สังคม

แพทย์ เผย 'น้องผิง' ไม่ได้เสียชีวิตเพราะการนวด คาดเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด-มีเชื้อราร่วมด้วย

โดย parichat_p

9 ธ.ค. 2567

673 views

กรณีน้องผิง ที่ไปนวด บิดและสะบัดคอ ก่อนป่วยติดเตียงและเสียชีวิต จะเรียกได้ว่า เป็นเคสแรกที่มีเหล่าบรรดาคุณหมอ ออกมาแสดงความเห็นกันมากที่สุด เตือนถึงการนวดบิดคอ เสี่ยงอัมพฤกษ์ ส่วนสาเหตุ เพราะไปนวดทำให้เสียชีวิตหรือไม่ ยังไม่มีใครสรุปได้


ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เวชปฏิบัติทางประสาทวิทยา ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านสมอง และความผิดปกติทางประสาทวิทยา มีมุมมอง โพสต์ผ่านข้อความระบุว่า คนไข้ที่เสียชีวิต น่าไม่ใช่จากการนวด เห็นว่า น่าจะมีอักเสบและติดเชื้อเอกซเรย์ ไม่พบมีกระดูกกดทับสันหลัง


ดร.นพ.จตุพล คงถาวรสกุล เจ้าของเพจ "ด๊อกเตอร์ หมอหมี" แพทย์สาขาด้านออร์โธปิดิกส์ (หมอกระดูก) มีความเห็นว่า จากที่เห็นในเอกซเรย์ พบว่า ตัวหมอนรองกระดูกคอ ที่มีการเคลื่อนจากภาพเอกซเรย์ คือ คอระดับ 4 ต่อ 5 นั้น ปกติแล้ว ถ้าต่อให้นวดบิดจนหมอนรองกระดูกไปทับเส้นประสาทจริงๆ ส่วนใหญ่มาด้วยอาการอ่อนแรง อาจจะอ่อนแรงแขนและขา แต่การที่นวดแล้วเสียชีวิตเลยโอกาสมันน่าจะยาก


ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต มีมุมมองความเห็นว่า การสะบัดคอแรงๆ การหมุนคอบิด บริหารประจำ อาจทำให้เกิดผลร้าย อันตรายที่เกิดขึ้น จะแปรตามความรวดเร็ว รุนแรงของการบิดสะบัดเคลื่อนไหวคอ และแม้หมุน สะบัดไม่รวดเร็ว แต่การทำซ้ำกันบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน ก็เกิดเรื่องได้ ไม่เฉพาะแต่เส้นประสาทที่คอ ยังเกิดกับเส้นเลือด โดยเฉพาะผู้ที่เกิดมาขาดทุน คือ มีเส้นเลือดคู่หลังเพียงเส้นเดียว และในคนที่มีเส้นเลือดตีบอยู่แล้วจากมีโรคประจำตัว คือ อ้วน ความดันสูง ไขมัน


อีกท่าน นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมผู้ชำนาญการเพื่อกีฬาและสุขภาพ มีมุมมองความเห็นว่า การสะบัดหรือบิดแรงๆ ซ้ำๆ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดฉีกขาดหรืออุดตันได้ โดยมีการศึกษากรณีของผู้ป่วยที่มักบิดคอแรงๆ เป็นกิจวัตร เพื่อบรรเทาอาการเมื่อยล้า แต่กลับเกิดอาการอัมพาตครึ่งซีกชั่วคราว ในขณะหันศีรษะเพียงครั้งเดียว


ด้าน นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขอุดรธานี ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ระบุว่า น้องผิงเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด และมีเชื้อราร่วมด้วย /ยังไม่ยืนยันว่า เกิดจากการนวดหรือไม่ หากญาติคาใจ ก็สามารถร้องขอตำรวจชันสูตรพลิกศพได้


