'หมอของขวัญ' โพสต์ขอโทษ ยอมรับว่าบ้ง ยกตัวอย่าง 5 ล้านกับความกตัญญู

จากกรณีหมอของขวัญ ไลฟ์แสดงความคิดเห็นเรื่องดรามาพิมรี่พาย วานนี้ (18 มี.ค.) โดยเธอระบุช่วงหนึ่งว่า " เมื่อไหร่ฉันจะเลี้ยงพ่อแม่ได้อย่างพี่พิม เอาเงิน 5 ล้านไปกองใส่พ่อ ซึ่งนั่นคือกตัญญู เขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสอง คุณทำได้อย่างเขาไหมในอายุ 30 นิด ๆ คุณทำได้อย่างเขาหรือไม่ และจะทำได้อย่างเขาเมื่อไหร่ อันนี้ต่างหากที่คุณจะต้องถามตัวเอง” จนทำให้ชาวเน็ตไม่พอใจ ดันแฮชแท็กหมอของขวัญติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ล่าสุด วันนี้ (19 มี.ค.) หมอของขวัญได้โพสต์ชี้แจงถึงกรณีนี้ผ่านเฟซบุ๊ก Doctorkatekate พร้อมขอโทษในประเด็่นการยกตัวอย่างเรื่องเงินจำนวน 5 ล้านบาทกับความกตัญญู โดยในโพสต์ระบุว่า

"อยากจะขอชี้แจงในดราม่าของประเด็นพิมรี่พาย ในมุมของหมอบ้างนะคะ

1 ก่อนอื่นที่ จะตัดสินสิ่งที่หมอพูดกรุณาดูคลิปเต็ม ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ได้เต็มทั้งหมดเท่าที่หมอสัมภาษณ์เพราะมันเป็นรายการแล้วก็ต้องตัดอยู่ดีเนื่องด้วยความจำกัดของเวลา ไม่เอาคลิปตัดแค่บางส่วน แล้วตัดสินคนอื่นนะคะ

2 ประเด็นที่หมอพูดหมออยากจะ Drive สังคม ให้สังคมรู้สึกว่าเอาสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร มาพัฒนาให้ตัวเองดีขึ้น ไม่ใช่ว่าเห็นใครตกต่ำแล้วก็รู้สึกว่ามีคนตกต่ำไปพร้อมกัน แล้วรู้สึกดี หมอเข้าใจค่ะช่วงนี้ข้าวยากหมากแพง ไม่มีใครไม่กระทบหรอกค่ะ ทุกคน ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น แต่อยากจะให้มองมุมกลับในเชิงบวก อยากจะให้รู้สึกว่าถ้ามีใครที่ประสบความสำเร็จ ในจุดเองที่หมอก็ยอมรับว่าน้องมาไกลมาก ให้เอาเขามาเป็นแรงผลักดันทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นอันนี้คือความหมายที่หมออยากจะสื่อ

3 การที่หมอบอกว่าเอาเงิน 5 ล้านไปกองให้พ่อนั่นคือกตัญญู คือหมอไม่ได้หมายความว่าการเอาเงิน 5 ล้านไปกองคือกตัญญู แต่เนื่องจากหมอรู้จักพิมรี่พายส่วนตัวมาถึงได้ทราบว่า สิ่งที่เขาแคร์มากและดูแลเป็นอย่างดีมากๆ คือคุณพ่อและคุณแม่ของเขาค่ะ

ยกตัวอย่างนะคะ หมอได้มีโอกาส ไปสถานที่ 1 กับพิมรี่พาย เดินผ่านคลินิก ช่วยฟัง พิมรี่พายสั่งเลขาทันทีว่าให้จดเบอร์เอาไว้ พ่อของเขา เริ่มมีปัญหาเรื่องการฟัง ให้เอาพ่อมาที่นี่พ่อจะได้สบายขึ้น อาจจะเป็นหมอผิดเอง ที่ไม่ได้อธิบายเยอะ ภาวะมองเห็นหลายมุมในคำว่า "กตัญญู" ของน้องค่ะ

เพียงแต่ว่าหมอต้องขออภัยด้วยที่อาจจะยกตัวอย่างได้ไม่หมดเพราะว่าเวลาในรายการ มันสั้นเราอัด รายการกัน เกือบชั่วโมงแต่ว่าด้วยความจำกัดของพื้นที่สื่ออาจจะตัดมาได้เพียงไม่กี่นาที

