สังคม
ล่า ‘อาเฉิน’ หนุ่มจีนคนกลาง หลอกแลกเหรียญคริปโต คดีจีนปล้นจีน ฉกเงินเผ่นหนีออกนอกประเทศ
โดย petchpawee_k
11 ม.ค. 2568
175 views
ล่า ‘อาเฉิน’ หนุ่มจีนคนกลาง หลอกแลกเหรียญคริปโต ล่าสุดเจอเหยื่ออีกเคส สูญ 4.5 ล้าน เผยผลค้นรถตู้อัลพาร์ด หลังใช้ก่อเหตุปล้นเงินสด 5 ล้าน
ความคืบหน้าคดี “จีนปล้นจีน” 2 เคส กลางกรุงเทพฯ โดยเคสแรกถูกชิงเงินสด 5 ล้าน อีกเคสโดนไป 8 ล้าน ล่าสุดตำรวจเจอตัวการแล้ว สั่งการอยู่ “มาเก๊า”
ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์เคสแรก ชิงเงิน 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ม.ค. กล้องวงจรปิดภายในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 จับภาพเวลา 14.12 น. รถโตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ขับเข้ามาที่บ้านจุดเกิดเหตุ มีคนลงจากรถ 1 คน และถอยไปจอดภายในโรงจอดรถในบ้าน ซึ่งรถคันนี้มีผู้เสียหายนั่งมาด้วย
จากนั้น 15.31 น. กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ก่อเหตุขึ้นรถอัลพาร์ด ก่อนจะขับออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว สักพักผู้เสียหาย สวมเสื้อโปโลสีกรม กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว วิ่งตามออกมาจากบ้าน ที่ข้อมือของผู้เสียหายคล้ายกับมีอะไรพันอยู่ด้วย
กล้องที่หน้าปากซอย จับภาพรถอัลพาร์ดสีขาว ขับออกมามุ่งหน้าจะออกไปถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ระหว่างจอดติดอยู่ปากซอย ผู้เสียหายวิ่งตามมา แล้วเรียกวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างให้ขับตามประกบ และพยามยามจะเรียกคนที่อยู่ในรถตู้ แต่รถตู้เลี้ยวออกไปทางสี่แยกห้วยขวางก่อน
จากนั้นผู้เสียหายนั่งวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างตามไปติดๆ แต่ไปคลาดกันตอนที่รถของผู้ก่อเหตุขึ้นทางด่วน ผู้เสียหายจึงนั่งวินมอเตอร์ไซต์กลับมาแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง โดยให้การว่า นัดแลกเงินสด 5 ล้านบาทเป็นเงินคริปโตกับกลุ่มชายชาวจีนที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 12 แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพ แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ยอมโอนเหรียญคริปโตให้ แล้วชิงเงินสด 5 ล้านบาทหลบหนีไป ผู้เสียหายบอกตำรวจว่า ในกระเป๋าเงิน เขาได้ใส่โทรศัพท์มือถือไว้ด้วย โดยระบุจีพีเอสล่าสุดพิกัดอยู่ที่ สวนสุขภาพแต้จิ๋ว เขตยานนาวา เจริญราษฎร 3
หลังรับแจ้งเหตุตำรวจส่วนหนึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังที่เกิดเหตุ ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
ส่วนตำรวจอีกชุดแกะรอยจากจีพีเอสของโทรศัพท์มือถือที่ผู้เสียหายใส่ไว้ในกระเป๋า จนตามไปเจอรถคันนี้ถูกจอดอยู่ที่สุสานสมาคมแต้จิ๋ว เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ก่อนที่รถคันนี้จะเข้าไปจอด ได้ส่งผู้ชายในรถ 2 คน ลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา สูง 4 ชั้น ในซอยเย็นจิต แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะหายตัวไป ซึ่งภายในบ้านตำรวจเจอกระเป๋าเงินสด 5 ล้านบาท
คืนวันที่ 9 ม.ค. ตำรวจจึงเชิญตัวคนที่อยู่ในบ้าน 2 คนมาสอบปากคำ และยึดรถตู้มาตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มที่ สน.ห้วยขวาง แต่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจได้แค่ภายนอกรถ ไม่สามารถเปิดดูภายในรถได้ ดังนั้น ช่วงสายวานนี้ (10 ม.ค.68) ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบรถอย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนอีกเคสเป็นคนจีนโดนหลอกเหมือนกัน เหตุเกิดที่อาคารแห่งหนึ่งย่านพระรามเก้า ผู้เสียหายเป็นชายชาวจีน 2 คน มาแลกเหรียญคริปโต กับชาวจีน 4 คน โดยตกลงกันที่ 8 ล้านบาท ผู้เสียหายได้โอนเหรียญคริปโตไปยังบัญชีของคนชื่อ "เฉิน" ตามยอดเงิน 8 ล้านบาทที่ตกลงกันแล้ว แต่ชายชาวจีน 4 คนบอกว่ายังไม่มียอดโอนมา จึงไม่ส่งเงินสดให้และนำเงินสด 8 ล้านบาทหนีไป ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง
พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ตำรวจยึดเงินสดของกลางกลับคืนมาได้ทั้งหมดแล้ว 2 คดี รวม 13 ล้านบาท และเก็บไว้เป็นของกลาง จนกว่าการทำสำนวนคดีจะแล้วเสร็จ จึงจะส่งคืนให้แก่ผู้เสียหาย โดยทั้ง 2 คดี มีนายเฉินเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง
