รวบแล้ว! 2 แก๊งค้ามนุษย์ อัดแรงงานข้ามชาติใส่ตู้ทึบกระบะ ดับ 3 ทิ้งศพลงป่าละเมาะข้างทาง

จากกรณีชาวโรฮิงญา 26 คน ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ถูกขบวนการค้ามนุษย์ จับยัดขึ้นรถกระบะตู้ทึบ  ยืนเบียดกันมา ไม่ได้กินอาหาร เดินทางข้ามวันข้ามคืน จาก อ.แม่สอด จ.ตาก จะไปที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่พอมาถึงบริเวณพื้นที่หมู่ 4 ต.วังตะกอ  อ.หลังสวน  จ.ชุมพร เกิดมีแรงงานที่อยู่ในตู้ทึบ ร้องโวยวายเพราะขาดอากาศหายใจ พอคนขับรถกระบะกับพรรคพวก ลงมาเปิดตู้ดู ก็พบว่า มีแรงงานที่อาการร่อแร่ 10 ราย จึงสั่งให้คนที่ยังแข็งแรง ลากเอา 10 คนไปทิ้งไว้ในป่าละเมาะ ข้างเชิงเขาวัดเสกขาราม  ก่อนจะขับรถหนีไป

จนพระสงฆ์และชาวบ้านได้ยินเสียงร้องโวยวาย จึงออกมาดูและพบว่า มีแรงงานเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ 2 คน ที่เหลืออาการสาหัส จึงแจ้งเจ้าหน้าที่พาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฎว่า มีแรงงานไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มอีก 1 ศพ รวมเป็น 3 ศพ  ที่เหลืออีก 7 คนอาการสาหัส  ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปพบว่า  มีชาวโรฮิงญาอีก 16 คน ถูกทิ้งไว้ในป่า และหลบซ่อนตัวอยู่

หลังเกิดเหตุ ตำรวจรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดหลังสวน เพื่อจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการค้ามนุษย์ รวม  3 คน จนกระทั่งจับกุมแก๊งขนแรงงานเถื่อนได้ 2 คน คือ นายพิทักษ์  อายุ 30 ปี ทำหน้าที่ขับรถขนชาวโรฮิงญา  และนายเสกสรร อายุ 21 ปี ทำหน้าที่ขับรถนำทาง  พร้อมของกลางรถกระบะตู้ทึบ 2 คัน ที่ใช้ขนชาวโรฮิงญาและใช้เป็นรถนำทาง  โดยจับได้ที่ถนนเพชรเกษม พื้นที่ ต.เขาใหญ่  อ.ชะอำ  จ.เพชรบุรี  เมื่อเวลา 00.20 น.วานนี้ (18 ต.ค.67) ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายยังหลบหนี อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว

ต่อมา เวลา 10.30 น. วานนี้ (18 ต.ค.67) พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.8  และ พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหา เพื่อขยายผลขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ และสอบปากคำชาวโรฮิงญาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ 16 คน  ส่วนที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 7 คน พบว่า อาการสาหัส 1 คน ส่วนอีก 6 คนอาการดีขึ้น พ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่าแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ข้ามชาติ ทำกันเป็นขบวนการใหญ่  เริ่มตั้งแต่นำพาชาวโรฮิงญาทั้งหมดมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา เดินทางไปยังเมืองย่างกุ้ง และเมืองละเมง  แล้วเดินทางต่อ พาไปอาศัยอยู่ที่โกดังแห่งหนึ่งในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา จากนั้นจะมีทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชายแดนของชนกลุ่มน้อย ที่ขึ้นตรงกับทหารเมียนมา นำขึ้นรถทหาร พาไปส่งใกล้ชายแดนด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก  โดยใช้เวลาเดินทางจากจุดเริ่มต้นมายังปลายทางที่ชายแดนแม่สอด  นานเกือบ 1 เดือน   ซึ่งยังมีแรงงานต่างด้าวที่รอลักลอบข้ามฝั่งมายังประเทศไทยอีกมากกว่า 300 คน

นายฮูเซ็ง ฮัมหมัด อายุ 28 ปี ล่ามชาวเมียนมา  เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ทุกคนอ้างว่าเป็นชาวมุสลิมโรฮิงญา  อาศัยอยู่ที่รัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา  แต่ในประเทศเกิดการสู้รบกัน   ทำให้พวกเขาต้องการดิ้นรนหาที่อยู่ใหม่ เพื่อจะได้ประกอบอาชีพ ซึ่งชาวโรฮิงญาทั้งหมดนี้  มีญาติทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย  และเป็นธุระติดต่อนายหน้าชาวโรฮิงญา ที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ประสานกับนายหน้าที่ประเทศเมียนมา ลักลอบนำพาญาติของตนจากฝั่งประเทศเมียนมา มายังประเทศมาเลเซีย

โดยทุกคนต้องจ่ายค่าหัวคนละ 10 ล้านจ๊าด หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 150,000 บาท  โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ก้อน  ก้อนแรกจ่ายให้นายหน้าก่อนเดินทาง 5 ล้านจ๊าด (ประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท)  เมื่อมาถึงชายแดนไทย-มาเลเซีย  ญาติที่อยู่ในมาเลเซีย จะจ่ายให้อีก 5 ล้านจ๊าด   โดยก่อนเดินทางจะนัดหมายให้มารวมตัวกันในสถานที่แห่งหนึ่งที่รัฐยะไข่ เดินทางด้วยเรือหางยาว เป็นเวลา 3 วัน มาขึ้นฝั่งเมืองย่างกุ้ง  แล้วนั่งรถยนต์ 2 คัน  เดินทางไปเมืองละเมง   หลังจากนั้นก็จะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ของทหารบีจีเอฟ มารับช่วงต่อ พาไปส่งที่โกดังแห่งหนึ่งในเมืองเมียวดี  ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก      

จากนั้นนั่งเรือหางยาวจากฝั่งเมียวดี มาฝั่งไทย แล้วเดินลัดเลาะตามเส้นทางธรรมชาติ  ซึ่งจะมีรถกระบะตู้ทึบมารอรับ  แรงงานทั้ง 26 คน ต้องยืนเบียดกันในรถที่ไม่มีช่องระบายอากาศ และมีรถกระบะตู้ทึบอีกคันที่ขับนำทาง  เมื่อขับไปประมาณ 4-6 ชั่วโมงก็จะเปลี่ยนรถ 1 ครั้ง  เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้  โดยรถคันที่ตำรวจจับได้  เป็นรถที่นำมาสับเปลี่ยนเป็นคันที่ 3

ตอนที่ขับมาถึง จ.ชุมพร  ชาวโรฮิงญาที่อยู่ในตู้ทึบหายใจไม่ออก และมีบางคนหมดสติไป ทำให้ที่เหลือพากันถีบตูจนประตูเกือบจะเปิดออกมา ทำให้คนขับจอดรถและเปิดประตูตู้ดู พบว่าทุกคนมีสภาพอ่อนแรง ฟุบกองกันอยู่เต็มกระบะ จึงสั่งให้คนที่ยังพอมีแรง ลากคนที่หมดสติลงมาจากรถ  จากนั้นก็ทิ้งชาวโรฮิงญาทั้งหมดไว้ในป่าละเมาะ ส่วนคนในขบวนการขนแรงงานเถื่อนทั้ง 3 คน หลบหนีไป เหลือไว้แค่น้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวไม่กี่ถุง  คนที่ยังพอมีแรง จึงพากันหนีเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในป่า จนกระทั่งมีชาวบ้านและพระมาพบ

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/-JFjZBFF6Ok