ฝากขัง 'จ่าเอ็ม' แจ้ง 3 ข้อหาหนัก แม่คอตก ลูกยังไม่พร้อมเจอหน้า

ตำรวจคุมตัว "จ่าเอ็ม" ส่งศาลฝากขังในคดีฆ่าอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชา เจ้าตัวสารภาพยิงจริงแต่ไม่ซัดทอดถึง "ผู้มีพระคุณ" และ "คนชี้เป้า"



ความคืบหน้ากรณีนาย ลิม กิมยา นักเคลื่อนไหวและอดีต สส.ฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา โดนยิงเสียชีวิตต่อหน้าภรรยาชาวฝรั่งเศส เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ขณะเดินเล่นอยู่แถวถนนสิบสามห้างบางลำพู กรุงเทพ



ตำรวจสืบสวนนครบาลใช้เวลา 2 วันก็ติดตามจับนาย เอกลักษณ์ แพน้อย อายุ 41 ปี หรือ "จ่าเอ็ม" มือปืนได้ขณะหลบหนีไปจังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ก่อนจะส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา



พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า ตลอด 2 วันที่ตำรวจพยายามสอบปากคำ "จ่าเอ็ม" เกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ปรากฎว่า "จ่าเอ็ม" ให้การรับสารภาพแค่ว่า เป็นคนในภาพวงจรปิดและลงมือยิงผู้ตายจริง แต่ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอื่น เช่น ผู้มีพระคุณหรือบุคคลผู้ชี้เป้ายังไม่ยอมให้การใดๆ



ซึ่งเมื่อวานนี้ (12ม.ค.68) ตำรวจก็ได้ใช้แนวทางการสืบสวนในการขยายผล โดยเฉพาะเรื่องผู้มีพระคุณ ทำให้ตอนนี้ทราบชัดเจนแล้วว่าเป็นบุคคลใด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่คาดว่าจะสามารถติดตามตัวมาได้อย่างแน่นอน ส่วนจะออกหมายเรียก หรือหมายจับอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน



เช้าวันนี้ประมาณ 9 โมงกว่า แม่และน้องสาวคนกลางของ "จ่าเอ็ม" ก็หิ้วข้าวผัดหมู และน้ำเปล่า 1 ขวด มาเยี่ยมลูกชาย แต่ "จ่าเอ็ม" ก็ปฏิเสธที่จะเจอหน้าแม่อีกครั้ง ทำให้แม่ของ "จ่าเอ็ม" พูดออกมาว่า ข้าวที่ซื้อมาก็ให้ตำรวจหรือนักข่าวกินแทน และแม่จะไปรอ "จ่าเอ็ม" ที่ศาล แล้วก็เดินทางออกจาก สน.ชนะสงครามทันที พร้อมกับบอกว่าเมื่อฝากขังเสร็จแม่ก็จะกลับจังหวัดจันทบุรี



นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ "จ่าเอ็ม" ปฏิเสธที่จะเจอแม่ เพราะแม่ของ "จ่าเอ็ม" ไปตามเฝ้ารอเจอหน้าตั้งแต่วันที่ตำรวจเอาตัวมาจากประเทศกัมพูชาแล้ว แต่ "จ่าเอ็ม" ปฏิเสธที่จะเจอ จนวันนี้จะขึ้นศาลก็ยังไม่ยอมพบหน้า



กระทั่ง 10 โมงเช้า พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม นำตัว "จ่าเอ็ม" ออกมาจากห้องขัง ด้วยเสื้อยืดสีฟ้า ทับด้วยเสื้อเกราะสีดำ และหมวกกันกระสุน ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วขึ้นรถตู้ไปโดยมีหน่วยอรินทราชพร้อมอาวุธครบมือยืนประกบ และไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน



ขบวนรถที่คุมตัว "จ่าเอ็ม" ในวันนี้มีทั้งหมด 6 คัน ประกอบด้วย รถสายตรวจ 191 เป็นรถนำขบวน / ตามด้วย รถตู้สำหรับควบคุมตัวผู้ต้องหา / รถตำรวจ สน.ชนะสงคราม 2 คัน / รถคุ้มกันของหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช / และปิดท้ายขบวนด้วยรถตำรวจ สน.ชนะสงคราม อีก 1 คัน ซึ่ง พันตำรวจเอก สนอง แสงมณี ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม ขึ้นรถตำรวจคันที่ขับตามหลังรถตู้ควบคุมผู้ต้องหาไปด้วย



เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่ง "จ่าเอ็ม" ก็ยืนยันกับพนักงานสอบสวนว่า จะไม่ยื่นประกันตัว ขอชดใช้กรรมในเรือนจำ



ขณะที่เพจดาวแปดแฉก ลงข้อความว่า "ผู้มีพระคุณของเอ็ม กองเรือ ติดตามเพจเฟซบุ๊กของ เฮียสรยุทธ กรรมกรข่าว และโพสต์ทำนองว่า มีคุณธรรมในการทำงานเป็นทีม ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน"



พร้อมลงภาพของชายสวมเสื้อสีส้มคนหนึ่งชูแขนซ้ายใส่นาฬิกา และมีข้อความเป็นภาษากัมพูชาว่า คุณธรรมในการทำงานเป็นทีม อย่าฆ่าฉัน อย่า งง เจ้านาย อย่าขายเพื่อน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ThgcFACZMUY