น้ำไม่ลด ซ้ำเจอหนาว! ชาวอุบลฯ โอดความช่วยเหลือเข้าไม่ถึง - สลด หมาแม่ลูกอ่อน ติดเกาะหิวโซ

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานี ตลอดทั้งวันวานนี้ (15 ต.ค.) พบว่า ช่วงบ่ายจนถึงค่ำ ฝนตกตลอดทั้งวัน สลับหยุด และมีลมแรง อากาศเย็น

โดยทีมข่าวลงพื้นที่พร้อมกับอาสามูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง ที่ระดมกำลังมาช่วยเหลือชาวอุบลฯ เริ่มที่ บ้านทัพไทยหมู่7 อ.เมือง จ.อุบลฯ หมู่บ้านที่ติดกับแม่น้ำมูลและ หาดคูเดื่อ ตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้านตอนนี้ ไม่เหลือสภาพร่องรอย ของถนนหรือหมู่บ้าน ทุกพื้นที่ถูกน้ำโอบล้อมไว้ทั้งหมด บางจุด น้ำท่วมสูง กว่า 2 เมตร ชาวบ้านในหมู่บ้านบางส่วนอพยพแล้ว แต่บางส่วนยังคงอยู่ในบ้านเพราะ ต้องเฝ้าสิ่งของ ทรัพย์สินในบ้าน บ้าน2ชั้นก็พออาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ได้

ทีมข่าวเข้าไปที่บ้านของชาวบ้านคนหนึ่งที่หมู่ 7 บ้านทับไทย พบว่าคุณลุงท่านนี้ อาศัยอยู่ในบ้าน แต่ภายในบ้านนั้นมีแต่น้ำ ข้าวของเครื่องใช้ก็ถูกน้ำท่วมหมด คุณลุงต้องอาศัย นั่ง นอน ในเปลญวนที่ผูกไว้ กับหลาน 2 คน ส่วนคุณป้าและครอบครัวอพยพออกไปศูนย์อพยพแล้ว

เหตุผลที่คุณลุงท่านนี้ ไม่ยอมออกไปอาศัยข้างนอก เพราะต้องเฝ้าสิ่งของในบ้าน คุณลุงบอกว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโจรขับเรือเข้ามาขโมยของ ซึ่งขาวบ้าน พากันรู้มันและขับไล่ออกไป

อีกทั้ง มีประสบการณ์ตั้งแต่น้ำท่วมเมื่อปี 2562 ตอนนั้น อพยพออกไปอาศัยอยู่ศูนย์อพยพ พอน้ำลดกลับมา ของในบ้านหายหมด จึงต้องทนอาศัยอยู่แบบนี้ ลำบากจากน้ำท่วมแล้ว แต่ก็ดีกว่าของหาย ที่ผ่านมา ไม่เคยมีแม้แต่ตำรวจน้ำ หรือชุดชาดตระเวนทางเรือของตำรวจเข้ามาช่วยดูแล มีแต่ชาวบ้านช่วยกันเอง

เช่นเดียวกับเรื่องอาหาร ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยมากมาย โดนเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ นานๆจะผ่านมาที ส่วนใหญ่จะไปช่วยแต่ศูนย์อพยพ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านนานๆ จะเข้ามา

วานนี้ อาสาป่อเต๊กตึ๊ง ก็นำอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ แยกกับข้าวใส่ถุง พร้อมกับน้ำดื่ม นำมาแจกชาวบ้าน ตั้งแต่หมู่บ้านทัพไทย และหมู่บ้านหาดคูเดื่อ นั่งเรือท้องแบน ต้องขับไปตามหมู่บ้าน และเรียกให้ชาวบ้านมารับอาหาร พอชาวบ้านได้ยินเสียงเรือ เสียงเรียก ก็ตะโกน โบกมือ โผล่มาทางหน้าต่าง บางคนก็พายเรือมารอ

