สังคม

สาวร้อง เลื่อยไฟฟ้าตัดขาขาด 2 ข้าง ประกันเบี้ยวเคลม 10 ล้าน อ้างมีประกันอื่นไม่แจ้ง

โดย nicharee_m

6 ก.ค. 2567

134 views

สาวอุดรร้องมูลนิธิรณรงค์ฯ หลังเกิดอุบัติเหตุขาขาด 2 ข้าง ประกันไม่จ่ายอ้างมีประกันตัวอื่นไม่แจ้ง

เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.67) น.ส.โชติกา อายุ 30 ปี พร้อมสามี เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี เพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม จากบริษัทประกันภัยเจ้าหนึ่งที่ได้ทำประกันชีวิตไว้ แต่ถูกปฏิเสธการจ่ายเงินเคลมประกันเกิดอุบัติเหตุขณะตัดต้นไม้กับน้องชายแล้วเลื่อยยนต์พลาดมาตัดขาขาด 2 ข้าง บริษัทประกันอ้างว่า ผู้เสียหายปกปิดข้อมูลไม่แจ้งว่าทำประกันกับบริษัทอื่น จึงไม่จ่ายและยกเลิกกรมธรรม์

น.ส.โชติกา ให้ข้อมูลว่า ตนเป็นเจ้าของร้านนินิมาร์ทขนาดเล็กในจังหวัดอุดรธานี  เมื่อวันที่ 24 เมษายน 67 ตนได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ผ่านโบรกเกอร์ของธนาคาร ซึ่งขั้นตอนการทำประกัน ก้มีการสอบถามเรื่องอาชีพ ตนแจ้งว่าทำธุรกิจส่วนตัว โดยตกลงเบี้ยประกันปีละ 15,500 บาท

ต่อมาวันที่ 7 พฤษภาคม 67 ตนเกิดอุบัติเหตุ ขณะไปช่วยน้องชายตัดต้นไม้ที่ริมรั้วบ้าน แล้วถูกเลื่อยยนต์ที่ใช้ตัดต้นไม้ สะบัดมาโดนขา ทำให้ขาขาดทั้ง 2 ข้าง สามีได้นำตัวส่งโรงพยาบาล  หลังรักษาตัวและออกจากโรงพยาบาล ตนแจ้งไปทางบริษัทประกัน เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 67 เพื่อขอรับสิทธิ์รายได้ชดเชยในวงเงินการทำประกันชีวิต เป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท

หลังจากนั้นในวันที่ 21 มิถุนายน 67 ตนก็ได้รับหนังสือจากบริษัทประกัน แจ้งว่า ขอยกเลิกกรรมธรรม์ที่ทำไว้กับบริษัท โดยหนังสือแจ้งว่า ตนปกปิดข้อมูล ไม่แจ้งว่าได้ทำประกันชีวิตกับเจ้าอื่นไว้แล้ว

ตนยอมรับว่าทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทอื่นอีก 3 เจ้า รวมทั้งประกันจากบัตรเอทีเอ็มอีก 2 ธนาคาร แต่ตนยังไม่ได้แจ้งเคลมกับบริษัทอื่น เพียงแค่แจ้งกับบริษัทนี้บริษัทเดียว ซึ่งถ้าเจ้าอื่นเกิดทำตามบริษัทนี้ ตนต้องสูญเงินชดเชยอุบัติเหตุ จำนวน 29 ล้านบาท

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนและครอบครัวเสียใจมาก ถูกสังคมมองว่า ตนทำร้ายตัวเองเพื่อต้องการเงินประกัน ตนขอยืนยันว่า ที่ตนทำประกันชีวิตหลายเจ้า ก็เพราะต้องการเก็บเงินไว้ให้ลูก ถ้าเกิดตนเป็นอะไรขึ้นมา ถ้าตนจะทำร้ายตัวเองเพื่อต้องการเงินประกัน ตนคงไม่ทำวงเงินประกันแค่นี้ ตนต้องทำ 100-200 ล้านบาท

ทุกวันนี้ทุกข์ใจมาก เคยเดินได้ไปไหนมาไหนได้ ขับรถรับส่งลูกที่โรงเรียน เดินจัดของที่ร้าน แต่ทุกวันนี้ทำอะไรไม่ได้เลย  ไปกินข้าวนอกบ้านก็ต้องให้สามีอุ้ม คนมองก็อายเขา บางคนอาจคิดสมเพชว่าเราพิการทำไมไม่อยู่บ้าน ลูกสาวก็ถามว่าขาแม่หายไปไหน

น.ส.โชติกา กล่าวอีกว่า ใครคิดว่าอยากเป็นคนพิการ ตัดขาตัวเองเพื่อต้องการเงินประกัน มาลองมาทำดูว่ามันทรมานจิตใจแค่ไหน ทุกวันนี้ตนเป็นคนพิการสมบูรณ์แบบ เพราะเจ้าหน้าที่เขาออกบัตรให้แล้ว

ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ถ้าพูดถึงกรณีที่เราจงใจฉ้อโกงบริษัทประกันหมายถึงปกปิดข้อเท็จจริง แต่ก็ต้องดูเงื่อนไขของบริษัทประกันด้วย ที่สำคัญบริษัทสามารถตรวจสอบและยกเลิกสัญญาในเวลา 2 สัปดาห์ได้

กรณีเคสนี้ทำประกันอุบัติเหตุไว้ ทางบริษัทต้องรับผิดชอบ เพราะเขาไม่ได้ทำผิดสัญญา  เขาแค่ซืัอประกันหลายเจ้า ส่วนที่เขาอ้างว่าผู้เสียหายทำประกันชีวิตไว้หลายบริษัทนั้น ตนมองว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทางกฎหมายเราต้องใช้เวลาต่อสู้กันหลายปี  แล้วสุดท้ายผู้บริโภคก็ชนะคดีเกือบทุกราย เพราะว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ว่าเราต้องใช้เวลาต่อสู้นานขนาดนั้นเลยหรือ ทาง คปภ.น่าจะสั่งให้ทางบริษัทประกันปฏิบัติตามสัญญาได้  


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RIZuRzd6bQ8

คุณอาจสนใจ