สังคม
ทนายเดชา โต้ 'สนธิ-อ.ปานเทพ' ยันไม่ฟอกขาวให้ 'ทนายตั้ม' เชื่อหมายจับออกสัปดาห์นี้
โดย panisa_p
4 พ.ย. 2567
124 views
วันเดียวกันนี้ภายหลัง นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ซึ่งถูกนายสนธิ ลิ้มทองกุล รวมทั้ง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาตั้งคำถามและพาดพิงถึง “ทนายเดชา” ในปมประเด็นฟอกขาวและอยู่ฝั่งนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน หรืออาจเป็นถึงที่ปรึกษาให้คำปรึกษาทางด้านของคดีในการสู้กับน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย นั้นทนายเดชา ระบุว่า ขอบคุณทั้งสองคนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ตนมีการเอ่ยชื่อตนซึ่งมองว่าแต่ละคนก็มีความคิดเห็นที่สามารถแตกต่างกันได้ ซึ่งก็ไม่มีความจำเป็นที่ตนจะต้องเห็นด้วยกับทางนายสนธิและนายปานเทพ ซึ่งตนจะมีความคิดเห็นอย่างไรตนก็จะต้องรับผิดชอบเอง
และที่มีคนกล่าวหาว่าตนบอกว่าคดีของทนายตั้มนั้นขาดอายุความ ทนายเดชาระบุว่า ไม่จริงมีการไปตัดคลิปมาเฉพาะบางส่วน และมีทนายคนหนึ่งนำออกไปเผยแพร่ซึ่งตอนนี้ตนได้มีการให้ลูกน้องเก็บหลักฐานข้อมูลให้หมด และจะดำเนินคดี เพราะตอนที่ตนพูด ระบุว่า การนับอายุความเป็นไปตามมาตรา 96 “กรณีความผิด อันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ” ตนจึงได้ตั้งคำถามคดีนี้ทนายตั้มได้รับเงินจากเจ๊อ้อยตั้งแต่ปี 2565 และปี 2566 ใช่หรือไม่ และรู้เมื่อไหร่ว่าถูกฉ้อโกง เนื่องจากผ่านมา 1-2 แล้ว ถ้าพึ่งรู้ก็ไม่ขาดอายุความ
ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนั้นจะต้องไปหาพยานหลักฐานมา ปิดจุดที่ทนายตั้มจะมาต่อสู้ ที่สำคัญจากกรณีที่ถูกพาดพิงหรือนำไปตัดต่อแล้วลงคลิปจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด กำลังมีการรวบรวมหลักฐานและจะมีการดำเนินคดีกับทนายคนหนึ่ง แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร ส่วนบุคคลอื่นที่มีการพาดพิงแล้วทำให้สังคมเข้าใจผิดก็ดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เพราะทนายเดชา ระบุว่า “ไม่ได้บอกว่าหลุด แค่บอกว่ามันคือแผนที่ทนายตั้มสามารถวางแผนต่อสู้ได้”
ส่วนประเด็นที่มีคนกล่าวอ้างว่า ทนายเดชาพยายามที่จะฟอกขาวให้กับทนายตั้มนั้น ทนายเดชา ระบุว่าส่วนตัวยอมรับว่าตนเองเป็นเพื่อน เป็นคนรู้จัก และทำงานอยู่ฝั่งเดียวกับทนายตั้ม และตนก็ไม่ได้เกลียดทนายตั้มทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพราะส่วนตัวไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องไปจับกุมทนายตั้ม ตนไม่จำเป็นที่จะต้องไปหักหลังเพื่อนหรือไปซ้ำเติมเพื่อน เพราะฉะนั้นใครจะวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนเข้าข้างทนายตั้มก็สามารถทำได้เต็มที่ เพราะตนเองถึงว่าเป็นบุคคลสาธารณะ
แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ฟอกขาวทนายตั้ม หากทนายตั้มจะหลุดคดีได้ก็ต่อเมื่อพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะเอาผิดได้ เพราะเท่าที่ตนเองได้คุยกับทนายตั้มครั้งล่าสุดที่ประเทศจีนทนายตั้มวางแผนสู้คดีเต็มที่ และทนายตั้มได้มีการตั้งทีมทนายความสู้คดี และทำคำให้การเสร็จเรียบร้อยและเตรียมพยานหลักฐานไว้เรียบร้อย ทนายเดชาระบุว่า เขาไม่จ่ายเงินคืน ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องไปตั้งหลักว่าเขาจะสู้คดีและจะไม่มีการหลบหนี มองว่าเดี๋ยวเขาก็มอบตัว ซึ่งส่วนตัวตอนนี้ไม่สามารถติดต่อทนายตั้มได้เช่นเดียวกัน
จึงมองว่าทนายตั้มน่าจะรอหมายจับซึ่งคาดว่าน่าจะออกภายในอาทิตย์นี้ และข้อหาที่ตนทราบมานั้นคือฉ้อโกงเป็นปกติธุระ และฟอกเงินซึ่งจะมีผู้ต้องหาประมาณสี่ถึงห้าคนซึ่งเดาได้ไม่ยากน่าจะเป็นทนายตั้ม ภรรยาทนายตั้ม และคนรอบข้างทนายตั้ม ที่มีเส้นทางการเงินไปถึงกัน ซึ่งเท่าที่ตนทราบก็ได้มีการอายัดบัญชีเป็นที่เรียบร้อย ส่วนบุคคลอักษรย่อที่ออกมามีกระแสข่าวตอนนี้จะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่าก็อยู่ที่เส้นทางการเงิน ถ้าเส้นทางการเงินถึงกันก็จะต้องถูกดำเนินคดีไปด้วย และเชื่อว่าทนายตั้มไม่หลบหนีแน่นอน
ส่วนตัวอยากจะตั้งคำถามย้อนกลับไปยังเจ๊อ้อย และรวมถึงคนที่กำลังดูแลทางด้านของคดีในตอนนี้ ว่าเจ๊อ้อยโดนโกงอย่างไร ตอนที่มีการทวงมีการทวงในฐานะอะไร และให้ทนายความยื่นโนติส ไปทวงถามทวงถามในฐานะอะไร ซึ่งเป็นการทวงลักษณะ แบบยืมเงิน ทวงแบบถูกโกง ถูกหลอก หรือถูกให้ร่วมลงทุน หรือฝากให้ทำอะไรหรือไม่ ให้ย้อนกลับไปที่ครั้งแรก ที่มีการส่งหนังสือโนติส มันคือรูปแบบแรก ที่มีการทวงถามกับทนายตั้ม รวมถึงตอนไปแจ้งความที่สภ. ปากช่องทำไมถึงไปแจ้งเป็นฉ้อโกง ทำไมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางถึงใช้เวลานาน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับหรือหมายเรียก ก็มองว่า เพราะพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะออกหมายจับหรือหมายเรียก
เมื่อถามว่าคดีนี้จะออกมาเป็นรูปแบบอย่างไรทนายเดชา ระบุว่าทนายตั้มนั้นเป็นทนายความแล้วถ้าหากทนายตั้มเป็นบุคคลสีเทาจริงก็จะต้องมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนมาแล้ว แชทข้อความต่างๆก็น่าจะต้องมีการเก็บไว้ เพราะฉะนั้นถ้าหากอยากจะเอาทนายตั้มเข้าคุกพยานหลักฐานก็จะต้องแน่นต้องปิดทุกจุด
ทั้งนี้ทนายนายเดชา ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็น เงิน 39 ล้านบาท ที่นอกเหนือจาก 71 ล้านบาท โดยให้ย้อนถามว่าจำนวนเงิน 39 ล้านบาท นั้นมีการโอนเข้าบัญชีใคร มีชื่อทนายตั้มเกี่ยวข้องหรือไม่ และทำไมถึงเอามาโยง แต่ท้ายที่สุดหากเกี่ยวข้อง หรือเส้นทางของการเงินไปถึงก็คงตรวจสอบไม่ยาก แต่อย่าลืมว่าทั้งหมดทุกคำพูดหรือแม้แต่ข้อความเสียงหรือแม้แต่ข้อความแชท มีทั้งข้อมูลฝั่งของทนายตั้ม และของเจ๊อ้อย ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็สามารถนำมางัดแสดงกันได้ตามกระบวนการหากมีการออกหมายจับหรือแจ้งข้อกล่าวหา เพราะเชื่อว่าทนายตั้มก็ทำทุกอย่างอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและกำลังรวบรวมอยู่
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7p8N34CAvy8
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทนายเดชา ,ทนายตั้ม ,สนธิ-อ.ปานเทพ ,คดีทนายตั้ม