เร่งล่า "จ่าเอ็ม" ยิงอดีต สส.กัมพูชา ตร.เผยร่วมมือหลายคน ล่าสุด ออกหมายจับเพิ่ม "มือชี้เป้า"

ตำรวจเร่งล่า "จ่าเอ็ม" อดีตนาวิกโยธิน มือปืนที่ลั่นไกสังหาร อดีตสส.พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชาเสียชีวิตที่ย่านบางลำพู ล่าสุดเจอแล้ว "คนชี้เป้า" แฝงตัวเป็นกรุ๊ปทัวร์มาด้วยกันตั้งแต่กัมพูชา



นี่เป็นวินาทีที่ "จ่าเอ็ม" ใช้ปืนจ่อยิงนาย ลิม กิมยา นักเคลื่อนไหวและอดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา พรรค Cambodia National Rescue เสียชีวิตคาที่ บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ย่านถนนข้าวสาร เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (7ม.ค.68)



ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ก่อเกิดเหตุจะเห็นว่า ราว 5 โมง 26 นาที กล้องวงจรปิดที่บริเวณฝั่งตรงข้ามของจุดเกิดเหตุ จะเห็น "จ่าเอ็ม" ขี่มอเตอร์ไซต์แดง สวมหมวกกันน็อคสีขาว มีกระเป๋าสีดำคาดตัว เข้ามาจอดรถบริเวณจุดจอดวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างแล้วนั่งรอบนรถ ก่อนจะถอดหมวกกันน็อคออก



5 โมง 39 นาที "จ่าเอ็ม" ลุกเดินข้ามถนนไปยังฝั่งเกาะกลาง แล้วไปนั่งรอต่อที่ใต้ต้นไม้ ลักษณะมีการคอยดูโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอด



5 โมง 42 นาที "จ่าเอ็ม" ลุกขึ้นมองหาอะไรบางอย่าง แล้วเดินหายจากกล้องไปราว 3 นาที



ก่อนจะย้อนกลับมาตอน 5 โมง 45 นาที จะเห็นนาย ลิม กิมยา นักเคลื่อนไหวและอดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา พรรค Cambodia National Rescue เดินมา แล้ว "จ่าเอ็ม" เดินเข้าไปใช้ปืนยิงจากด้านหลัง มีเสียงปืนดัง 3 นัด แล้ว "จ่าเอ็ม" เดินข้ามถนนกลับมาขี่มอเตอรืไซต์หนีไปทันที



เช้าวันนี้ (8ม.ค.68) ทีมข่าวลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเกาะกลางถนนสิบสามห้าง ย่านบางลำภู ฝั่งตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหารฯ ยังพบรอยคราบเลือดที่ล้างไม่ออกอยู่ทั่วพื้นเกาะกลางถนน



ขณะที่วินมอเตอร์ไซต์รับจ้างที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุเขาเห็นคาตา เพราะจอดรอลูกค้าอยู่ ชายคนที่ก่อเหตุขี่มอเตอร์ไซต์มาจอด แล้วนั่งรอบนรถสักพัก จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืน 3 นัด ทีแรกนึกว่าเด็กเล่นประทัดกัน แต่พอหันไปมองก็เห็นคนที่โดนยิงค่อยๆ ล้มลง แล้วชายที่มาจอดรถตอนแรกเดินกลับมา ตอนนั้นเขายังมองหน้าตนกับเพื่อนอยู่เลย ท่าทีไม่ได้มีความรีบร้อน ไม่ได้วิ่ง แต่ค่อยๆ เดินแล้วขี่รถออกไป ตอนนั้นทั้งตกใจและกลัวที่ผู้ก่อเหตุมองหน้า



ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดียิงอดีต สส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา ที่ สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า "จ่าเอ็ม" ต้องโดนว่าจ้างมาแน่นอน และต้องมีคนชี้เป้า เพราะปกติมือปืนจะไม่รู้จักเป้าหมายอยู่แล้ว ส่วนมูลเหตุยังไม่สามารถระบุได้ ต้องติดตามตัวมือปืนให้ได้ก่อน



ขณะนี้ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ขอศาลออกหมายจับมือปืนแล้ว คือ นาย เอกลักษณ์ แพน้อย อายุ 41 ปี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร



ส่วนคนชี้เป้า ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดจนเจอตัวแล้ว ซึ่งกล้องวงจรปิดใกล้กับวัดบวรนิเวศวิหารฯ จับภาพชาย อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา รูปร่างอ้วน สูง สวมเสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะหนีบ สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน สะพายกระเป๋าเป้สีดำ เดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์ที่นาย ลิม กิมยา ผู้ตายเดินทางมาด้วย ซึ่งกรุ๊ปทัวร์นี้มีนักท่องเที่ยว 20 คน นั่งรถบัสข้ามจากประเทศกัมพูชามาทางด่านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และมาจอดแวะเที่ยวที่บางลำพู ถนนข้าวสารช่วงเย็นวานนี้ (7ม.ค.68)