4 ประเด็นที่พิมพิพายเหยียดคนจน ในบางครั้งหมอก็ไม่เห็นด้วย เช่นเรื่องส้ม หรือคำพูดที่ว่า ถ้าลงคลิปความดี มึงก็ให้อภัยกู อันนี้หมอมองว่าไม่ถูกต้องนะคะ แต่การที่ วันนี้มีคนตอกย้ำ 1 comment ของคุณว่าชีวิตเขาตกต่ำ คุณต้องลองไปหาดู (เยอะมากๆๆๆ) บวกกับ คนที่มีภาระเยอะมากเป็นเสาหลักของครอบครัว บางครั้ง1  Comment ของคุณเช่นกัน และกำลังใจเล็กๆนิดเดียว อาจจะทำให้เขาลุกขึ้นยืนได้เร็วขึ้นและปรับปรุงตัวในจุดที่พลาดได้เร็วขึ้น จริงหรือไม่ค่ะ แต่ในภาคส่วนของคำพูดที่รุนแรง และหยาบคาย หรือพาดพิง ใครหลายๆคน ซึ่งหมอก็ไปฟังแล้วว่าเขาไม่ได้พาดพิงเฉพาะเจาะจง เพียงแต่เขาอาจจะอ่านคอมเม้นนั้นแค่คอมเม้นเดียว แล้วพูดออกไลฟ์ comment ที่ว่าชีวิตเขาตกต่ำมันไม่ได้มี comment เดียวนะคะ และอีกอย่างหนึ่ง การจะบอกว่า ถ้าตัวเองตกต่ำก็หยุดไลฟ์ แล้วไปรักษาจิตใจตัวเองก่อนหมอจะบอกว่าก็ที่เขาบอกไงค่ะค่าใช้จ่ายเขาเดือนละ 50 ล้านพนักงาน 3000 คนจะเอาอะไรกินถ้าพิมรี่พายหยุดไลฟ์ขายของคะ?

5 หมออยากให้คิดอย่างนี้นะคะ สมมุติว่า วันนั้นเป็นวันที่แย่มากของเรา แล้วมีคนมาพูดที่ใจดำเรา ทำให้เรายิ่งแย่ บางคนถ้าเป็นโรคซึมเศร้าอาจจะฆ่าตัวตายได้เลยนะคะ ถ้าคุณอยู่ในไลฟ์ของพิมรี่พาย คุณก็น่าจะเป็นแฟนคลับเขาประมาณนึง ขนาดหมอไม่ได้ดูไลฟ์เขา หมอยังรู้สึกว่า ถ้าเป็นหมอการที่คอมเม้นชีวิตตกต่ำคนดูน้อยจัง( ซึ่งไม่ได้มีเม้นเดียวนะคะ แต่ข่าวตัดมาไม่หมด และน้องอ่านออกไลฟ์แค่เม้นเดียว( แต่ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่ได้อ่านอันอื่นนะคะ)) ทำไมไม่เปลี่ยนเป็นว่าไม่เป็นไรนะสู้ๆ คนดูน้อยเดี๋ยวจะซื้อของมากขึ้น จะทำให้สังคมทั้งหมดคิดไปในทางบวก และก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ที่ดี มาทำให้สังคมดีขึ้นมีความเกลียดชังน้อยลง ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกดี รู้สึกแย่น้อยลงในวันที่แย่นะคะ

6 หมอรู้สึกว่า ช่วงนี้พิมรี่พาย น่าจะหนักมาก อาจจะมาจากผลจากการกระทำของเขาเมื่อก่อน แต่มันดีกว่าหรือไม่คะ ถ้าคนที่ล้มแล้วเราไม่เหยียบซ้ำ มันจะดีกว่าไหมคะแค่คอมเม้นเราคอมเม้นเดียว ให้กำลังใจทำให้คนๆนึงลุกขึ้นมาได้ หรือคอมเม้นเดียวอาจจะทำให้ จิตใจเขาย้ำแย่ลงก็ได้นะคะ หมอไม่ได้พูดถึงประเด็นที่หมอไม่เห็นด้วยของพิมรี่พาย รู้จักก็ไม่ได้แปลว่าเข้าข้างๆค่ะนี่คือจุดยืนของหมอเสมอมา

