ชายคลุ้มคลั่งโวยวายขวางแท็กซี่

จากกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียล ที่มีเหตุการณ์ชายคลุ้มคลั่งยืนเอาเท้าเหยียบบริเวณด้านหน้ารถแท็กซี่คันหนึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาในช่วงเวลา 08:00 น. เกิดที่บริเวณถนนวุฒากาศ ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส วุฒากาศ

ช่วงเช้าวันนี้ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่ไปบริเวณจุดเกิดเหตุพบกับ นายสมชาย เปรมเดช อายุ 62 ปี วินรถจักรยานยนต์ที่อยู่ในเหตุการณ์และเป็นผู้ช่วยเจ้าที่ตำรวจควบคุมตัวชายคลุ้มคลั่งคนนี้ ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองมาที่วินรถจักรยานยนต์ตั้งแต่เช้าของทุกวันแล้วจะอยู่ถึงประมาณสองถึงสามทุ่ม เมื่อวานช่วงเช้าขณะที่ตนเองกลับมาจากการส่งผู้โดยสารก็พบว่าชายคนดังกล่าวมีอาการเริ่มโวยวายคลุ้มคลั่งและ ใช้เท้าถีบไปที่บริเวณด้านหน้ารถแท็กซี่คันหนึ่งและยืนกีดขวางถนนซึ่งถนนดังกล่าวเป็นถนนที่ประชาชนจะใช้ในการขับรถทำให้เกิดการจราจรติดขัดยาวไปถึงบริเวณสี่แยกวุฒากาศ จนในเวลาต่อมามีเจ้าที่ตำรวจจราจรของ สน. ตลาดพลู เข้ามาที่เกิดเหตุ

แต่ในช่วงแรกยังไม่สามารถคุมตัวชายคนดังกล่าวได้ก่อนที่จะมีตำรวจมาสมทบอีกหนึ่งนายและเริ่มมีการเข้าควบคุมตัว ซึ่งขณะที่ตำรวจเข้าไป ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันและชายคนดังกล่าวได้รัดคอตำรวจกลับ ตนเองจึงเข้าไปช่วย แกะมือชายคนดังกล่าวออกจากคอตำรวจ และควบคุมตัวซึ่งขนาดนั้นชายคนดังกล่าวได้พยายามตะโกนบอกว่ายอมแล้วยอมแล้ว และตำรวจได้มีการคุมตัวมาสงบสติอารมณ์บนฟุตบาทและเปิดการจราจรไป

ซึ่งในส่วนของตัวรถแท็กซี่คันที่ชายคนดังกล่าวขวางไว้ก็ไม่ได้มีการลงมาจากรถและขับออกไปตามปกติซึ่งตนเองและสังเกตว่าชายคนดังกล่าวแม้ว่าจะยืนขวางและเอาเท้าถีบกระโปรงหน้าของรถแท็กซี่แต่ก็ไม่ได้มีการด่าทอประชิดตัวคนขับรถแท็กซี่ไม่เหมือนกับคนที่มีปัญหาทะเลาะวิวาทกันแต่เป็นลักษณะของการมองขึ้นไปในที่สูงและพูดจาลอยๆเพียงคนเดียวในเชิงว่า กำลังทะเลาะวิวาทมีปากเสียงอยู่กับใครคนหนึ่งซึ่งสายตาไม่ได้มองมาที่บุคคลใดเลยในจุดเกิดเหตุ แต่เป็นการมองไปในที่สูงเหนือรถแท็กซี่ คล้ายคนสติไม่ดี ส่วนตัวไม่เคยเห็นหน้าชายคนนี้มาก่อนและไม่เคยเจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ แต่ก็อยากฝากถึงประชาชนทั่วไปหากเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขอให้รีบติดต่อ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ อย่าเข้าไประงับเหตุเองเพราะอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นได้หากมีการทำร้ายร่างกายกัน ขณะที่ใน

ส่วนของทางตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ทีมข่าวได้สอบถามไปที่ตำรวจ สน. ตลาดพลู ทราบว่าในส่วนของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นชายเร่ร่อนที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ซึ่งชายคนดังกล่าวมีสติไม่สมประกอบทางตำรวจจึงมีการนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเป็นที่เรียบร้อย และในเบื้องต้นไม่ได้มีการดำเนินคดีใดๆ เพราะไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับทางผู้ก่อเหตุ