สังคม
เปลวเพลิงแดงเป็นทิวยาว ไฟป่า 'ภูห้วยส้ม-ภูลำไย' ยังดับไฟไม่ได้
26 ม.ค. 2568
80 views
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีภาพที่ชาวบ้านในอำเภอผูกระดึงส่งมาให้ โดยเป็นภาพการเกิดไฟป่าที่บริเวณภูห้วยส้ม ตรงข้ามบ้านห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย โดยไฟป่าดังกล่าวได้ลุกไหม้ป่ามาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน เป็นทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร เห็นได้ชัด เมื่อขับรถผ่านถนนสาย เลย-ภูกระดึง ถนนหมายเลข 201
คาดมีพื้นที่เสียหายแล้วประมาณ 200-300 ไร่ ไฟป่าดังกล่าวได้ทำให้เกิดควัน PM 2.5 เป็นฝุ่นไปทั่วบริเวณ รัศมีหลายกิโลเมตร ตอนนี้ยังไม่สามารถดับไฟป่าได้ อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปในพื้นที่ช่วยกันดับไฟป่าดังกล่าว
ส่วนที่นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสอบเหตุไฟป่าบริเวณเขาภูลำไย ซึ่งเป็นพื้นที่การฝึกทางยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 2 และเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ท้องที่บ้านมาบพิมานพัฒนา และบ้านซับก้านเหลือง ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่เริ่มลุกไหม้มาตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.68 ที่ผ่านมา
โดยสถานการณ์ยังคงมีไฟป่าลุกไหม้อยู่บริเวณทิศเหนือของภูเขาเพิ่มเติมต่อเนื่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ เพราะเป็นจุดที่มีความเสี่ยงที่อาจจะยังมีวัตถุระเบิดจากการฝึกหลุดรอดตกอยู่ในพื้นที่ แต่ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่จาก 19 หน่วยงานเกือบ 200 นาย เข้าทำแนวกันไฟระหว่างพื้นที่ป่าและที่ทำกินของชาวบ้าน เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน
โดยภายหลังจากที่บินสำรวจพื้นที่แล้ว ในเบื้องต้นแล้วทางแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จากนายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพบว่าไฟป่าบริเวณเขาภูลำไยได้ลุกไหม้พื้นที่ไปแล้วประมาณ 1,200 - 1,600 ไร่ และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มเติมเนื่องจากยังไม่สามารถส่งกำลังเข้าไปดับไฟได้ ทางแม่ทัพภาคที่ 2 จึงได้สั่งการให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานเตรียมพร้อมอากาศยานเพื่อเข้าทำการดับไฟซึ่งคาดว่าหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายจะสามารถเข้าดำเนินการได้ ภายในวันที่ 26 ม.ค.นี้
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พื้นที่เขาภูลำไย ขณะนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว เบื้องต้นทราบว่ามีพื้นที่ป่าถูกไฟเผาไปแล้วกว่า 1,000 ไร่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในส่วนของเศษกิ่งไม้ใบหญ้าแห้งแล้ววัชพืชที่อยู่ตามผิวดิน ในขณะที่ต้นไม้จะได้รับความเสียหายไม่มากนัก และได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแก้ไขปัญหา และในวันนี้ (26 ม.ค.) จะได้มีการระดมทรัพยากรในการดับไฟจากทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นทางกองทัพบก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งนี้เนื่องจากมีก็จำกัดในพื้นที่ที่เป็นที่ลาดชัน ซึ่งยากต่อการทำงาน รวมถึงพื้นที่อีกฝั่งของภูเขาเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการยิงปืนใหญ่ และฝึกทางยุทธวิธีทางทหาร จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้อากาศยานเข้ามาทำการดับไฟคาดว่าน่าจะดำเนินการได้ในวันพรุ่งนี้หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย