สังคม

น้ำมาแรง บ้านยายสุโขทัยถูกพัดไปทั้งหลัง - แพร้านอาหารพิษณุโลก ถูกซัดลอยไกล 3 กม.

โดย passamon_a

29 ก.ย. 2567

219 views

สุโขทัย ต้านไม่ไหวแล้ว น้ำซัดบ้านยายพัดไปทั้งหลัง - พิษณุโลก น้ำไหลแรงซัดแพร้านอาหาร หลุดจากฝั่งลอยไปไกล 3 กม.


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผนังริมแม่น้ำยม ม.6 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย จุดที่น้ำซัดบ้านนายวัฒนา อายุ 45 ปี ปลิวหายไป 1 หลัง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา


โดยเมื่อช่วงเช้า วันที่ 28 ก.ย. น้ำยังได้ไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรุนแรนต่อเนื่อง จนทำให้เสาบ้านของนางสาวนิตทร อายุ 78 ปี ขาดไปแล้ว 3 ต้น ซึ่งสร้างติดกัน ทำให้กู้ภัยและชาวบ้านต้องกันพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ เนื่องจากว่าเกรงจะเกิดอันตราย ซึ่งบ้านอาจพังลงมาและปลิวกับสายน้ำเป็นหลังที่ 2 ได้ตลอดเวลา


ซึ่งทางด้าน ยายนิต ได้นั่งมองบ้านตัวเองด้วยอาการเครียดและเป็นกังวล พร้อมบอกว่า กลัวบ้านจะพังลงมาและหายไปกับสายน้ำ จนไม่สามารถซ่อมแซมและเข้าไปอาศัยอยู่ที่บ้านได้ เนื่องจากบ้านหลังนี้ตนเองและพ่อแม่ ช่วยกันสร้างมา และอาศัยอยู่ด้วยกัน เมื่อมาาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ตนรู้สึกใจหายและเสียใจ หากบ้านต้องมาพังลงไป แต่ถ้าเกิดบ้านเสียหายจนซ่อมไม่ไหว ก็จำเป็นต้องรื้อและไปสร้างอยู่ที่ใหม่  


กระทั่งในเวลา 18.00 น. บ้านยายนิตก็ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำไว้ได้ ถูกกระแสน้ำพัดลอยไปกับสายน้ำทั้งหลัง นับเป็นบ้านหลังที่ 2 ของประชาชนที่หมู่บ้านนี้ ถูกน้ำยมพัดบ้านพัง หายไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งแม้แต่ทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านก็ไม่สามารถขนย้ายออกมาได้ ขณะที่ทางจังหวัดสุโขทัย ได้เร่งให้การช่วยเหลือครอบครัวยายนิต ในเบื้องต้นแล้ว


สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก พบว่ามีผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 135 ครัวเรือน ในเบื้องต้นได้อพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราววัดท่าทอง จำนวน 18 ครัวเรือน รวม 33 คน


ส่วนที่ จ.พิษณุโลก วันที่ 28 ก.ย. เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระทึกขวัญ แพร้านอาหารขนาดใหญ่ ชื่อร้านอาหารชาวแพ จอดอยู่ในแม่น้ำน่านข้างโรงแรมเดอะแกรนด์ริเวอร์ไซด์ เชิงสะพานเอกาทษรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ได้ถูกความแรงของแม่น้ำน่านพัดหลุดจากฝั่ง ลอยไปกลางแม่น้ำ ชาวบ้านวิตกว่า แพร้านอาหารขนาดใหญ่นี้จะลอยไปชนเรือนแพ และแพร้านอาหาร ที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ทางทิศใต้ของตัวเมือง


อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เกิดแพร้านอาหารชาวแพหลุดออกจากฝั่ง ผู้ดูแลที่เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแพ ได้รีบช่วยกันใช้เรือหางยาวออกติดตาม และประคองแพไม่ให้ไปชนกับเรือนแพที่อยู่อาศัยรวมถึงแพร้านอาหารอื่น ๆ โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถนำแพที่แยกออกจากกันเป็น 2 ส่วน นำไปผูกไว้ริมตลิ่ง โดยส่วนแรกเป็นโป๊ะขนาดใหญ่ ไปผูกติดอยู่ริมตลิ่งฝั่งตะวันออกใกล้เคียงกับโรงสูบน้ำของกองบิน 46 อีกส่วนหนึ่งเป็นลักษณะ แพที่ต่อด้วยโครงเหล็ก และมีถังแกลลอนอยู่ด้านล่าง นำมาผูกติดไว้บริเวณด้านหลัง ร้านอาหารริมหลิ่ง ซึ่งแพที่หลุดมานี้ ลอยไกลจากสะพานเอกาทศรถ ผ่านสะพานสุพรรณกัลยา มาถึงร้านอาหารริมหลิ่ง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร และแพไม่ได้ไปหลุดชนทำความเสียหายให้กับแพอื่น ๆ


โดยในช่วงที่เกิดเหตุแพร้านอาหารหลุดออกมานั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันเทศบาลนครพิษณุโลก ได้ขับรถติดตาม เพื่อดูแลความปลอดภัยของแพอื่น ๆ กระทั่งตามมาถึงจุดที่สามารถผูกโยงแพไว้ ใกล้เคียงกับร้านอาหารริมหลิ่ง ต่อมาเจ้าของแพชื่อ นายนพดล ได้เดินทางมาถึง พร้อมกับบอกเจ้าหน้าที่ว่า แพหลังดังกล่าวตนเป็นเจ้าของ เปิดเป็นร้านอาหาร ชื่อร้านอาหารชาวแพ ซึ่งมีทั้งแพที่สร้างด้วยโป๊ะขนาดใหญ่ และแพที่สร้างด้วย ทั้งแกลลอน ซึ่งแพของตนนั้นได้ปล่อยทิ้งร้างมาประมาณปีกว่าแล้ว อยู่ในสภาพทรุดโทรมเนื่องจากโป๊ะที่พยุงแพนั้นมีรอยรั่ว แต่ก็ได้จ้างคนดูแลตลอดเวลา


กระทั่งช่วงสัปดาห์นี้ แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกมีความแรงมากระดับน้ำเพิ่มสูง ตนก็ได้กำชับให้ผู้ดูแลแพ เพิ่มเชือกและลวดสลิง ในการผูกแพไว้ แต่ก็ยังหลุดออกมา ซึ่งหลังจากนี้ ก็คงต้องดำเนินการรื้อแพในส่วนที่หลุดออกมา ส่วนเรือนแพที่ยังอยู่อีกส่วนหนึ่ง บริเวณข้างโรงแรมเดอะแกรนด์ริเวอร์ไซด์นั้นก็อาจจะพิจารณารื้อถอนทิ้งเช่นกัน ซึ่งต้องรอให้ระดับน้ำลดลงก่อน


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uqvuoDWn2bY


คุณอาจสนใจ

Related News