สังคม
มาสด้าแดงแหกด่าน จ่อมอบตัวเย็นนี้-พนักงานสอบสวน เตรียมเอาผิด 7 ตำรวจ กระทืบผิดคน
โดย parichat_p
9 ธ.ค. 2567
62 views
พนักงานสอบสวน สน.บางเขน เตรียมเอาผิด 7 ตำรวจ กระทืบลูกตำรวจ เพราะเข้าใจผิดว่าแหกด่าน ขณะที่เจ้าของรถต้นเรื่องที่แหกด่านจ่อมอบตัว 18.00 น. วันนี้ (9ธ.ค.67)
ความคืบหน้ากรณีนาย ธนานพ เกิดศรี โดนตำรวจจราจรกลางจับเพราะเข้าใจผิดคิดว่าแหกด่าน แล้วมีการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ตำรวจทั้ง 7 นาย โดนให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 ธ.ค.67) พันตำรวจเอก ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนที่ สน.บางเขน พร้อมเปิดเผยว่า หลังการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนพบว่าตำรวจทั้ง 7 นาย เข้าข่ายความผิดมาตรา 6 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งระบุไว้ว่า เป็นความผิดฐานกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
หลังจากนี้จะประสานพนักงานอัยการให้มาร่วมสอบปากคำ ตำรวจทั้ง 7 นาย เพิ่มเติม หากพบว่าผิดจะแจ้งข้อหาเพิ่มคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน
ส่วนชาย อายุ 37 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของรถมาสด้า 2 สีแดงที่แหกด่าน ตำรวจเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ เมาแล้วขับ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเจ้าตัวนัดจะเข้ามามอบตัวช่วง 18.00 น. วันนี้
ทีมข่าวได้คุยกับ พันตำรวจโท ธนชัย เกิดศรี พ่อของผู้บาดเจ็บ บอกว่า กรณีตำรวจที่ก่อเหตุทั้ง 7 นาย ให้การปฏิเสธ ไม่ได้กังวลใจเพราะมีพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ครบถ้วน แต่การที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่มีเจตนาจะทำร้ายร่างกาย ไม่ถูกต้อง เพราะเจ้าพนักงานไม่มีสิทธิ์ และอำนาจที่จะทำร้ายร่างกายใคร
สำหรับ พ.ร.บ.อุ้มหาย หากดูจากพฤติการณ์ยังไงก็ผิด โดยเฉพาะการสวมกุญแจมือและเอาตัวเข้าไปในที่มืด รวมทั้งยังส่อพิรุธเรื่องของกล้อง Body cam ที่ต้นสังกัดผู้ต้องหายังไม่เอามาให้พนักงานสอบสวน สน.บางเขน
ที่ผ่านมามีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาเป็นจำนวนมาก คาดว่าน่าจะเป็นตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดต่อมาเพื่อขอเยียวยาหรือรับผิดชอบแลกกับทางคดี ทางครอบครัวยืนยัน ไม่เจรจา ไม่ต้องมาเยี่ยม หรือเยียวยา ไปต่อสู้กันในชั้นศาล เพราะหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาเคยโทรมาถามว่า ลูกชายมีประกันสังคมหรือไม่ นี่คือความไม่จริงใจและไม่รู้สำนึกของผู้ต้องหา เพราะหากตั้งใจจะเยียวยาก็ดูแลมาเลย ไม่ใช่มารอส่วนเหลือจากประกัน
ส่วนกรณีชายที่ขับรถฝ่านด่าน พันตำรวจโท ธนชัย มองว่าเป็นคนละส่วนกัน เขาก็มีความผิดในส่วนของการฝ่าด่าน หรืออาจจะมีเรื่องของเมาแล้วขับ ซึ่งก็เป็นความผิดที่เขาต้องรับผิดไป แต่หากสมมุติตำรวจจับได้ถูกคันแล้วใช้ความรุนแรงแบบนี้ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง ส่วนคนขับรถแหกด่านบอกว่าจะเข้ามาเยี่ยม คุณพ่อบอกว่า ทางครอบครัวไม่ได้ต้องการให้คนขับรถที่แหกด่านเข้ามาเยี่ยม เพราะไม่ได้รู้สึกโกรธหรือรู้สึกติดใจใด ๆ หากจะเข้ามาเยี่ยมและกล่าวขอโทษที่คิดว่าเป็นตัวต้นเรื่องก็พร้อมจะให้อภัย แต่มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่จำเป็น เพราะครอบครัวพุ่งไปที่ตำรวจใช้ความรุนแรงมากกว่า
สำหรับอาการล่าสุดของผู้บาดเจ็บ ศีรษะบวมเล็กน้อย ปวดศีรษะอยู่แต่พอบรรเทาลงบ้าง ดวงตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ บางส่วนเป็นสีดำบ้าง ส่วนบริเวณตาดำยังมีสีขุ่น ๆ พอใช้ดวงตามองเห็นได้บ้าง แต่ยังปรากฏเป็นภาพซ้อน บริเวณหน้าอกยังคงเจ็บ โดยเฉพาะเวลาไอหรือหายใจแรง ๆ จะมีอาการยอก อีกทั้งมีอาการเจ็บที่แผ่นหลังและเอว ตอนนี้อยู่ในช่วงการกายภาพบำบัดฟื้นฟูร่างกายวันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น รวมทั้งเป่าลมฟื้นฟูปอด ตอนนี้สภาพร่างกายโดยรวมฟื้นฟูประมาณ 60-70%
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/LJ9jxCipH8Y