ชายแดนอีสานปะทะเดือด ชาวบ้านหลบในบังเกอร์ มองสู้รบยืดเยื้อ คงไม่จบใน 4-5 วันนี้

ชาวบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ โพสต์คลิปตั้งแต่ช่วงตี 4 กว่า พร้อมระบุว่า หนักตั้งแต่ตี 4 ครับ โดยเป็นภาพท้องฟ้าที่ยังมืดสนิท ซึ่งมีแสงไฟจากกระสุนปืน BM21 ลอยเข้ามาเป็นระยะ

โดยคลิปต่อมาเป็นช่วงประมาณ 7 โมงเช้า ได้ยินเสียงปืนดังถี่มาก จะแทบจะไม่มีเว้นช่องว่าง ซึ่งเจ้าของโพสต์บอกว่า หนักเอาเรื่อง ผ่านไปไม่กี่นาที ได้โพสต์คลิปเสียงระเบิดแน่น ๆ ดังอย่างต่อเนื่อง พร้อมข้อความ หนักแล้วครับบ้านเรา

ขณะที่เพจ ส่องเขมร โพสต์ภาพคลิปที่คนเขมรลงไว้ เป็นภาพจรวด BM21 ถูกยิงข้ามมาฝั่งไทย พร้อมแคปชั่น "ลาก่อน"

ด้านเพจ Army Military Force โพสต์คลิปที่ถ่ายจากฝั่งเขมร เป็นภาพการปะทะกันเดือด ที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีเสียงปืนใหญ่ดังสนั่นทั่วชายแดน ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านแนวชายแดน บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ชาวบ้านที่ไม่อพยพ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. ต่างพากันหลบอยู่ในบังเกอร์ตั้งแต่เมื่อคืน หลายครอบครัวถึงขั้นหอบสุนัข และสัตว์เลี้ยงเข้าไปอยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัย

นายทองดี อายุ 52 ปี ผู้ป่วยโปลิโอ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ เผยว่า เมื่อคืนมีเสียงปืนดังยาว ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงประมาณตี 3 ก่อนจะเงียบลงชั่วคราว กระทั่งตีสี่ 50 นาที เสียงปืนทั้งปืนเล็กและปืนใหญ่ก็กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง และยังคงดังเป็นระยะไม่หยุดจนถึงเช้าวันนี้ โดยรอบนี้เสียงปืนมีความถี่กว่าครั้งก่อนอย่างชัดเจน

แม้ทางการจะมีคำแนะนำให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง แต่ตนยังคงตัดสินใจอยู่บ้าน เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน และคุ้นชินกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ เพราะเคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว จึงไม่รู้สึกหวาดกลัวมากนัก อยากให้ทหารรบให้มันจบ ๆ ไป จะได้กลับไปกรีดยาง ออกไปทำงานตามปกติ ชาวบ้านเขาก็ลุ้นกันทุกวัน ว่าจะรบกันอีกเมื่อไร ถ้าไม่จบพวกเราก็ยังไม่สบายใจ

ขณะที่ชาวบ้านในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ใกล้กับช่องอานม้า 1 ในจุดปะทะสำคัญ ตอนนี้อพยพไปเกือบ 100 เปอร์เซนต์แล้ว เหลือเพียงผู้ชายไม่กี่คนที่อยู่เฝ้าหมู่บ้าน และทุกคนฝากข้อความถึงรัฐบาลเร่งจัดการให้เด็ดขาด เพื่อคืนความสงบสุขแก่ชาวบ้าน

ทีมข่าวเดินทางเข้าไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.โซง อ.น้ำยืน ห่างจากช่องอานม้าเพียง 10 กว่ากิโลเมตร พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เดินทางไปอยู่ที่ศูนย์อพยพใน อ.เดชอุดม เกือบหมดหมู่บ้าน เหลือเพียงผู้ชายบางส่วนที่ยังหลบอยู่ในบังเกอร์ เพื่อเฝ้าดูแลความเรียบร้อย ท่ามกลางกระแสข่าวว่าทางกัมพูชา จะใช้จรวดหลายลำกล้อง หรือ BM-21 ยิงเข้ามาในไทย

อย่างในบังเกอร์จุดนี้มีชาวบ้านรวมตัวกันกว่า 10 คน แต่ละคนจะมีเสื่อที่ใช้ปูนอน ผ้าห่ม และไฟฉายเท่านั้น 1 ในชาวบ้านที่เข้ามาหลบในบังเกอร์ เล่าว่า เวลากินข้าวก็ออกไปกินที่โรงครัว กินเสร็จก็กลับมาอยู่ในบังเกอร์ ไม่มีใครกล้าอยู่บ้านเพราะมันเสี่ยง กลางวันเสียงยิงปะทะกันดังมาก และต่อเนื่องแทบทั้งวัน และตั้งใจว่าถ้าเสียงปืนเงียบจะขี่มอเตอร์ไซต์กลับไปดูบ้าน แต่ถ้ามีเสียงระเบิดมาอีกจะกลับมาที่บังเกอร์ เพราะไม่รู้ระเบิดจะมาลงตรงไหน

พร้อมฝากถึงรัฐบาล เอาให้เรียบร้อยไปเลย ไม่ต้องมีครั้งที่สาม เอาให้จบครั้งนี้ ให้เบ็ดเสร็จไปเลย แต่มองว่าน่าจะยืดเยื้อ คงไม่จบภายใน 4-5 วันนี้

ไม่ต่างจากบังเกอร์อีก 1 จุด ที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านใช้รวมตัวกัน ก็มีชาวบ้านมาอยู่ด้วยเพียงไม่กี่คน ชรบ. ยอมรับว่า บอกว่า แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่แต่ก็มีความกังวล และรู้สึกกลัว ในแต่ละวันถ้ายังมีเสียงระเบิดก็ต้องนั่งเฝ้าอยู่แต่ภายในบังเกอร์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย จะออกจากบังเกอร์เฉพาะตอนไม่มีเสียงยิงปะทะ เพื่อออกไปตรวจตราดูทรัพย์สินตามบ้านเรือน และเฝ้าระวังคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากเกี่ยวกับความมั่นคง

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บรรยากาศตลอดช่วงเช้าถึงเที่ยง มีประชาชนเดินทางมาขึ้นรถ เพื่อเดินทางต่อไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวอย่างต่อเนื่อง แต่ทีมข่าวไปเจอนาง รำไพ คงควร อายุ 61 ปี ที่ต้องหลบอยู่ในบังเกอร์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของอำเภอบ้านกรวด ไม่ได้อพยพออกไปด้านนอก เธอพูดทั้งน้ำตาว่า กลัวมาก แต่ไม่รู้จะออกจากหมู่บ้านยังไง เพราะไม่มีรถ ไม่มีเงิน ศูนย์อพยพก็อยู่ไกล จึงต้องมาหลบอยู่ที่นี่กับเพื่อนบ้าน ยังคุยกันเลยว่า ถ้าระเบิดตกลงมาในพื้นที่เราจะอยู่กันยังไง อยากให้รัฐบาลเร่งจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย อย่าให้ยิงกันอีก ชาวบ้านจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข

สำหรับ อ.บ้านกรวด มีทั้งหมด 118 หมู่บ้าน มีประชาชนประมาณ 41,000 คน ตอนนี้อพยพออกไปราว 30,000 คน รวมถึงโรงพยาบาลบ้านกรวด ที่อพยพผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ไปหมดแล้ว ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงถึง 194 คน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/3_VAb5GvkE4