'เคนโด้' ยันไม่เกี่ยวดิไอคอน แจงเคยเป็นที่ปรึกษา เตือนแล้ว 'บอสพอล' ทำธุรกิจแบบนี้อาจถูกจับ

เคนโด้ ยันไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของดิ ไอคอน กรุ๊ป รับเคยร่วมงานช่วงแรก แต่พบความผิดปกติ จึงออกมาทันที และเคยเตือนบอสพอลไปว่าอย่างอวดร่ำอวดรวย ระบุไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์



นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโด้ บอกกับผู้สื่อข่าวว่าครั้งนี้ตนจะชี้แจงทั้งหมดเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว ถึงกรณีที่ทนายความของบอสพอล จะดำเนินคดีตนเอง บอกว่า ไม่แปลกใจที่ตนเองจะโดนพาดพิง และยอมรับว่าเคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้ดิ ไอคอน กรุ๊ป ในช่วงปี 2562-2564 ซึ่งตอนนั้น บอสพอลติดต่อให้เข้าไปเป็นที่ปรึกษา เพราะต้องการถอดบทเรียนจากเมจิกสกินที่ตนเป็นคนแฉ ว่าจะทำธุรกิจแบบนี้ต้องทำยังไงให้ถูกต้อง ตนจึงเข้าไปเขียนธรรมาภิบาล และไปพูดให้ความรู้การทำธุรกิจออนไลน์ที่ถูกต้อง



แต่อยู่ไปสักพักก็เห็นว่า ที่ธุรกิจมันไม่ถูกต้อง มีการให้ตัวแทนสต๊อกสินค้า ทั้งที่ตนเคยบอกว่าไม่ต้องทำและช่วงโควิดระบาด ก็ยังจัดประชุมสัมมนาจนมีคนติดโควิดเยอะมาก อีกทั้งบริษัทยังจัดคาราวานรถหรูไปเขาใหญ่เพื่ออวดร่ำอวดรวย ตนจึงไม่พอใจ ทำให้ยุติสัญญาในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 และมั่นใจว่าหากเริ่มมีการอวดร่ำอวดรวย บริษัทต้องพังแน่นอน ซึ่งตนเองมีหลักฐานแชทไลน์ทุกอย่าง ไม่เคยลบ และยืนยันไม่มีสัญญาการเป็นพรีเซนเตอร์กับดิไอคอน ซึ่งให้การและให้หลักฐานกับตำรวจไปหมดแล้ว



เคนโด้ ยังบอกอีกว่า ไม่เคยได้รับเงินถึงหลักล้านตามที่ถูกกล่าวหาได้รับเป็นเงินเดือน เหมือนคนทำงานทั่วไป ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความถูกต้อง และตนเองก็ไม่ทราบว่าผลประดยชน์เท่าบอสกันต์หรือไม่ แต่หากตนต้องการจริงจะออกมาทำไม เพราะหลังตนเองออกงบการเงินกำไรบริษัทพุ่งมาก และมองว่า ตนไม่เคยเห็นทนายความคนไหนออกมาพูดกับสื่อว่าไปพบผู้ต้องหาในเรือนจำ แล้วจะมาเด็ดหัวคนนั้นคนนี้รายวัน ซึ่งพฤติกรรมนี้เข้าข่ายความผิดอาญาฐาน"ข่มขู่"



และยังบอกทิ้งท้ายว่า ในวันที่บอสพอลโดนจับ ยังส่งไลน์มาหาตนรัวๆ แต่ตนไม่ได้เปิดอ่าน แต่เห็นรูปสุดท้ายที่ส่งมาคือรูปหัวใจ เขาก็คงจะจำได้ในสิ่งที่ตนเคยเตือนไว้ว่า ถ้าทำแบบนี้สักวันจะโดนจับ และตอนนี้ตนเองตั้งทนายความแล้ว ใครไปพูดให้ตนเองเสียหาย ทุกความเสียหายคิดเป็นเงินทั้งหมด

https://youtu.be/VkBeZSs4Dh8