ซึ่งต้องบอกว่า เป็นไปอย่างทุลักทุเล ชาวบ้านบางคนต้องปีนหลังคาบ้านมารับข้าว ,บางคนก็พายเรือมา , บางคนก็ประดิษฐ์ไม้สอยผลไม้เป็นตะขอ ไว้คอยยื่นเกี่ยวถึงอาหารจากอาสาที่เข้ามาแจก  

โดยชาวบ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอดทนกินมาม่า ปลากระป๋อง มากว่าครึ่งเดือน ไม่ได้กินข้าวและอาหาร นอกจากอาสานำมาแจก วานนี้ทีมข่าวของเรา ลงพื้นที่ไปช่วงเที่ยง พบว่าชาวบ้านบางบ้าน ยังไม่ได้กินข้าว ข้าวกล่องที่นำไปให้เป็นมื้อแรกของวัน

ขณะที่บ้านคูเดื่อและหาดคูเดื่อ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี ที่นี่บ้านทุกหลังถูกน้ำท่วมทุกหลังคาเรือนเพราะสภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำและลำน้ำที่คดเคี้ยวของแม่น้ำมูลทำให้ภายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงทั้งหมดซึ่งจุดนี้ระดับน้ำที่วัดจากตัวบ้านน่าจะสูงถึง 4-5 เมตร ร้านอาหารที่อยู่ริมหาดซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจตอนนี้ถูกปิดหมดเพราะน้ำท่วมรวมไปถึงแพท่องเที่ยวก็ต้องปิดให้บริการ

ส่วนใหญ่ที่นี่ไม่มีใครอยู่ในบ้านแล้ว เพราะระดับน้ำท่วมสูงขนาดชั้นสองก็อยู่ไม่ได้ มีเพียงบ้านบางหลังที่สูงหน่อยชั้นสองก็ยังพออยู่ได้แต่น้ำก็ปริ่มแทบจะทะลักแล้ว ทำให้ชาวบ้านหลายคนต้องพากันหอบข้าวหอบของไปอยู่ที่โรงเรียนบ้านคูเดื่อ

ทันทีที่ชาวบ้านเห็นทีมข่าวและอาสาป่อเต๊กตึ๊ง ก็กวักมือเรียกขอข้าวกิน ขอน้ำดื่ม โดยชาวบ้านอพยพกันมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา โดยไม่ได้ตั้งศูนย์อพยพแต่อย่างใด พากันหนีน้ำมาขออยู่ที่โรงเรียนเพราะที่บ้านอยู่ไม่ได้แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาต้องหากินกันเองตามมีตามเกิด ใช้ชีวิตเหมือนติดเกาะ เพราะถูกน้ำล้อมรอบจะออกไปไหนก็ต้องใช้เรือ

อาหารการกิน ต้องบอกว่ากินแต่มาม่า ปลากระป๋องวนไปจนหมด บางวันก็ไปหาปลามาทำอาหาร ไม่ได้มีหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือมีแต่ทาง กู้ภัยที่เอาข้าวเอาน้ำมาแจกบ้าง แต่ก็ไม่ได้มาทุกวัน ถ้าหากมาวันไหนมา ก็จะขอหลายกล่องหน่อยเพราะอยู่กัน 26 คน

ส่วนน้ำเปล่านั้นไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้น้ำหุงข้าว ทำอาหาร ชาวบ้านในศูนย์นี้ ต้องลงขันกัน ไปซื้อน้ำจากหมู่บ้านอื่น น้ำดื่มจากเดิมขายแพคละ 35 บาท 3 แพ็ค 100 บาท แต่พอช่วงนี้ ราคาขึ้นเป็นแพคละ 50 บาท ทำให้ตอนนี้พากันลำบากมาก

นอกจากนี้ยังพบว่า ความเดือดร้อนของชาวบ้านนอกจากน้ำท่วมและความเป็นอยู่ที่ลำบาก ชาวบ้านยังต้องผวากับโจร บางคนบอกว่าโจรชุมกว่ายุง ร้องเรียนขอความช่วยเหลือมาที่ทีมข่าวเรื่องของมิจฉาชีพที่มากับน้ำ หลังจากที่พากันอพยพไปอยู่ที่ต่างๆ พวกโจรจะขี่เรือมาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านช่วงเวลากลางคืน

