ข่าวโซเชียล

เปิดใจ คุณหมอจิตอาสา ช่วยผู้ป่วยใกล้หมดสติบนเครื่องบิน ดีใจที่ได้ช่วย รับเจอเหตุฉุกเฉินบ่อย

โดย nattachat_c

17 ก.พ. 2566

14.6K views

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา เพจ tAH AND FRIENDS ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “มีคนกำลังจะหมดสติอยู่บนเครื่องบิน ที่บินจากญี่ปุ่นกลับไทยวันนี้ เพราะมีอาการแพนิค บวกกับมีโรคประจำตัวบางอย่าง ญาติๆเห็นว่าท่าทางจะไม่ดี เลยกดปุ่มเรียกพนักงานบนเครื่องมาช่วยดู ทั้งแอร์และสจ๊วตทุกคน พยายามปฐมพยาบาลเบื่องต้นอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนคนไข้จะอาการแย่ลงเรื่อยๆ


จนในที่สุดมีสจ๊วตคนนึงตัดสินใจ ไปพูดออกลำโพงเพื่อประกาศขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน จากทุกคนบนเครื่องบิน ตามหาคนที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์มาช่วยเหลือ


พอประกาศจบ ระหว่างที่คนในเครื่องกำลังแตกตื่น มีคุณหมอคนนึงลุกขึ้นมาจากบริเวณที่นั่งกลางลำ เดินเข้ามาแสดงใบประกอบวิชาชีพกับพนักงาน แล้วรีบตรงมาที่คนไข้ ไม่นานจากนั้นก็มีพี่ที่เป็นนางพยาบาล ลุกตามขึ้นมาช่วยดูอีกคน คุณหมอเข้ามาพร้อมกับที่ตรวจฟังเสียงหัวใจ สอบถามอาการจากญาติของคนไข้ และฟังเสียงชีพจรอยู่ไม่นาน พี่ที่เป็นพยาบาลก็ขอดูอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยาทั้งหมดที่มีอยู่บนเครื่องที่ทางพนักงานขนออกมาให้


คุณหมอกับพี่พยาบาลคุยกันเรื่องตัวยาแปปนึง แล้วคุณหมอก็ส่งตัวยาขวดหนึ่งให้กับพี่พยาบาล คุณหมอหันขึ้นมาบอกสรรพคุณของยา และวิธีรักษาตอนนี้ให้กับคนไข้และญาติ พี่พยาบาลข้างหลังเตรียมเข็มฉีดยาเสร็จ ก็ส่งให้ในมือคุณหมอ แล้วก็ฉีดยาตัวนั้นให้คนไข้เรียบร้อย กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่นานนัก และคนป่วยก็มีอาการที่ดีขึ้น เตรียมตัวส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกที หลังจากถึงกรุงเทพแล้ว


ผมซึ่งนั่งอยู่เยื้องๆด้านหลังจากคนบนป่วยนิดหน่อย เห็นเหตุการณ์อยู่ทั้งหมด รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น ความหวาดเสียว มันทั้งน่ากลัวและกดดัน แต่ในขณะเดียวก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นหัวใจอย่างที่สุดเช่นกัน


คนเราเกิดขึ้นมาเพื่ออยู่ร่วมกันจริงๆนะ เราต่างเป็นคนสำคัญของกันและกันในบางเวลาจริงๆ ฉากที่คุณหมอและพี่พยาบาล ลุกขึ้นมาจากที่นั่งมันเท่สุดๆไปเลยสำหรับผม หลายๆคนอาจจะบอกว่า เราต้องเกิดมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข แต่จริงๆแล้วนอกจากจะดูแลตัวเอง เราอาจจะเกิดมาเพื่อดูแลผู้อื่นด้วยก็ได้นะ ขอบคุณคุณหมอ พี่พยาบาล และพนักงานบนเครื่องบินทุกคนมากๆนะคับ ขอพระเจ้าอวยพรทุกคน”


ต่อมาวานนี้ (วันที่ 16 ก.พ.) ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ นายแพทย์ภานุวัฒน์ ชัยสิทธิ์ แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแพทย์ที่เข้าไปช่วยรักษาผู้ป่วยอาการใกล้หมดสติ บนเครื่องบินไฟลท์หนึ่ง ที่กำลังเดินทางจากญี่ปุ่นกลับมาสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย


คุณหมอภานุวัฒน์ เล่าว่า พนักงานบนเครื่องบิน ประกาศขอความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งขณะนั้นตนเองกำลังหลับอยู่ แต่พ่อกับแม่ของคุณหมอที่นั่งข้างๆ จึงสะกิดเรียกคุณหมอให้ตื่น จากนั้นคุณหมอจึงได้ยกมือ พร้อมแจ้งชื่อ แสดงบัตรของแพทยสภา ให้พนักงานบนเครื่องบินและญาติคนป่วยดู และรีบเข้าไปช่วยเหลือคนไข้ เมื่อสอบถามอาการพบว่าคนไข้มีอาการมาตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง คือมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด จะเป็นลมคล้ายจะหมดสติ ซึ่งก่อนหน้านั้นพนักงานบนเครื่องบินให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น จึงต้องประกาศขอความช่วยเหลือทางการแพทย์


