึ่งมีป้ายติดไว้อย่างชัดเจน จนเป็นเหตุให้เจ้าของบ้านนั้น ไม่พอใจ ได้ถอยรถชนตนเองนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่าบริเวณประตูบ้านที่ตนจอดรถเป็นบ้านของตัวเอง และคนที่ถอยชนก็เป็นคนในบ้านตัวเองเหมือนกัน


ซึ่งก่อนหน้าที่จะถอยชนนั้น ได้มีปากเสียงกันภายในครอบครัว เนื่องจากผู้ที่ถอยชนนั้น มีอาการคลั่งยาเสพติด จึงก่อเหตุตามภาพดังกล่าว หลังจากที่ถอยรถชนรถตนเสร็จก็ได้ขับรถหนีไป

ต่อมาตนได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้าช่วยเหลือ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ออกไล่ล่าติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา บริเวณถนน เส้นสาริกา-นางรอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คงยคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครนายก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำพยาน และตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งก่อนตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี ต่อไป.

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YNpaXriMR0I