DSI ถกนัดแรก วางแนวทาง ลุยสืบเคลียร์คดีแตงโม ปม "บิดเบือน-สร้างหลักฐานเท็จ"

ดีเอสไอประชุมแบ่งงานสืบสวนตามขอร้องเรียนของอาจารย์ปานเทพ ว่า มีคนบิดเบือนหลักฐาน หรือสร้างพยานหลักฐานเท็จในคดีการตายของนักแสดงสาว "แตงโม" หรือไม่ โดยใช้เลเซอร์สแกนแม่น้ำเจ้าพระยาและโดรน ช่วยวิเคราะห์หลักฐาน



พันตำรวตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวคณะสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นัดหมายคณะพนักงานสืบสวน 29 คน ประชุมครั้งที่ 1 เพื่อกำหนดทิศทางและวางกรอบการสืบสวน สำหรับการแสวงหาพยานหลักฐาน ข้อมูล ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่



โดยระบุว่า เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำงานภายในคณะสืบสวน หรือกำหนดวิธีการสืบสวนสอบสวน เพื่อตรวจสอบข้อมูลตามที่ได้มีการสืบข้อมูลมา โดยจะเน้นไปที่การตรวจสอบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อาทิ เรื่องตำแหน่ง GPS บนเรือ เพื่อหาความเกี่ยวข้องของบุคคลอื่น รวมทั้งจะกำหนดกลุ่มพยานเพื่อสอบสวนปากคำ เช่น พยานผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช



และในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์คณะทำงานจะเดินทางไปยังต่างประเทศ เพื่อเอาข้อมูลภายในโทรศัพท์ของแตงโม และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดี ไม่ว่าจะอยู่บนเรือหรือนอกเรือก็ตาม เพราะพบว่าข้อมูลหลายอย่างถูกเก็บไว้ในคลาวด์



สำหรับกรอบระยะเวลาทำงาน คือ 6 เดือน แต่สามารถขยายระยะเวลาต่อได้อีก พร้อมย้ำว่าการสืบสวนครั้งนี้ของดีเอสไอ จะไม่เป็นการไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ถูกดำเนินคดีในสำนวนหลัก ซึ่งคดีอยู่ระหว่างกระบวนการชั้นศาล แต่จะมุ่งเน้นสืบสวนตามคำร้อง ที่ว่า "มีกลุ่มที่บิดเบือน หรือมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จหรือไม่"



ขณะที่นาย ไกรศรี สว่างศรี ผอ.ส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า นำเลเซอร์สแกน ซึ่งเป็นเครื่องมือสแกนภูมิประเทศแบบสามมิติ ไปสแกนตามลำน้ำตั้งแต่ร้านอาหารบ้านตานิดไปจุดถึงสะพานพระราม 8 เพื่อหาพิกัดแบบภูมิศาสตร์ และจะนำมาตรวจสอบกับพยานหลักฐานต่างๆ เช่น คลิปวิดีโอ ภาพถ่าย และจะทำงานร่วมกับโดรน



และในวันนี้(24ม.ค.68) อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต / นาย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของมิสแกรนด์ / พันเอก นายแพทย์ ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พร้อมนางงามมิสแกรนด์ที่ร่วมจำลองเหตุการณ์ เข้ามาติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ



อาจารย์ปานเทพ ย้ำว่า สาระสำคัญของคดีนี้อยู่ที่พยานหลักฐาน แต่จุดที่พลาด คือ เวลาผ่านมา 3 ปีแล้ว พยานหลักฐานอาจจะเลือนไปหมดแล้ว จึงร้องขอให้ผู้ที่เก็บพยานหลักฐาน และรู้ข้อเท็จจริงออกมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับดีเอสไอให้ได้มากที่สุด ส่วนการตรวจสอบเรื่องนี้ที่ร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไปร่วมบิดเบือนคดี ยืนยันว่า ยังไงก็ไม่กระทบกับคดีหลักที่อยู่ในชั้นศาล



นาย ณวัฒน์ บอกว่า ขอบคุณดีเอสไอ ที่เริ่มกระบวนการสืบสวนสอบสวน แม้จะยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เริ่มกระบวนการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะกุญแจดอกแรกได้เปิดเพื่อหาหลักฐานแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/2hn0EAUL4BU