'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' เลื่อนพบ สคบ. อ้างวุ่นเยียวยาลูกค้า ด้านปปง. จ่อสอบที่มาทรัพย์สิน หลังพบรวยผิดปกติ

วันนี้ สคบ.เรียกป๋าเบียร์ - แม่ตั๊กสอบปากคำ แต่ทั้งคู่ส่งตัวแทนมายื่นเอกสารขอเลื่อนอ้างเหตุผลต้องเยียวยาลูกค้าก่อน



ตามกำหนดแล้ว 9 โมงเช้าวันนี้นาย เลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. ได้เชิญตัว นางสาว กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ มาให้ถ้อยคำเรื่องของการขายทอง แต่ปรากฎว่าทั้งคู่ได้ให้ตัวแทนโทรศัพท์มาเลื่อนนัด โดยอ้างว่า ต้องจัดการคืนสินค้า และคืนเงินให้ผู้เสียหายเรียบร้อยก่อน



นาย เลิศ ธรรม ระบุว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนแล้ว 45 รายซึ่งเชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และภายในสัปดาห์หน้า จะมีการออกหนังสือเรียกครั้งที่ 2 ถ้าหากไม่มาจะมีการส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งการเข้าให้ถ้อยคำครั้งนี้เจ้าตัวต้องมาเองไม่สามารถส่งตัวแทนมาได้ เพราะมีประเด็นที่ต้องซักถาม เช่นการโฆษณา ,การไลฟ์สด ใช้ข้อความตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ ถ้าไม่ตรงถือว่าเป็นเท็จ



ขณะที่ความคืบหน้าของผู้เสียหายจากกรณีของแม่ตั๊ก และ ป๋าเบียร์ หลังตำรวจ ปคบ. ประกาศให้มาแจ้งความโดยตรงที่ มีผู้เสียหาย 1 ราย เข้ามาให้ปากคำ คือ นางสาว ฟารีดา อายุ 44 ปี เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวอาชญากรรมว่า เธอมาแจ้งความเมื่อวานนี้ (26ก.ย.67)ว่าได้ซื้อสร้อยข้อมือปี่เซียะทองคำจากเพจของแม่ตั๊ก เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ในราคา 33,333 บาท และได้ของแถมเป็นเหรียญทองคำ รูปปั้นเทพเจ้าจีน และของแถมอื่น ๆ รวมแล้วมากกว่า 30 กล่อง แต่เมื่อเธอใส่สร้อยข้อมือปี่เซียะทองคำไปได้สักระยะ รู้สึกว่าปี่เซี๊ยะน้ำหนักมันเบาผิดปกติ



ในปี 2565 จึงเอาปี่เซี๊ยะทองคำไปขายตามร้านทองต่าง ๆ เมื่อร้านทองได้นำปี่เซี๊ยะทั้ง 8 ตัวไปชั่ง พบว่ามีนัำหนักรวมกัน 4 กรัม โดยร้านทองรับซื้อในราคา 6 พันบาทเท่านั้น ยอมรับว่าตอนนั้นเสียใจและผิดหวังในตัวแม่ตั๊กมาก แม้จะไม่ได้แจ้งความ แต่ก็เลือกที่จะเลิกติดตามแม่ตั๊กตั้งแต่วันนั้น



เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมามีเหยื่อเข้ามาแจ้งความอีก 1 คน พร้อมกับโชว์สิ่งของที่ซื้อจากแม่ตั๊ก เป็นเหรียญท้าวเวสสุวรรณ ราคามูลค่า 1,772 บาท พร้อมของแถมเป็นแหวนทองขนาดเล็ก 96.5% และอีกรายการหนึ่งคือ จี้ทองคำ 99.99% รูปเทพเจ้าปี่เซียะ ราคามูลค่า 1,885 บาท พร้อมของแถมคือสร้อยทองคำ ขนาด 18k ซึ่งมีขนาดเส้นที่บางมาก รวมมูลค่าทั้งสองรายการ 3,657 บาท ซึ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เธอบอกว่าที่ตัดสินใจซื้อเพราะโฆษณาว่าเพิ่งได้รับการปลุกเสกจากวัดที่พระนครศรีอยุธยา และมีจำนวนน้อย



ทีแรกไม่ได้เอะใจ แต่พอมาเห็นข่าวเลยไปค้นหาข้อมูลดูพบว่า ท้าวเวสสุวรรณที่เธอเช่ามา ราคาในเว็บไซต์แผงพระต่าง ๆ อยู่ที่ 100 ถึง 300 บาทเท่านั้น เช่นเดียวกับสินค้าที่เป็นทองคำทั้ง 3 ชิ้น ตนก็เริ่มไม่มั่นใจว่าเป็นทองคำจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นจี้ทองคำเทพปี่เซียะที่มีเหยื่อหลายรายบอกว่าเป็นทองคำปลอม ไม่ได้มีคุณภาพ 99.99%



ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. พบว่าจากการตรวจสอบย้อนหลัง มีผู้เสียหายมาเคยแจ้งความไว้แม่ตั๊ก และ ป๋าเบียร์ ถึง 42 คดี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นคดีที่ผู้เสียหายแจ้งว่าได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อกล่องสุ่ม การซื้อสินค้าที่เป็นเครื่องบริโภค เช่นโกโก้กาแฟ รวมแล้วประมาณ 25 อีก 17 คดีเป็นคดีเกี่ยวกับการซื้อทอง มูลค่าความเสียหายมีตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักแสนบาท



นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าน่าจะมีการใช้บัญชีม้าถึง 4 บัญชี ในการรับโอนเงินจากผู้เสียหายด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีถึง 25 คดี ที่โอนเงินเข้าบัญชีม้า 4 บัญชีนี้ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ



นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. บอกว่า ทาง ปปง. ได้ทำงานร่วมกับ สคบ.และปปง. หากการตรวจสอบพบเข้าข่ายความผิดฐาน "ฉ้อโกง" หน้าที่ของ ปปง. ก็จะต้องเข้าไปตรวจทรัพย์ทั้งหมด ทั้ง แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ และพวกทั้งหมด และยึดมาตรวจว่าทรัพย์ที่ได้มานั้นได้มาอย่างไร จากไหน ถ้าได้มาจากการกระทำความผิด แต่ก็ยังสามารถมาชี้แจงพิสูจน์ทรัพย์ แต่ถ้าไม่สามารถชี้แจงได้ ทาง ปปง. จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งต่อทรัพย์สินดังกล่าว ส่วนผู้เสียหายก็ต้องมายื่นคำร้องและประกาศคุ้มครองสิทธิ์เพื่อเยียวยาต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/19rQp9Up9DA