โดยเรื่องทั้งหมดเกิดจาก ก่อนหน้านี้ นายเฉินเป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทุกครั้งที่มีการเทรดเงินกัน ผู้ขายจะต้องโอนเงินดิจิทัลเข้าบัญชีนายเฉินก่อน เพราะให้ราคาดีกว่าท้องตลาด ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาจึงได้รับความเชื่อใจมาตลอด แต่ล่าสุดเจ้าของเหรียญคริปโตได้โอนเหรียญเข้าบัญชีนายเฉินแล้ว นายเฉินกลับไม่โอนต่อให้กับผู้ซื้อ ทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนเหรียญคริปโตก็ตกอยู่ในมือนายเฉิน
จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า นายเฉินเดินทางออกจากประเทศไทยไปมาเก๊า เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา และตอนนี้อยู่ที่มาเก๊า สั่งการและคุยผ่านแอปฯ เทเลแกรม มาจากที่นั่น พอผู้ขายโอนเหรียญคริปโตเสร็จ นายเฉิน มาดีดตัวเองออกจากแอปฯ เทเลแกรมทันที
สำหรับคดีเงิน 5 ล้านบาท ตำรวจได้สอบปากคำพยานหลายปาก ส่วนเงินสดของกลางจำนวน 5 ล้านบาท ตรวจสอบด้วยเครื่องนับธนบัตรแล้ว พบว่าหายไป 2,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่จะพยายามติดตามเจ้าของอาคารดังกล่าวมาให้ข้อมูล เกี่ยวกับกลุ่มคนจีนที่ขับรถอัลพาร์ด 2 คน ซึ่งขณะนี้รู้ตัวเจ้าของรถอัลพาร์ดแล้ว 1 คน พร้อมประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้ขึ้นบัญชีป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 9 ม.ค. แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ออกหมายจับใครทั้งสิ้น เนื่องจากต้องสอบพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน เพราะอาจจะเข้าข่ายว่าถูกนายเฉินฉ้อโกง
ล่าสุดทีมข่าวเจอเหยื่อของนายเฉิน อีก 1 ราย เป็นคนจีนโดนโกงเงินดิจิทัลไปอีก 4 ล้าน 5 แสนบาท เหตุเกิดในพื้นที่ สน.มักกะสัน ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามพลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ก็เกิดเหตุคนจีนโดนหลอกโอนเงินคริปโตอีกเคส (เคสที่ 3) โดยนัดซื้อขายเงินดิจิทัลกันที่ย่านอาร์ซีเอ ลักษณะจะคล้ายกันกับกรณีเคส 8 ล้านบาท คือ ผู้เสียหายโอนเหรียญคริปโตไปให้นายเฉิน 4 ล้าน 5 แสนบาท แต่ปรากฎว่า นายเฉิน ไม่โอนต่อให้เจ้าของเงินสด ทำให้เจ้าของเงินสดไม่ยอมจ่ายเงิน จนกลายเป็นคดีความ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทีมข่าวไปติดตามที่ สน.มักกะสัน พบว่า ช่วงบ่ายวานนี้ มีชายหญิงชาวจีน 2 คน มาให้ปากคำ แต่ ตำรวจ สน.มักกะสัน ระบุว่า ยังไม่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดใดๆ ได้
ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้เสียหายชาวจีนที่โดนชิงเงินสด 5 ล้านบาทไป เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อขอนำกระเป๋าที่อยู่ในรถโตโยต้า อัลพาร์ด ของคู่กรณีออกมา เพราะด้านในมีเอกสารสำคัญและโทรศัพท์มือถือ พนักงานสอบสวนได้ติดต่อคู่กรณีให้เข้ามาให้ปากคำ และนำกุญแจรถมาเปิด เพื่อนำกระเป๋าให้กับผู้เสียหาย แต่เจ้าของรถยังไม่เดินทางมา ทำให้พนักงานสอบสวนอาจจะต้องให้ช่างกุญแจมาเปิดรถแทน
ต่อมาเวลา 20.20 น. นาย เฉินคุณ ไฉ (MR.Zhenkun Cai) เจ้าของรถโตโยต้า อัลพาร์ด เดินทางมายัง สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดประตูรถให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ เก็บวัตถุพยาน รวมถึง ลายนิ้วมือแฝงทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ซึ่งจากการตรวจสอบพบกระเป๋าเป้สีดำของผู้เสียหาย 1 ใบ ภายในกระเป๋าพบเอกสารประจำตัวของผู้เสียหาย รวมถึงสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่ม โทรศัพท์มือถือ กุญแจห้องพัก
โดยการตรวจสอบครั้งนี้ เป็นการตรวจสอบเก็บหลักฐานตามคำให้การของผู้เสียหาย รวมถึงตรวจสอบว่าใครนั่งอยู่บริเวณส่วนไหนของตัวรถบ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการตรวจสอบนานประมาณ 30 นาที
โดยในระหว่างที่ เจ้าหน้าที่ตรวจรถพิสูจน์นั้น ผู้เสียหายแลเพื่อน ปฏิเสธที่จะลงมาพบเจอกับนายไฉเจ้าของรถ โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่อยากเจอหน้า เพราะรู้สึกไม่ดีตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เสียหาย ได้โชว์บาดแผลบริเวณแขนให้สื่อมวลชนดู ที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับกลุ่มของนายไฉ
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/n7pLlgjE6nw
แท็กที่เกี่ยวข้อง จีนปล้นจีน ,แลกเหรียญคริปโต