เจ้าของคลินิกดังขับเบนซ์ชน 'ไรเดอร์หญิง' รับเมาแล้วขับ อ้างสะพานมืดมองไม่เห็น พร้อมเยียวยาครอบครัว

ความคืบหน้ากรณี ผู้บริหารคลินิกเสริมความงามชื่อดัง เมาแล้วขับเบนซ์พุ่งชนไรเดอร์หญิงบนสะพานข้ามแยกอังรีดูนังค์เสียชีวิต ครอบครัวเข้ารับสพแล้ว ขณะที่ผู้ก่อเหตุมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น


กล้องวงจรปิดบนตัวอาคารแห่งหนึ่ง ริมถนนพระราม 4 บันทึกเสียงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเอาไว้ได้ เป็นเสียงการชนอย่างแรง จากนั้นไม่ถึง 2 วินาทีก็มีร่างของไรเดอร์หญิงสวมเสื้อสีเขียว กางเกงขายาวสีดำ ตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง แล้วไถลไปกับพื้นถนนก่อนจะนอนแน่นิ่ง  อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงตีสอง 18 นาที ของเมื่อคืนที่ผ่านมา


จุดเกิดเหตุอยู่บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น ข้ามแยกอังรีดูนังต์ ถนนพระราม 4 แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพ ที่กลางสะพานพบมอเตอร์ไซต์ยี่ห้อยามาฮ่า พีราโน่ สีเทาดำ ล้มอยู่กลางถนนท้ายรถถูกชนอย่างรุนแรง ส่วนเจ้าของรถมอเตอร์ไซต์ทราบชื่อต่อมา คือ นางสาว ฉวี อาศัยสงฆ์ อายุ 44 ปี ตกลงมาจากสะพานซึ่งมีความสูงจากพื้นถนนกว่า 10 เมตร นอนเสียชีวิตอยู่บนถนนพระรามสี่ ในสภาพคอหัก แขนขาหัก


บนสะพานข้ามแยกห่างจากจุดที่มอเตอร์ไซต์ล้มไปราว 1 กิโลเมตร ช่วงทางลงถนนพระราม 4 มุ่งหน้าหัวลำโพง พบรถคู่กรณี ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ E200D สีเทา จอดอยู่ สภาพรถกระจกมองข้างด้านซ้ายหัก แก้มซ้ายหน้ารถ กันชนหน้า ไฟหน้าแตกหักเสียหาย ยางล้อหน้าซ้ายแตก กระจกหน้าฝั่งข้างคนขับร้าว และถุงลมนิรภัยทำงาน ภายในรถเจอ นาย ปุณณมีอายุ 44 ปี ตำแหน่งผู้บริหารคลินิกเสริมความงามชื่อดัง เป็นคนขับนั่งรอตำรวจอยู่ในรถ


ตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ พบว่า สูงถึง 119 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ เบื้องต้น นาย ปุณณมี ให้การกับตำรวจว่า กำลังขับรถกลับบ้านพักหลังออกจากงานเลี้ยงสังสรรค์ โดยขับรถขึ้นสะพานไทย-ญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าไปทางหัวลำโพง แล้วก็เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ดังกล่าว


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่สำรวจบริเวณจุดเกิดเหตุ เจอหมวกกันน็อคของผู้เสียชีวิตตกอยู่ตรงจุดที่ร่วงลงมา และชาวบ้านพาทีมข่าวไปดูรองเท้าของผู้เสียชีวิต ซึ่งกระเด็นเข้าไปตกอยู่ภายในตรอกใกล้กับจุดเกิดเหตุ


เมื่อช่วงช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ผู้บริหารคลินิกที่เป็นผู้ก่อเหตุเมาแล้วขับ เดินทางมาพบกับตำรวจ สน.ปทุมวัน แล้ว โดยเข้าทางประตูหลังแล้วขึ้นไปห้องประชุมชั้น 2 ของสน. เพื่อหนีนักข่าว มีรายงานว่า เป็นการพูดคุยเจรจาเบื้องต้นระหว่างครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ แล้วหลังจากนั้นครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ได้เดินทางกลับออกไปประมาณ บ่าย 2 โมง ยเปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปรับศพที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่จังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนในเรื่องทางคดีนั้น เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ในรายละเอียดจะพูดคุยกันหลังเสร็จสิ้นพิธีศพ

ด้านผู้ก่อเหตุบอกว่า ตั้งแต่เมื่อคืนตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์อีกแล้ว ผิดไปแล้ว สำนึกผิด วิธีแก้ไขด้วยตัวเรา คือไม่ดื่มแล้ว อยากแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า เสียใจจริงๆ เสียใจมาก ยอมรับผิด ไม่ได้ไปไหน ยินดีช่วยเหลือครอบครัวของเขา ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ก็เสียใจ ไม่รู้จะให้อธิบายยังไง ตนก็ไม่ได้แฮปปี้ ตนรู้สึกผิด


เมื่อถามว่าตอนที่ขอโทษได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้าง เจ้าตัวบอกว่าคู่กรณี ก็ยังอยู่ในช่วงที่ช็อค ตนเองก็เสียใจ เค้าก็ช็อค ความรู้สึกสองฝั่งมันรู้สึกแย่ทั้งคู่ เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ


นายปุณณมี เล่าว่า เขาได้พูดคุยกับญาติผู้ตายแล้ว ได้บอกเขาว่าขอโทษ ที่ทำให้เหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ได้ตั้งใจของเรา และยินดีที่จะช่วยเหลืองานศพของเขาทั้งหมด ทั้งค่านำเดินทาง ค่านำร่างผู้เสียชีวิตกลับ และค่าเยียวยาเบื้องต้น และตนเองก็จะบินไปที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อไปงานศพด้วยตัวเอง / ซึ่งค่าเยียวยา ก็แล้วแต่ทางครอบครัวเค้า คือให้ครอบครัวกลับไปคุยได้เลย แล้วเสนอมา ซึ่งก็ยินดีที่จะเยียวยาให้


เวลา 14.30 น. นาย จุลเมธ สอนสุทธิ์ ทนายความของผู้ก่อเหตุเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ผู้ก่อเหตุได้ไหว้ขอโทษและแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 70,000 บาท แบ่งเป็นเงินค่าเดินทางครอบครัว 50,000 บาท และเงินค่าส่งศพกับ จ.ร้อยเอ็ด 20,000 บาท พร้อมรับปากว่า จะดูแลค่าใช้จ่ายในงานศพทั้งหมด พร้อมเดินทางไปร่วมงานศพที่ จ.ร้อยเอ็ด ด้วย


ส่วนประเด็นเรื่องเมาแล้วขับ ทนายความ ชี้แจงว่า ผู้ก่อเหตุไปร่วมงานเลี้ยง และกำลังขับรถกลับบ้านย่านปทุมวัน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงทางขึ้น และไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขี่อยู่ข้างสะพาน เลยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ส่วนในเรื่องทางคดี ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับและขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยผู้ก่อเหตุยอมรับผิดและพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการการดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งวันนี้ตัวผู้ก่อเหตุก็ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ ส่วนจะนำตัวส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการเมื่อไหร่ คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์หน้าหรือโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีปัญหา โดยคดีดังกล่าวจะอยู่ภายใต้เขตอำนาจของศาลอาญากรุงเทพใต้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/nrc3A68TTLc