เจ้าของอู่แฉเอง! ทุจริตซ่อมบัสทิพย์ ยันอู่ไม่รับซ่อมรถใหญ่ เผยจนท.ขอใบเสร็จเปล่าไปเขียน เบิกเงินกับ กทม.

7 เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ขอมอบตัวคดีทุจริตเงินงบประมาณจัดซ่อมรสบัส 2 ล้าน 7 แสนบาท คือ รถไม่ได้เสีย แต่มาขอใบเสร็จปลอม แล้วทำเรื่องส่งซ่อมเพื่อยักยอกเงิน ล่าสุดทั้ง 7 คน ยังปฏิเสธ



พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน / ป.ป.ท. / ป.ป.ช. เข้าตรวจสอบอู่ซ่อมรถบัสแห่งหนึ่ง ในย่านสุขาภิบาล 3 เพื่อตรวจสอบสภาพว่า ใช่อู่ซ่อมรถบัสโดยสาร ขนาด 50 ที่นั่งหรือไม่ หลังพบ เจ้าหน้าที่ กทม. กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ร่วมกันทุจริตโครงการซ่อมแซมรถโดยสารปรับอากาศ ขนาด 50 ที่นั่ง 5 คัน จำนวน 28 ครััง มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้าน 7 แสนบาท



อู่ดังกล่าว เป็นอู่ซ่อมรถขนาดเล็กและเป็นอู่ที่รับเหมาซ่อมรถขนาดเล็กของโครงการของ กทม. อยู่แล้ว แต่ไม่มีลักษณะที่จะสามารถซ่อมรถโดยสารขนาดใหญ่ได้ และได้พบกับเจ้าของอู่ บอกว่า รับซ่อมรถขนาดเล็กให้กับ กทม. อยู่แล้ว แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ กทม. เข้ามาขอใบเสร็จเปล่า เพื่อนำไปเขียนราคาค่าซ่อม แล้วให้เจ้าของอู่มารับใบเสร็จเพื่อนำไปเบิกกับ กทม. โดยทางอู่จะได้รับส่วนต่าง



นาย มณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติเบิกงบประมาณจัดจ้างซ่อมรถบัสของสังกัดกองการกีฬา สํานักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จํานวน 5 คัน จึงไปตรวจสอบที่อู่ และพบว่าอู่ไม่เคยซ่อมรถบัสคันใหญ่ จึงขยายผลก็พบว่าเอกสารใบเสนอราคา ไปจนถึงขั้นตอนการ เบิกจ่ายถูกปลอมแปลงทั้งหมด



จากการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดจ้าง พบว่า ในช่วงระหว่างปี 2565 – 2567 มีการเบิกฎีกาจ้างเหมาซ่อมรถแต่ไม่มีการส่งรถเข้าซ่อมจริง รวม 28 ครั้ง เป็นเงินรวม 2,790,748 บาท



จึงขอศาลออกหมายจับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายดำรงค์ รื่นสุข อดีตผู้อำนวยการกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว, นายภูมินทร์, นายคมกริช, นายอภินันท์ ทั้ง 3 คนอยู่ในตำแหน่งนักพัฒนาการกีฬา นายปฏิญญา ตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุ, น.ส.สิริกัญญา ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการชำนาญการ และน.ส.สุชาวดี ตำแหน่งนักวิชาการพัสดุ ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันรับรองเอกสารเท็จ"



นาย มณเฑียร ยังบอกอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 7 คน อยู่ในขบวนการทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายราคาเกินจริงของกรุงเทพมหานครด้วย เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ



ขณะที่พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ บอกว่า กรณีนี้อู่อาจจะตกเป็นเหยื่อของเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เพราะกองการกีฬาได้ก็ไปพูดคุยกับเจ้าของอู่ ให้ซ่อมรถบัส เจ้าของอู่รถก็รับมาทำ และต้องเสียภาษี จึงส่งเอกสารมาทางกองการกีฬา แต่ทางด้านกองการกีฬากลับไม่ทำเรื่องให้ ทางอู่จึงยกเลิกสัญญา



พลตำรวจเอก อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร บอกว่า หลังจากนี้จะตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ตรวจสอบทั้ง 7 คน และจะตรวจสอบองค์กรตามแนวทางที่ สตง. แนะนำ ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/gFUdG6ztugA