ข่าวโซเชียล

โซเชียลเดือด สาวโพสต์ถูกพ่อแท้ๆ บีบคอ แม่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ช่วยเหลือ

โดย kanyapak_w

2 ก.พ. 2566

3.3K views

(2 ก.พ.) เฟซบุ๊กผู้ใช้บัญชีรายหนึ่ง โพสต์อ้างเล่าเหตุการณ์ ว่ามีการทะเลาะวิวาทในครอบครัวและถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอ ขณะที่แม่ไม่ได้สนใจ พูดว่า "มันเป็นบ้าไปแล้ว จับมันขังไปเลยไหม" ทำให้โลกออนไลน์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ล่าสุด ทีมข่าวติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ดังกล่าว เผยว่า กำลังจะไปพูดคุยกับพ่อแม่ 



โดยในโพสต์ระบุข้อความว่า "สวัสดีค่ะ หนู นางสาวเอ(นามสมมติ) เมื่อเวลา 8 นาฬิกาได้ถูก นายบี (นามสมมติ) ผู้ซึ่งเป็นพ่อทำร้ายร่างกายค่ะ พ่อได้มีการปาโทรศัพท์หนูทิ้ง และมีการบีบคอหนูอยู่สองครั้งกดและกดลงไปที่พื้น ได้มีการตบหน้าหนูอยู่สามครั้งด้วยกัน โดย ที่ผู้เป็นแม่ นางซี(นามสมมติ) ซึ่งได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ แต่ได้มีการเพิกเฉยต่อการกระทำที่รุนแรงและได้มีการพูดคำว่า "มันเป็นบ้า ไปแล้วจับมันขังไปเลยมั้ย” นี่คือคำเดียวที่คนเป็นแม่ได้พูดออกมาในขณะที่พ่อยังบีบคอหนูอยู่ค่ะ หนูอยากทราบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เราจะสามารถฟ้องได้มั้ยคะ ใช่ค่ะพ่อหนูเป็นตำรวจซึ่ง เขารับรู้กฏหมายเหล่านี้แต่หนูไม่สามาถปกป้องตนเองได้ค่ะ ถ้าใครรู้ว่าสามารฟ้องได้ตรงไหนรบกวนช่วยบอกด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ  ตอนนี้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น”พ่อ” และ ”แม่” ได้ทำการลบหนูออกจากช่องทางเฟสแล้วค่ะ"




ต่อมาได้มีผู้ใช้บัญชีอีกรายหนึ่ง มาโพสต์อ้างว่าได้เจอกับพ่อแม่ของหญิงคนดังกล่าวแล้ว ระบุข้อความว่า "วันนี้อาจมีหลายคนเห็นโพสขอความช่วยเหลือจากน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ขอความช่วยเหลือว่าถูกพ่อทำร้ายบีบคอ ปาโทรศัพท์ลงพื้นหรืออื่นๆ รู้สึกสงสัยและไม่สบายใจเลยคิดว่าต้องมีอะไรซักอย่าง วันนี้จึงเดินทางไปหาข้อเท็จจริงที่บ้านน้อง น้องอยู่ในสถานะที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ฐานะ กาศึกษาต่างประเทศ ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาครอบครัว ด้วยน้องเรียนต่างประเทศเพื่อนในไทยจึงมีน้อยมากและแล้ววันหนึ่งเพื่อนสนิทของน้องได้จากไปเพราะอุบัติเหตุ จุดพลิกผันจึงเริ่มเข้ามา น้องอยู่ตัวคนเดียวไร้เพื่อนอาการของโรคซึมเศร้าได้ก่อกำเหนิดขึ้น น้องใช้เวลาทั้งวันเก็บตัวเทรดทองคำ หมกตัวอยู่แต่ในห้องดูกราฟ ดูแล้วไม่น่ามีอะไร แต่อย่าลืมว่าการเทรดเหมือนการพนันชนิดหนึ่ง มีแต่เสียไม่มีได้ น้องหมดเงินไป หลายล้านบาท เงินมาจากไหนได้มาจากการขอพ่อแม่ จนมาวันนี้ เป็นวันที่น้องขอเงินครั้งละเป็นหมื่นเช่นที่ทำประจำทุกวัน แต่ด้วยอารมณ์ของคนป่วยซึมเศร้าหลายคนจะรู้ดีการกระทำบางอย่างดูไม่ดีในด้านอารมณ์เลย จุดที่ระเบิดอารมณ์ทั้งสองฝ่ายจึงตามมาลงท้ายด้วยการเจ็บตัวและเสียใจทั้งสองฝ่ายการเข้าไปหาน้องครั้งนี้พยายามอธิบายว่าไม่ใช่พ่อไม่รักแต่จังหวะที่ระเบิดอารมณ์ใส่กันมีความรุณแรงผสมไปด้วย เป็นเรื่องที่ควรให้อภัยกัน การรักษาน้องที่ดีที่สุดคือพาออกโลกภายนอก