สำหรับน้องผิงเริ่มรักษาตัว ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งช่วง วันที่ 6 พฤศจิกายน ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี คนไข้ปวดต้นคอ แขนขาอ่อนแรงขยับไม่ได้ จึงเจาะหลังไปตรวจ พบว่า ไขสันหลังอักเสบ และไม่มีปัญหาเรื่องกระดูกหักบริเวณต้นคอ ให้ยาแล้วอาการดีขึ้น กระทั่งวันที่ 18 พฤศจิกายน มีอาการเกร็งกระตุก และรักษาตัวเรื่อยมา กระทั่งเสียชีวิต


ส่วนรายละเอียดการรักษาอื่น ๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ตามกฎหมาย PDPA แต่ญาติสามารถมาขอได้ และตนเองไม่ใช่หมอกระดูก จึงไม่สามารถยืนยันถึงสาเหตุได้


ขณะที่ พญ.ศรัญญา ยุทธโกวิท นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวว่า จากที่ดูฟิล์มเอ็กซ์เรย์ของน้องผิง ที่โพสต์เพียงภาพเดียว พบ ว่า มีความผิดปกติ โดยมีความเสื่อมซ่อนบริเวณกระดูกต้นคออยู่ แต้ต้องทำ MRI เพิ่มเติมร่วมด้วย จึงจะได้ข้อมูล 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอาการลักษณะนี้ไม่ควรไปนวดบิดคอ จะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง รวมถึงผู้ที่มีอาการปวดคอ ร้าวลงแขน ปลายมือปลายนิ้วชา ไม่ควรไปนวดเด็ดขาด ควรพบแพทย์กระดูกรักษาให้ตรงจุด โดยเฉพาะต้นคอ คนที่มีอายุน้อยก็ต้องระวังการกดเส้นเลือดใหญ่ที่คอด้านหน้าและ ด้านหลัง


พญ.ศรัญญา ยังบอกอีกว่า การนวด ไม่น่านำไปสู่การติดเชื้อ เพราะ ไม่มีบาดแผล ติดเชื้อจนเกิดโรคไม่ได้(ไม่น่าเกี่ยวข้องกัน) แต่อาจเกิดการติดเชื้อในโรงพบาบาลมากกว่า ขณะเดียวกัน การนวดมีโอกาสไปกระตุ้นให้โรครุนแรงได้ อย่างกระดูกปลิ้นไปกดทับเส้นปราสาท จนเกิดอาการรุนแรงขึ้นได้


ทีมข่าวไปสอบถาม ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ซึ่งกำกับดูแลร้านนวดแผนไทยทั่วประเทศ กล่าวว่า ผลตรวจร้านที่จังหวัดอุดรธานีที่น้องผิงไปนวด เป็นไปตามมาตรฐาน และมีใบประกอบการถูกต้อง /มีหมอนวด 7 คน ขึ้นทะเบียนถูกต้องทุกคน ผ่านการอบรมในหลักสูตรที่ สบส.รับรอง


ส่วนการเสียชีวิตจะเกี่ยวข้องกับการนวดหรือไม่นั้น ต้องรอผลการวินิจฉัยอย่างละเอียดของแพทย์ผู้รักษา กับผลสอบสวนของตำรวจ พร้อมยืนยันการนวด เพื่อผ่อนคลาย(ร้านสปาทั่วไป) แตกต่างจาก การนวดเพื่อรักษา ที่มีการกด ดึง ดัด ที่อยู่ในโรงพยาบาล และคลินิก


รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า ได้กำชับไปยังร้านนวดเพื่อสุขภาพ หรือการนวดเพื่อผ่อนคลาย ทั่วประเทศ ขอให้นวดตามแนวทาง ที่มีการอบรม สบส. เท่านั้น /ส่วนการกดจุดสำคัญต่างๆ เช่นกดคอหรือบิดคอ ไม่สามารถทำได้ ต้องเป็นบุคลากรที่มีใบประกอบวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล หรือนักกายภาพบำบัดเท่านั้น หากพบว่า ร้านนวดใด หรือผู้ให้บริการ ทำเกินกว่าสิ่งที่อบรม จะถือว่า เป็นคลินิกเถื่อน และหมอเถื่อน มีโทษรุนแรงทั้งจำทั้งปรับ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/S5NJ2P_DQnE

คุณอาจสนใจ

Related News