สังคม
สาวแบงก์หลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพ หลอกแจกเครื่องฟอกอากาศฟรี สุดท้ายสูญ 4 ล้าน ซ้ำแจ้งความไม่คืบ
โดย panisa_p
6 มิ.ย. 2568
234 views
ผู้เสียหายชื่อคุณภัทรภร หรือ ลูกหยี (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี เป็นพนักงานธนาคารรายหนึ่ง ได้นำหลักฐานข้อความแชตและการโอนเงินมาร้องเรียน ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ "ดร.แก้ว" ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี ให้ช่วยเหลือ หลังเธอตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ หลงเชื่อกิจกรรมแจกเครื่องฟอกอากาศฟรีผ่านเฟซบุ๊ก จนสูญเงินไปกว่า 3,536,020 บาท และยังถูกข่มขู่เรียกเงินเพิ่ม ขณะเดียวกันไปแจ้งความที่ สน.สายไหม กับไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าที่ควร
คุณภัทรภร เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะเล่นเฟซบุ๊ก ได้พบเพจโฆษณาแจกเครื่องฟอกอากาศฟรี มูลค่า 5,000 บาท โดยมีเงื่อนไขให้ทำกิจกรรมเพื่อแลกรับของ ต่อมาในวันที่ 14 เมษายน เพจดังกล่าวได้ส่งข้อความมาชักชวน พร้อมให้เลือกรุ่นสินค้าและแนะนำให้แอดไลน์เข้ากลุ่มเพื่อทำกิจกรรมโปรโมตแพลตฟอร์ม โดยมีเงื่อนไขให้กดไลก์เพจวันละ 3 ครั้ง และมีการชักชวนให้ลงทุน ในกลุ่มไลน์ที่มีสมาชิกกว่า 900 คน มีการโพสต์สลิปโอนเงินตลอดเวลา พร้อมบุคคลที่อ้างตัวเป็น "โค้ช" แนะนำว่าเป็นการลงทุนรูปแบบคล้ายหุ้น ไม่มีความเสี่ยง ได้ผลตอบแทนแน่นอน โดยเริ่มต้นลงทุนเพียง 200-60,000 บาท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและเริ่มโอนเงินจำนวน 200, 4,000 และ 60,000 บาท ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้เสียหายพยายามถอนเงินคืน "โค้ช" กลับแจ้งว่า ต้องโอนเพิ่มอีก 60,000 บาท จึงจะถอนเงินได้ และยังเสนอให้ซื้อ "แพ็กเกจ" เพิ่มอีก 200,000 บาท และ 250,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนของระบบ ซึ่งผู้เสียหายเริ่มมีข้อสงสัย แต่ยังตัดสินใจดำเนินการต่อเนื่อง เพราะมีสมาชิกคนอื่นในกลุ่มอ้างว่าได้เงินจริง
ในภายหลังผู้เสียหายพบว่า มีเพียงบุคคลเดียวในกลุ่มคือชายที่ใช้ชื่อว่า ร.ต.อ.พัชรพล ซึ่งอ้างเป็นตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่สามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายจึงขอความช่วยเหลือและกู้เงินจากเขา พร้อมเสนอคืนพร้อมดอกเบี้ย 10% เนื่องจากรู้สึกกดดันจากสมาชิกกลุ่มที่โอนเงินไปแล้ว และเหลือเพียงตนที่ยัง "ถอนเงินไม่ได้" จึงเดินทางนำเงินสดไปฝากเข้าตู้โอนเพิ่มเติม หวังจะได้เงินคืน รวมเงินที่สูญเสียไปทั้งสิ้น 3,536,020 บาท ยังไม่รวมเงินที่ขอยืมจากสมาชิกในกลุ่มอีกราว 500,000 บาท รวมเป็นยอดเสียหายมากกว่า 4 ล้านบาท ปัจจุบันต้องหาเงินมาใช้หนี้ ขณะเดียวกันยังถูกสมาชิกกลุ่มข่มขู่ให้ชำระหนี้รายวัน รวมถึงมีการส่ง "หนังสือเตือน" ทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรมผิดขั้นตอน
จนถึงวันที่ 17 เมษายน หลังโอนเงินยอดสุดท้ายจำนวน 821,820 บาท หนึ่งในสมาชิกกลุ่มคือ น.ส.หญิง ได้กดออกจากกลุ่มทันที และไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายจึงเริ่มตระหนักว่าถูกหลอก และรีบเข้าแจ้งความที่ สน.สายไหม แต่กลับพบว่าร้อยเวรเจ้าของคดีพูดจาไม่ดี ไม่เร่งรัดดำเนินการ และไม่อำนวยความสะดวกเท่าที่ควร แม้ยังสามารถติดต่อคนร้ายได้อยู่ก็ตาม
ภายหลังเกิดเหตุ ยังมีบุคคลที่อ้างเป็นฝ่ายกฎหมายติดต่อผู้เสียหายเพื่อประนีประนอม ข่มขู่ และเสนอให้ชำระหนี้ลดจำนวน ซึ่งผู้เสียหายจึงตัดสินใจร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก ดร.แก้ว เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าทางคดี และช่วยเหลือในการนำเงินคืน
ด้าน ดร.แก้ว กล่าวว่า หลังรับเรื่องจะประสานไปยังร้อยเวร ผู้กำกับสถานี และผู้บังคับการ เพื่อสอบถามความคืบหน้า เนื่องจากยอดเสียหายเป็นเงินที่สูง และผู้เสียหายตอนนี้เดือดร้อนมาก อยากฝากถึงตำรวจว่า เมื่อประชาชนเดือดร้อนเข้ามาแจ้งความ ขอให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และควรเร่งรัดคดีเพื่อคืนความยุติธรรม
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/mW4dzwQnS3A
แท็กที่เกี่ยวข้อง มิจฉาชีพ ,หลอกลวง