พรุ่งนี้จะพาน้องไปสภาประชุมกรรมมาธิการด้วย น้องจะได้เจอเพื่อนเจอเรื่องที่ตัวเองไม่เคยเห็น และจะพาน้องไปร่วมงานด้วยบ่อย หวังว่าสักวันน้องจะหายดี


ปล.หมาของน้องเอามาลงให้ดูเฉยๆ"






ต่อมาทางด้านของหญิงที่ออกมาได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตัวเองอีกครั้ง และได้ชี้แจงเรื่องการเทรดและใช้เงินของที่บ้าน รวมถึงเรื่องอื่นๆ จนทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก




ระบุข้อความว่า "จากโพสที่มีบุคคลหนึ่งซึ่งได้เขียนข้อความลงเรื่องราวเกี่ยวกับตัวหนู หนูเลยอยากจะออกมาอธิบายข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นค่ะ จากที่ได้อ่านมา การที่มาโพสต์แบบนี้จุดประสงค์ของพวกคุณคืออะไรคะและคำที่บอกว่า”อาละวาด” จุดไหนคะที่บอกว่าอาละวาดจะให้เล่าความจริงทั้งหมดได้ค่ะ หนูได้มีการปาโทรสับใส่พื้นและนั่นคือจุดเริ่มต้นทั้งหมดคุณพ่อได้มีการหยิบโทรสับนั้นมาปาต่อหนูได้มีการยื้อแย่งโทรสับของคุณพ่อเพื่อที่จะมาปาทิ้งเหมือนกันค่ะหลังจากนั้นคุณพ่อก็ได้บีบคอหนูแล้วกดลงไปที่พื้นพร้อมกับตบหน้าหนูโดยที่หนูไม่ขัดขืนอะไรแล้วบอกไปว่าเอาให้ตายนะแล้วผู้ที่เป็นแม่ได้พูดขึ้นมาว่า”มันเป็นบ้าไปแล้วจับมันขังเลย” คุณพ่อได้บอกว่าไปเอากุญแจมือมา ซึ่งในระหว่างที่หนูโดนบีบคออยู่นั้นหนูไม่ได้ขัดขืนแม้แต่อย่างใดและไม่มีคำว่า”อาละวาด”ออกมา เขาพูดจบเขาทั้งสองก็ได้ออกจากบ้านไป แต่การที่คุณมากล่าวหาว่าเหตุผลที่คุณพ่อและคุณแม่ไม่กลับบ้านมาเป็นเพราะกลัว”การอาละวาด” ซึ่งตรงนี้อยากจะถามกลับไปว่าคนที่ถูกกระทำอย่างหนูควรจะรู้สึกไม่ปลอดภัยมากกว่ามั้ยคะ และการที่คุณมาโพสแบบนี้โดยที่ไม่ได้รับการยินยอมจากทางฝ่ายเรามันถูกต้องแล้วหรอคะ พวกคุณได้เดินทางมาที่บ้านพร้อมกับบิดเบือนความจริงที่ว่าหนูเป็นผู้ถูกกระทำ และทำให้ดูเหมือนว่าเป็นแค่การเข้าใจผิดพวกคุณได้บิดเบือนข้อมูลแม้กระทั่งเรื่องของเพื่อนหนูที่จากไป หนูไม่ได้เป็นโรคจากตรงนั้นค่ะและหนูไม่ได้ไร้เพื่อน การที่เทรดเสียหมดเป็นหลายล้านส่วนนีงมันก็เป็นเงินของหนูด้วยในนั้นไม่ใช่เงินของพ่อแม่ทั้งหมดและเช่นกันค่ะหนูไม่ได้ขอเงินทุกๆวันเช่นเดียวกัน อารมณ์ป่วยซีมเศร้าหนูมีผลแค่การถูกกระตุ้นจากสิ่งรอบข้างและหนูรู้ตัวหนูเองค่ะว่าหนูไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่หนูทำได้ตอนนั้นคือ”การปาโทรสับซึ่งเป็นของหนูเอง” ลงพื้นเพื่อระบายความโกรธ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่คนเป็นพ่อต้องถึงกับมาบีบคอและตบหน้าเพียงเพราะปาโทรสับลงพื้นค่ะ กรุณาอย่าบิดเบือนความเป็นจริงและขอให้มีจรรยาบรรณเหมือนนักข่าวที่พวกคุณได้เข้ามาคุยในวันนี้ การที่พวกคุณบอกรักษา แล้วมาโพสแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน หวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก อย่าเอาคำว่าหวังดีมาบังหน้าถ้าไม่คิดว่าจะช่วยเหลือจริงๆ ขอบคุณค่ะ"







ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ด้าของหญิงที่อ้างว่าถูกทำร้าย เผยว่า ตอนนี้กำลังเตรียมที่ไปพูดคุยกับพ่อแม่แล้ว และทีมข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ที่ออกมาตอบโต้มาตนนั้นได้เดินทางไปพบพ่อแม่ของหญิงรายดังกล่าว เปิดเผยว่า ในตอนนี้ พ่อแม่น้องยังไม่อยากเผชิญหน้ากับน้อง







คุณอาจสนใจ

Related News