จากนั้นคุณหมอจึงเข้าไปตรวจสอบอาการคนไข้ พบว่าผู้ป่วยเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30 กว่าๆ คุณหมอซักประวัติเพิ่มเติม ทำการวัดความดัน วัดชีพจร จากการตรวจสอบพบว่า คนไข้ยังไม่มีอาการฉุกเฉิน เช่น ใจสั่น หายใจเร็ว แน่นหน้าอก หรือมีอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง คนไข้ยังไม่มีอาการเหล่านี้ จึงขอให้ทางพนักงานบนเครื่อง เตรียมยาและอุปกรณ์กู้ชีพฉุกเฉินบนเครื่องที่มีทั้งหมด เพื่อจะใช้รักษาผู้ป่วยให้ถูกอาการ


คุณหมอจึงอธิบายอาการให้ญาติคนไข้ และคนไข้ฟังว่า อาการที่เป็นลักษณะคล้ายๆอาการบ้านหมุน คล้ายๆอาการกลุ่มแพนิค ซึ่งการรักษามีทั้งการกินยาก็ได้ ฉีดยาก็ได้ ญาติคนไข้จึงเลือกการรักษาด้วยการฉีดยา


จากนั้นคุณหมอจึงอธิบายถึงยาที่จะใช้ฉีดให้คนไข้ และฉีดยาลดอาการวิงเวียนศีรษะที่บริเวณต้นแขนขวาของคนไข้ หลังฉีดยาก็ให้สังเกตอาการตนเอง และสามารถเรียกคุณหมอได้ตลอดเวลา


จังหวะนั้นมีพยาบาลที่อยู่บนเครื่องบินด้วยอีก 1 คน เป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลนาโพ จ.บุรีรัมย์ ก็เข้ามาช่วยกันดูแลคนไข้ด้วย โดยพยาบาลเป็นผู้ที่ช่วยเตรียมยาให้คุณหมอ ซึ่งพยาบาลรายดังกล่าว ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เป็นนักท่องเที่ยวที่ซื้อทัวร์ ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นพร้อมกัน


เมื่อฉีดยาครบ 1 ชั่วโมงแล้ว คุณหมอจึงขออนุญาต จากญาติคนไข้ และพนักงานต้อนรับ เข้าไปดูแลอาการคนไข้อีกครั้ง พบว่าคนไข้มีอาการดีขึ้น อาการวิงเวียนลดลง คุณหมอจึงได้แนะนำการดูแลตนเองในเบื้องต้นไป เพราะคนไข้ต้องมีไฟลท์บินต่อ


เมื่อเครื่องบินถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็แยกย้ายกันกลับ แต่ได้มาเจอญาติคนไข้ช่วงที่รอรับกระเป๋าเดินทาง ซึ่งทางญาติคนไข้เอง ก็เดินมาขอบคุณคุณหมอก่อนจะแยกย้ายกันด้วย


คุณหมอเล่าว่า โดยส่วนตัวแล้ว ตนเองก็มีโอกาสช่วยเหลือคนไข้คนแบบฉุกเฉินเช่นนี้บ่อยๆอยู่แล้ว เพราะบ้านของคุณหมออยู่ติดถนนใหญ่ บริเวณ 4 แยก ซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นประจำ คุณหมอจึงต้องช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุอยู่เสมอ ตั้งแต่ดูแลเล็กน้อย กระดูกหัก จนถึงปั๊มหัวใจผู้ป่วยที่หน้าบ้านตัวเอง ก็เคยทำมาแล้ว ดังนั้นด้วยวิชาชีพของแพทย์ก็ยินดีช่วยผู้ป่วยอยู่แล้ว


ทั้งนี้คุณหมออยากฝากให้ประชาชนทุกคน ให้ความสำคัญกับการปฐมพยาบาลหรือการช่วยชีวิตเบื้องต้น เพราะเป็นสิ่งจำเป็น ควรเรียนรู้ตั้งแต่ช่วงเด็กหรือวัยรุ่น เพราะทุกคนมีโอกาสอยู่แล้ว ที่อาจเจอกับเหตุการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจำเป็นต้องใช้มันในวันไหน ความรู้เบื้องต้นการทำ CPR การปั้มหัวใจ การดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น ควรเรียนรู้ในทุกคน


สุดท้ายคุณหมอฝากข้อคิดไว้ว่า ช่วงจังหวะชีวิตเรา อาจเจอเหตุการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของบุคคล อยากให้มีการเรียนรู้ การช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น เผื่อได้ช่วยชีวิตใคร เหมือนที่ต้นคลิปได้โพสต์ไปว่า มนุษย์เราเกิดมาเพื่ออยู่ร่วมกัน และอาจมีบางเวลา ที่เราจำเป็นต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ไม่รู้จักก็ได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9xaxobd6SNY

คุณอาจสนใจ

Related News