ม.3 ขายนมเปรี้ยวตามไฟแดง หาเงินค่าเทอม-ส่งเงินให้แม่ เจ้าตัวเผย อยากจบม.6

จากรณีผู้ใช้ติ๊กต๊อก Yui Suyu ได้โพสต์เรื่องราวความประทับใจหลังพบเด็กชายรายหนึ่ง ยืนอยู่กลางแยกไฟแดง ใส่ชุดนักเรียนยืนขายนมเปรี้ยว โดยผู้โพสต์ไม่ได้ซื้อนม แต่ให้เงินเด็กชายเอาไว้ ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าเด็กชายรายนี้ทำงานหาเงินมาจ่ายค่าเทอม เนื่องจากค้างค่าเทอมไว้ 3 เทอม จึงมีการนัดหมายและนำเงินไปจ่ายค่าเทอมที่ค้างไว้ ให้กับเด็กชายรายนี้ จนเป็นกระแสที่ชื่นชมในความขยันของเด็กชายและความใจบุญของผู้โพสต์ติ๊กตอกรายนี้

วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อตามหาเด็กชายขายนมคนในคลิป ก่อนจะพบกับเด็กชายกิตติธัช ร่วมกล้า หรือน้องนัท อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3/4 ของโรงเรียนดังกล่าว น้องนัท เปิดเผยว่า เดิมที่ตนเองมีครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อเปิดกิจการอู่ซ่อมรถ กระทั่งเมื่อห้าปีที่แล้ว คุณพ่อได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ทำให้เสาหลักของบ้านหายไป จากนั้นคุณแม่ต้องขายอุปกรณ์ซ่อมรถบางส่วนออกไป บางส่วนส่งต่อให้น้องชายพ่อ เพื่อหาเงินทุนสักก้อนมาเปิดร้านอาหารตามสั่ง แต่ช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมาทำให้ไม่มีคนมากินข้าวที่ร้าน ทำให้คุณแม่ต้องตัดสินใจกลับไปทำนา ที่บ้านเกิดจังหวัดสระแก้ว เหลือเพียงตนเองและพี่ชาย จนไม่นานมานี้พี่ชายของตนจับทหารได้ใบแดง จึงต้องเข้ากรมไปเป็นทหาร ตนเองจึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจทำงานนั้น เพราะอยากได้เงินมาจุนเจือใช้จ่ายในครอบครัว ทำงานขายนมเปรี้ยวตามแยกไฟแดงมาแล้วประมาณ 1 ปี ซึ่งช่วงปิดเทอม ตนเองจะต้องขี่รถจักรยานยนต์สมบัติของพ่อ ไปกลับประมาณ 40 กิโลเมตร เพื่อไปขายนมเปรี้ยวบริเวณแยกไฟแดงไผ่ดำ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ได้ค่าแรงวันและ 300-400 บาท เริ่มงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น จากนั้นตนเองจะขอนมเปรี้ยวกลับมา นำไปขายตามร้านอาหารยามค่ำคืน ถึง 4 ทุ่ม ก่อนจะเข้าบ้านอาบน้ำนอน ส่วนช่วงเปิดเทอมก็จะออกไปขายหลังเลิกเรียนและวันเสาร์ อาทิตย์ก็จะทำเต็มวัน ตนเองอยากเรียนต่อให้จบ ม.6 และฝันไว้ว่าอยากทำงานดีๆ จะได้ไม่ลำบากจึงต้องอดทน ทุกวันนี้ต้องแบกรับภาระคือเรื่องอาหารการกิน และการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงค่าไฟฟ้าที่ ตนเองต้องหามาจ่ายเดือนละประมาณ 1,500 บาท ทั้งๆที่บ้านที่ตนพักมีเพียงพัดลม 1 ตัว และตู้เย็น 1 เครื่อง ไม่มีเครื่องไฟฟ้าอื่นใด

ส่วนสาเหตุที่ต้องเสียค่าไฟแพงนั้น เพราะที่บ้านของตนเป็นอู่เก่า ต้องใช้ไฟ 3 เฟส จึงมีการคิดค่าไฟฟ้าสูงกว่ามิเตอร์บ้านปกติ ซึ่งตนเองต้องออกไปทำงาน 3-4 วันในการเก็บเงินไว้จ่ายค่าไฟ ส่วนกระแสที่โลกโซเชียวที่ชื่นชมตนเองนั้น ก็รู้สึกดีใจและขอขอบคุณทุกๆ คน ร่วมถึงพี่พยาบาลใจดี คนที่เข้ามาจ่ายค่าเทอมให้ตน ตนสัญญาจะเป็นเด็กดี ขยันทำงาน และอดทน ต่อสู้ต่อไป

ด้านนางพวงแก้ว ตั้งมานะ อายุ 60 ปี แม่ค้าร้านส้มตำหน้าบ้านน้องนัทเปิดเผยว่า น้องนัทเป็นเด็กดี ขยัน รู้จักสัมมาคาราวะ อ่อนน้อมถ่อมตน จึงเป็นที่รักของคนโดยรอบ ถึงแม้ที่บ้านของน้องนัทจะเคยมีฐานะ แต่น้องนัทก็เป็นเด็กเรียบร้อยและนิสัยดีมาก่อนหน้านี้แล้ว