7 สุดท้ายนี้หมออยากจะบอกว่า ถ้าสังคมดีขึ้น คุณภาพชีวิตของเราจะดีขึ้นตาม เราจะลำบากน้อยลง ที่หมอออกมาพูดทุกวันนี้หมอไม่ได้ลำบากนะคะ หมอเป็นห่วงพวกคุณที่ลำบากค่ะ วันไหนหมอทำอะไรที่ถูกใจคุณ คุณก็ให้กำลังใจหมอ วันไหนหมอทำอะไรที่ไม่ถูกใจคุณ คุณก็ทัวร์ลงหมอ หมอถามว่า ประเพณีปฏิบัตินี้ควรจะเลิกได้ในสังคมไทยได้หรือยังคะ การวิจารณ์โดยสุจริต หมอเคารพและ สิ่งใดที่ไม่เหมาะสม หมอก็จะรับ ขอโทษ และปรับปรุงแก้ไขในอนาคต แต่การวิจารณ์ด้วยการเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง หรือแม้แต่ตัดแต่เพียงบางช่วงบางตอนทำ Content เพื่อให้คนรุมด่าหรือรุมสาบ คนดูเยอะๆ  มีฝ่ายไหนได้ประโยชน์และทำทำไมคะ แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่อง การวิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์ วิจารณ์หมอได้สิ่งใดไม่เห็นด้วยกับหมอสิ่งใดเห็นด้วยกับหมอรับฟังค่ะ แต่ขอการวิจารณ์แบบเชิงสร้างสรรค์และเอาเหตุผลมาคุยกันนะคะไม่เอาอารมณ์

เคารพในความคิดของทุกท่านขอบคุณสำหรับผู้ที่เข้าใจ และขออภัยที่เห็นต่าง กับผู้ที่ไม่เห็นด้วยนะคะ❤

#หมอของขวัญ"

หมอของขวัญยังระบุอีกว่า "แต่ในภาคส่วนของคำพูดที่รุนแรง และหยาบคาย หรือพาดพิง ใครหลายๆคน ซึ่งหมอก็ไปฟังแล้วว่าเขาไม่ได้พาดพิงเฉพาะเจาะจง เพียงแต่เขาอาจจะอ่านคอมเม้นนั้นแค่คอมเม้นเดียว แล้วพูดออกไลฟ์ comment ที่ว่าชีวิตเขาตกต่ำมันไม่ได้มี comment เดียวนะคะ และอีกอย่างหนึ่ง การจะบอกว่า ถ้าตัวเองตกต่ำก็หยุดไลฟ์ แล้วไปรักษาจิตใจตัวเองก่อนหมอจะบอกว่าก็ที่เขาบอกไงค่ะค่าใช้จ่ายเขาเดือนละ 50 ล้านพนักงาน 3000 คนจะเอาอะไรกินถ้าพิมรี่พายหยุดไลฟ์ขายของคะ?"

และในโพสต์ต่อมาหมอของขวัญก็ได้ออกมาขอโทษในประเด็นดังกล่าว ระบบุข้อความว่า "เมื่อวานหมอขอโทษทุกคนด้วยนะ ที่ทำคลับเฮาส์ห้องเรื่องมีอยู่ว่าเสียบรรยากาศและไม่ค่อยฟังคุณหมอทั้งสองท่าน ขออภัยจริงๆค่ะ ????

และเรื่องพิมรี่พาย หมอเคยสัมผัสความกตัญญูของน้องผ่านการเป็นห่วงสุขภาพพ่อแม่ และน้องก็หนักและเป็นเสาหลักในครอบครัว แต่ดันไปปกป้องด้วยการยกตัวอย่างเรื่องกตัญญูด้วยเงิน 5 ล้านที่ต้องยอมรับว่าบ้ง ต้องขออภัยจริงๆ???? การไม่สนใจเรื่องโครงสร้างสังคมที่ไม่น่าสนับสนุน เช่นเป็นลูกที่ดี ต้องให้เงินพ่อแม่เยอะๆ ทำให้หลายคนรู้สึกแย่ ในอนาคต หมอจะคิดให้รอบด้านกว่านี้เวลาสัมภาษณ์และ จะปรับปรุงให้ดีขึ้น และระมัดระวังคำพูดให้มากกว่านี้ค่ะ???? #หมอของขวัญ"