1 ในสาเหตุที่ตำรวจมั่นใจว่าชายคนนี้ เป็นผู้ต้องสงสัยเพราะหลังเกิดเหตุชายคนนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญ ตั้งแต่ 3 ทุ่ม 5 นาที เมื่อวานนี้ (7ม.ค.68) ทันที



มีรายงานว่านายเอกลักษณ์ เป็นอดีตนาวิกโยธิน สังกัดกองทัพเรือ ตอนนี้เป็นวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง แถวสุขุมวิท 22 ทีมข่าวจึงลงพื้นที่สุขุมวิท 22 ที่ "จ่าเอ็ม" ขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้างอยู่ เจอเพื่อนร่วมวิน เล่าว่า จ่าเอ็มวิ่งวินมอเตอร์ไซค์ตรงนี้ตั้งแต่สงกรานต์ปี 67 เป็นคนอัธยาศัยดีปกติ ชอบพูดคุยกับเพื่อนกับฝูง ไม่เคยคุยเกี่ยวกับเรื่องอาวุธปืน แต่ "จ่าเอ็ม" เคยเล่าให้ฟังว่า เคยรับราชการทหารเรือ



ในแต่ละวัน "จ่าเอ็ม" จะวิ่งวินมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ตี 4 ตี 5 จนถึงบ่ายสองบ่ายสาม แล้วก็จะไปรับงานจ้างซื้อของให้แม่ค้าอาหารตามสั่ง หรือไปใช้บริการซาวน่าซึ่งอยู่ภายในซอยเดียวกัน แล้วค่อยกลับบ้าน



พวกเขาเจอ "จ่าเอ็ม" ครั้งสุดท้ายก็เมื่อวานนี้ (7ม.ค.67) ตอนเช้ามาวิ่งงานตามปกติพอถึงตอนบ่ายก็กลับออกไป ไม่มีท่าทีร้อนรนหรือรีบออกไป ตอนรู้ข่าวว่า "จ่าเอ็ม" เป็นผู้ก่อเหตุสังหารอดีตนักการเมืองกัมพูชา ก็ตกใจ และวันนี้ยังไม่เจอ "จ่าเอ็ม" เลย



ทีมข่าวไปพูดคุยกับแม่ค้าที่มักว่าจ้างให้ "จ่าเอ็ม" ไปซื้อของให้ไปประจำ บอกว่า รู้จัก "จ่าเอ็ม" ได้ประมาณ 6-7 เดือนแล้ว แต่ละวันจะให้ "จ่าเอ็ม" ไปซื้อกับข้าวให้เธอที่ตลาดคลองเตยช่วงตี 4 ทุกวัน แล้ว "จ่าเอ็ม" จะไปวิ่งวินตามปกติ ก่อนจะกลับมากินข้าวช่วงบ่ายสาม แล้วไปใช้บริการซาวน่า กิจวัตรเป็นแบบนี้ทุกวัน



เวลาคุยกันจะพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป อัธยาศัยดีร่าเริง แต่ "จ่าเอ็ม" ไม่เคยพูดถึงภูมิหลังว่าเป็นใครมาจากไหน เเคยทำอะไรมาก่อน "จ่าเอ็ม" ก็ไม่ตอบ เมื่อวานนี้ได้เจอ "จ่าเอ็ม" ครั้งสุดท้ายก็คือช่วง 4 โมงเย็น "จ่าเอ็ม" มาถึงก็สั่งข้าวกะเพราปลาหมึก มานั่งกินในร้าน สักพักมีโทรศัพท์โทรเข้ามา "จ่าเอ็ม" ก็ออกไปรับสายข้างนอก แล้วก็มานั่งกินข้าวต่อที่นอกร้าน แต่ครั้งนี้กินแบบเร่งรีบและกินไม่หมดจาน ก่อนจะออก "จ่าเอ็ม" บอกว่า ไปก่อนนะป้า



ล่าสุดมีรายงานว่า "จ่าเอ็ม" เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ทางบ้านเข้าดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นชายแดนติดไทย-กัมพูชา



ส่วนร่างของนาย ลิม กิมยา เจ้าหน้าที่นำไปชันสูตรที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ขณะนี้ยังไม่มีญาติเดินทางมาติดต่อเพื่อขอรับศพ เบื้องต้นผลชันสูตรพบว่า เสียชีวิตจากกระสุนปืน

https://youtu.be/Bv80SyVzPqk