ข่าวโซเชียล

หมอหนุ่มป่วยมะเร็งอัปเดตร่างกายตอบสนองการรักษา ฝึกจิตใจให้พบกับความสงบ

โดย nattakarn_l

25 ธ.ค. 2565

6.7K views

           คุณหมอกฤตไท  ธนสมบัติกุล  เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "สู้ดิวะ" ที่ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายทั้งที่เป็นคนชอบออกกำลังกาย มีสุขภาพแข็งแรงและอายุยังน้อย   ล่าสุดโพสต์เฟซบุ๊กอัปเดตอาการของตัวเอง หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4  ซึ่งคุณหมอบอกว่า ถือเป็นช่วงที่ได้ใช้ชีวิตได้ดีมากที่สุด  เพราะก่อนหน้านี้ เคยคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตได้ดีแล้ว แต่เมื่อป่วยก็สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีให้กับชีวิต ปลดล็อกตรรกะการคิดใหม่  

       อย่างเช่นเมื่อ 3 เดือนก่อน ตนไม่กล้าคิดถึงช่วงเวลาที่อากาศเย็น มีต้นคริสมาสต์ที่ประดับไฟ ผู้คนออกมาแต่งตัวสีเขียวแดง และแลกของขวัญกัน รวมถึงการที่จะได้มาสวัสดีปีใหม่ทุกคนเช่นนี้  เพราะต้องรับยาเคมีบำบัด ยากระตุ้นภูมิ ต้องรับมือกับผลข้างเคียง  ระวังไม่ให้ติดเชื้อหรือมีอะไรแทรกซ้อน หลังจากอาการนิ่งก็เตรียมร่างกายเพื่อรับยาครั้งต่อไปในอีกสามสัปดาห์ต่อไป  จึงไม่ได้วางแผนอะไรที่เกินเดือน  เพราะไม่มีอะไรแน่นอน จึงไม่กล้าคิดถึงงานปีใหม่หรืองานวันเกิดตัวเอง

             ทำให้ชีวิตในแต่ละวันของตนช้าลง แต่ก็ละเอียดขึ้นมากเช่นกัน  เพราะต้องสังเกตทุกอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกาย  ต้องลงรายละเอียดกับการเลือกอาหาร เลือกน้ำ การออกกำลังกาย กินยา และจัดการกับสิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างน้ำประปาที่เคยใช้ตามปกติ พอมากรองดูก็เพิ่งรู้ว่ามันสกปรก  และอากาศที่เหมือนจะเป็นสิ่งจำเป็นแรกสุดของมนุษย์ ล่าสุดก็ต้องติดเครื่องแรงดันบวก เพื่อดันอากาศที่สกปรกออกจากห้อง เราอยู่ในยุคสมัยที่ต้องซื้ออากาศสะอาดหายใจแล้วจริงๆครับ  

         แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการจัดการกับสภาพจิตใจ เพราะสิ่งที่มากระแทกชีวิตตอนนี้มันแรงมากพอที่จะต้องลงทุนเพื่อพัฒนาสุขภาพจิตตัวเองแล้ว  มีเวลาและเหตุผลให้กับตัวเองมากพอ ที่จะทุ่มเทกับการศึกษาศาสตร์ของจิตใจ ทั้งทางศาสนา และทางจิตวิทยา   ในช่วงที่ป่วยนี้ ได้เจอกับโจทย์ชีวิตใหม่  ซึ่งหนังสือก็ยังคงเป็นทางออกแรกๆที่เลือกจะมองหา   โดยคุณหมอกำลังมองหาหนังสือที่พูดถึงชีวิตจริงๆ การพัฒนาจิตใจให้รับมือกับความตาย  หนังสือที่ไม่ได้ติดอาวุธให้ไปสู้ในสังคมทุนนิยม   แต่มองหาหนังสือที่ติดอาวุธให้ไปสู้กับความกังวลในใจผม   ถ้าอาการแย่ลง คือตนจะเป็นหมอที่ดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย เพราะแทบจะรู้ทุกอาการที่จะเกิดจากภาวะต่างๆ ขั้นตอนการช่วยเหลือ หัตถการการยื้อชีวิต รวมถึงอาการในช่วงสุดท้าย

       ตนจะต้องที่จะรับมือกับสภาวะจิตใจนี้โดยที่ไม่อาศัยเพียงความเชื่อ แต่อยากได้หลักการที่เป็นเหตุเป็นผลได้  ไม่เอาบทสวดภาวนาหรือพิธีการที่ตนเองอาจเข้าไม่ถึง  ไม่ได้ตามหาหนังสือศาสนาขั้นสูงเพราะคงอ่านไม่เข้าใจ  คุณหมอบอกว่า ในช่วงที่ผ่านมา  ได้อ่านหนังสือสองสามเล่มที่ช่วยให้ผมมีมุมมองในการรับมือกับปัญหาเหล่านี้  เรียกว่าเป็นการติดอาวุธให้ตัวเองไปสู้กับตัวเองข้างใน  เพราะเมื่อก่อนเอาแต่ติดอาวุธไปสู้โลกข้างนอก สู้กับ Disruption สู้กับ AI  

          คุณหมอบอกว่า ตอนนี้ยังเตรียมสอนนักศึกษา วางแผนจะกลับไปทำงานให้ได้เหมือนเดิม  ยังจ่ายบัตรเครดิต ยังวุ่นวายกับงานเอกสารเพื่อเบิกเงิน กำลังจะออกไปซื้อของขวัญปีใหม่  ยังอยากแต่งจักรยาน แต่งงาน และยังต้องผ่อนบ้าน  แต่คุณหมอจะอัพสกิลด้านจิตใจ เพื่อฝึกตัวเองให้รับมือกับความตายที่อาจจะมาถึงในวันหนึ่ง

            สุดท้ายคุณหมอ แจ้งข่าวดี คือ ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาดีมากๆ ก้อนใหญ่ที่ปอดขวาเล็กลง ก้อนเล็กที่ปอดซ้ายก็หายไปหมด ล่าสุดฟิตกว่าสามเดือนที่แล้ว  ตอนนี้เหมือนได้ปอดใหม่  และรอดูก้อนในสมองช่วงต้นปีอีกที แต่หวังว่าจะไปในทิศทางเดียวกัน  

“สรุปคือ สามเดือนนี้ผมชนะ ในเกมส์ที่มีโอกาสแพ้มากกว่า  มีสิทธิที่จะฉลองการชนะในรอบนี้นะ ตอนนี้ผมเองได้เรียนรู้ว่าความสงบคือความสุข   ได้เรียนรู้ว่าชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่คุ้มค่า ได้เรียนรู้ว่าชีวิตธรรมดาคือชีวิตที่มีความหมาย Merry Christmas และ สวัสดีปีใหม่ครับ”

คุณอาจสนใจ

Related News