สังคม

รวบแล้ว! 'บังบาส' โจรชิงทอง 40 บาท จนมุมที่ จ.นครนายก สารภาพต้องการนำเงินไปใช้-ซื้อยาเสพ

โดย weerawit_c

20 ก.ค. 2567

339 views

จากกรณีคนร้ายสวมเสื้อแขนยาวสีดำแบบมีฮูดกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าแตะ กระเป๋าสะพายไหล่สีดำสายสีแดงก่อเหตุชิงทอง ภายในร้านทองแห่งหนึ่ง ในห้างย่านสุขาภิบาล 3 เขตมีนบุรี กทม.โดยได้สร้อยคอทองรูปพรรณน้ำหนักรวมประมาณ 40 บาท ก่อนหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


วานนี้ (19 ก.ค. ) ศาลอาญามีนบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับ นายพงษ์ศธร มะหะมาน หรือ บังบาส หรือบาส หลอแหล สายกลาง อายุ 26 ปี ในข้อหา “วิ่งราวซับโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ก่อนที่ชุดสืบสวน สน.มีนบุรี ร่วมกับชุดสืบสวนนครบาล สามารถจับกุมตัวนายพงษ์ศธร ได้ในเวลาต่อมา หลังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.นครนายก


พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำรูปพรรณที่ชิงมา 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซีวิค สีเขียว 1 คัน/ เงินสด 11,660 บาท ยาเค น้ำหนักประมาณ 43.21 กรัม


โดยเส้นทางการหลบหนีของนายพงษ์ศธร พบว่ามีการขึ้นรถแท็กซี่ไปจนถึงย่านคลองสอง จ.ปทุมธานี ก่อนจะมีรถเก๋งขับมารับพาหนีต่อ ซึ่งตำรวจตรวจสอบแล้ว ปรากฎว่ารถยนต์คันนี้ไม่ใช่ผู้ร่วมขบวนการที่พาผู้ก่อเหตุหลบหนีแต่เป็นรถยนต์มือสอง ที่ผู้ก่อเหตุขอซื้อจากคนที่ประกาศขายในราคา 81,000 บาท แล้วให้นำไปส่งที่จุดนี้


จากนั้นนายพงษ์ศธร ผู้ต้องหา ได้ขับรถต่อไปญาติที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา แต่เมื่อญาติทราบข่าวจึงขับไล่ให้ผู้ก่อเหตุไปที่อื่น นายพงษ์ศธร จึงขับรถคันที่ซื้อมาหลบหนีต่อไป กระทั่งช่วงสายวานนี้ (19 ก.ค.) ชุดสืบสวนจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ที่บริเวณแยกสาริกา ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ขณะขับรถตระเวนหลบหนีตลอดทั้งคืน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบปากคำเบื้องต้นและทำบันทึกจับกุมที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ศูนย์สืบนครบาล /18.40 น.ชุดสืบนครบาลคุมตัวผู้ต้องหาเดิน เดินทางมาถึงศูนย์สืบ บช.น. ก่อนนำตัวขึ้นไปสอบสวน พร้อมกับรถเก๋งยี่ห้อซีวิคของกลาง ที่ผู้ต้องหานำเงินไปซื้อในราคา 81,000 บาท และใช้รถคันนี้หลบหนี


จากการตรวจสอบบริเวณเบาะหลังรถเก๋งที่คนร้ายใช้หลบหนีพบน้ำกระท่อม 7 ขวด โดยระหว่างที่นำตัวลงจากรถนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหาถึงมูลเหตุจูงใจที่ไปก่อเหตุชิงทอง รวมถึงการหลบหนี และถามว่า เคยไปดูลาดราวที่ห้างทองแห่งนี้หรือวางแผนมาหรือไม่ หรืออยากพูดอะไรหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาเดินคอตกก้มหน้าไม่ตอบคำถามใด ๆ


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมว่า ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยรับว่าก่อนก่อเหตุได้ไปยืมรถจักรยานยนต์ กับเพื่อนที่ร้านเกมส์ ย่านร่มเกล้า แล้วขับขี่ไปก่อเหตุ หลังจากนั้นได้เข้าไปเดินวนที่เกิดเหตุ 1 รอบ โดยแต่งกายเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมหมวกสีแดง สาเหตุที่เลือกร้านนี้เนื่องจากใกล้ประตูทางออก หลบหนีได้ง่าย


ซึ่งขณะก่อเหตุสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ สวมแมส พร้อมอาวุธคือหน้าไม้ ขณะก่อเหตุคนร้ายไม่ทราบว่าได้ทองไปเท่าไหร่ หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปเปลี่ยนชุดที่บ้าน และได้เอาทองไปจำนำที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่งได้เงินสด 130,000 บาท หลังจากนั้นเอารถจักรยานยนต์ไปคืนเพื่อน และนั่งรถแท็กซี่เพื่อไปซื้อรถยนต์เก๋งมือสองด้วยเงินสด 81,000 บาท



สาเหตุเนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้และซื้อยาเสพติดมาเสพ ไม่ได้มีการวางแผนหรือร่วมมือกับผู้อื่นแต่อย่างใด เอาเงินสดที่ได้ไปซื้อรถยนต์และใช้จ่ายอื่น ๆ จากนั้นตำรวจชุดสืบนครบาล ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ส่วนประเด็นการเล่นเกมส์ของผู้ต้องหามีผลต่อการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ ส่วนตัวมองว่าการเล่นเกมส์ไม่มีผลโดยตรงกับการก่อเหตุ น่าจะเป็นนิสัยส่วนตัวของผู้ก่อเหตุมากกว่า หลังจากนี้จะขยายผลเรื่องยาเสพติดว่าผู้ต้องหาไปซื้อยาเสพติดมาจากใครและขยายผลในเรื่องทองคำที่นำไปขายว่าเหตุใดร้านทองจึงรับซื้อต่อ


ทั้งนี้ พบประวัติการก่อเหตุของคนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งแรกชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันบางจาก กาญจนาภิเษก 12 วันที่ 25 มิ.ย.67 เวลา 20.21 น. ในพื้นที่ สน.บางชัน ทรัพย์ที่ได้ไป 5,410 บาท ครั้งที่ 2 ชิงทรัพย์ร้านซีเจ เอ็กเพลส กาญจนาภิเษก 12  เมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 เวลา 19.57 น. ทรัพย์ที่ได้ 3,700 บาท พื้นที่สน. บางชัน ครั้งที่ 3 ชิงทรัพย์ร้านเซเว่น กาญจนาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ก.ค.67 เวลา 23.07 น. ทรัพย์ที่ได้ 5,157 บาท พื้นที่ สน.บางชัน รวมครั้งล่าสุดที่ไปชิงทองก็เป็นครั้งที่ 4



พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากสำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการร้านใดที่ถูกผู้ก่อเหตุ เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ สน.มีนบุรี และ สน.บางชัน เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่น่าจะเคยลงมือแค่ 4 ครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหามีวิวัฒนาการก่อเหตุมาหลายครั้ง


ทีมข่าวได้เดินทางไปบ้านพักของนายบาส ที่สุเหร่าซีรอ ได้พูดคุยกับญาติของนายบาส  โดยเด๊ะ เล่าว่า ภายหลังจากบาสก่อเหตุชิงทองเสร็จแล้ว ก็กลับมาที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า รองเท้าที่ใส่ไปก่อเหตุและออกไปอีกรอบ โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์คันก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ จากนั้นบาสนั่งรถแท็กซี่ไปไหนสักที่เพื่อใช้รถยนต์ หนีต่อไปที่บ้านญาติ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งญาติก็ถามกับบาสว่าจะมอบตัวมั้ย หากจะมอบตัวก็จะพามามอบ แต่ถ้าจะหนีก็อยู่ที่นี่ไม่ได้  แม่ของบาสก็เครียดจนเข้าโรงพยาบาลเป็นห่วงบาสอยากให้มอบตัว

เด๊ะ ยังบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน บางครั้งบาสก็เอารถน้องไปขับส่งอาหารบ้าง ซึ่งเขามีพฤติกรรมติดยาเคหนัก เพราะน้องชายเขาให้ข้อมูลมา แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเหตุให้ถึงขั้นต้องไปชิงทอง ปกติเขาจะมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยขโมย ขโมยเพียงแต่ของคนในบ้านไม่ได้มากมาย เราก็ไม่ได้แจ้งตำรวจ เพราะเป็นคนในบ้านก็คิดว่าเขาจะสำนึก จนกระทั่งมามีเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง


ส่วนเรื่องประเด็นค้ายาเสพติดก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อน ๆ พูดกันบ้าง เขาไม่ได้ไปเกเรเมาเหล้าที่ไหน ได้ยินมาจากเพื่อนเขาว่าเขาติดหนี้เยอะ เล่นพนันออนไลน์ แล้วก็เชื่อว่ากลุ่มเพื่อนน่าจะรู้ ก่อนออกไปก่อเหตุไม่มีพฤติกรรมอะไรให้สงสัย ส่วนจะไปกู้หนี้นอกระบบมาหรือไม่นั้นอันนี้ไม่รู้ เขาก่อเหตุไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ คุยกับแม่ของบาสแล้วจะไม่ประกันตัว ส่วนเรื่องที่บาสเคยชิงทรัพย์ก่อนหน้านั้น ครอบครัวก็สงสัยเช่นกันเพราะบาสดูมีพิรุธ ปกติประตูรั้วบ้านจะเปิดไว้ตลอดแต่บาสก็จะไปปิดประตู ระแวงคนแปลกหน้าเหมือนตัวเองไปทำผิดอะไรมา


https://youtu.be/bHN4CnQyaN4

คุณอาจสนใจ

Related News