เคยมีครั้งหนึ่ง โจรพยายามที่จะเข้าไปบ้านหลังหนึ่งแล้วเจ้าของบ้านกลับมาพอดีทำให้ต้องรีบพากันขี่เรือออกไปและหลังจากนั้นทำให้ชาวบ้านไม่กล้าที่จะทิ้งบ้านอีกเลยต้องยอมจำใจกลับเข้ามาอยู่ที่บ้าน มาใช้ชีวิตลำบากกับน้ำท่วมเพราะกลัวว่าโจรจะมาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านอีก

นอกเหนือจากความลำบากที่จะเกิดขึ้นกับคนแล้วสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์ก็ได้รับความลำบากด้วยเช่นเดียวกัน โดยพบสุนัขกลุ่มหนึ่งที่พากันว่ายหนีน้ำมาอยู่บนเกาะกลางทราย ตอนแรกเห็นแค่ตัวเดียว แต่พอลงจากเรือแล้วเดินเข้าไปใกล้ใกล้พบว่าแม่สุนัขตัวนั้นมีลูกหมาตัวน้อยน้อยอีก 6 ตัวที่กำลังกินนมอยู่อย่างหิวโหย และตัวสั่นเพราะอากาศหนาว

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้นำเอาอาหารสุนัขที่ติดไปด้วยเอาไปให้กับลูกหมาทั้ง 6 ตัวพร้อมกับแม่มันกิน ตอนแรกทั้งหมดก็ไม่ยอมกิน เพราะหวาดระแวงว่าจะถูกทำร้าย แต่หลังจากนั้นลูกสุนัขก็วิ่งเข้ามากินด้วยความหิวโหย ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะเอาสุนัขพวกนี้ออกมาด้วยแต่ไม่รู้ว่าจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนเพราะไม่มีศูนย์ที่จะช่วยเหลือดูแลสัตว์ต่างๆ ทำให้เราได้ทำที่พักพิงให้มันชั่วคราวเพื่อที่จะอาศัยไปก่อน

ขณะที่แม่ของลูกสุนัขทั้ง 6 ตัว ตอนแรกก็รีบวิ่งหนีออกไปไกล เราก็พยายามที่จะเดินเอาอาหารไปให้แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมกินและวิ่งหนี จนกระทั่งเราได้วางอาหารไว้แม่ของสุนัขก็ค่อยๆ เดินมากิน และหลังจากนั้นเข้ามาแย่งอาหารของลูกตัวเองกินต่อซึ่งทำให้เราเห็นถึงความลำบากทั้งชีวิตของคนและชีวิตของสัตว์ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโลกกับเราด้วย

ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และอาสาสมัคร ต่างพร้อมใจกันร่วมกิจกรรม บรรจุกระสอบทรายเพื่อนำไปทำแนวกั้นป้องกันน้ำท่วมถนนสายหลักที่เชื่อมต่อเส้นทางเข้าเมืองอุบล ถนนสาย 231 บัวท่า – บัวเทิง ที่เสี่ยงจะถูกน้ำท่วมถนน เนื่องจากเป็นถนนทางหลวงสายสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมผิวการจราจร สำหรับเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองอุบลราชธานี – เมืองวารินชำราบ และ เป็นถนนสายหลักที่มาจาก กรุงเทพ ฯ เข้าสู่เมืองอุบลราชธานีด้วย

โดยบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ขาดแคลนกำลังคนที่จะช่วยกันบรรจุกระสอบทรายไปใช้วางแนวป้องกันน้ำท่วมถนนสายนี้ จึงนำเจ้าหน้าที่มาช่วย โดยคาดว่าจะร่วมกันทำกระสอบทรายได้อย่างน้อย 350 ใบ  

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/hdQ847Rfhls