เจ้าของรถตู้ ร้องถูกกลุ่มชายอ้างเป็น ตร.รีดเงินนนท.จีน 7 แสน ล่าสุดคนขับรถหายตัวปริศนา

เจ้าของบริษัทรถเช่าในจังหวัดชลบุรีร้องสายไหมต้องรอด หลังนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกบุคคลอ้างตัว เป็นตำรวจรีดเงินไปกว่า 7 แสนบาท ขณะที่พยานคนสำคัญที่เป็นคนขับรถในคืนเกิดเหตุ ตอนนี้หายตัวปริศนา หวั่นไม่ปลอดภัย ไปดูคลิปวันเกิดเหตุ


นี่คือคลิปจากกล้องหน้ารถตู้ ที่คนขับรถตู้ซึ่งเป็น 1 ในพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุส่งมาให้เจ้าของบริษัทรถเช่า มีความยาว 3 นาทีครึ่ง จะเห็นว่ามีรถยนต์ 2 คันขับมาประกบด้านและข้าง บังคับให้จอดเข้าข้างทาง แล้วลงจากรถ พร้อมสั่งเป็นภาษาอังกฤษ ให้ส่งหนังสือเดินทางมา แล้วให้ทั้งคู่ลงจากรถก่อนที่คลิปจะตัดไป เหตุการณ์นี้เกิดช่วงค่ำวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา


ซึ่งคลิปนี้ถูกนำไปร้องเรียนที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้เมื่อวานนี้ (14ก.ค.67)ด้วย ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังคนขับรถตู้ในวันเกิดเหตุที่เอาคลิปมาร้องเรียน ทีแรกคนขับรถตู้รับสายแล้วบอกว่ากำลังให้ปากคำอยู่กับตำรวจท่องเที่ยวที่พัทยา ยังไม่สะดวกอยู่

ก่อนจะตัดสายไป จากนั้นนักข่าวได้โทรศัพท์ไปหาอีกครั้งเพื่อนัดแนะสถานที่พูดคุยรายละเอียด เจ้าตัวนัดให้มาเจอที่ สภ.เมืองพัทยา แต่สุดท้ายก็หายเงียบไป และติดต่อไม่ได้อีก จนถึงวันนี้


ทำให้เจ้าของบริษัทรถเช่า เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด พร้อมระบุว่า ลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนนัดให้รถตู้ไปรับที่สนามบินเชียงราย มุ่งหน้าไปพัทยา แต่เมื่อมาถึงบริเวณช่วงมอเตอร์เวย์ หลังผ่านด่านจ่ายเงินด่านสุดท้ายก่อนลงพัทยา ก็มีรถยนต์สีดำ 1 คันมาปาดหน้า และรถอีกคันประกบข้าง พร้อมบังคับให้รถตู้ของบริษัทจอด เพื่อจะตรวจค้นตามคลิป ซึ่งตอนน้ันคนขับได้โทรศัพท์มารายงานสถานการณ์ ก่อนจะเงียบหายไป


2 ชั่วโมงต่อมาคนขับรถเช่าก็โทรกลับมา บอกว่า ลูกค้าไม่จ่ายเงิน พร้อมเล่ารายละเอียดว่า หลังจากถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างว่าเป็นตำรวจมาขอค้นรถแล้ว ได้คุมตัวลูกค้าคนจีนไปค้นตัวที่เซฟเฮ้าส์ พอเห็นว่าคนจีนมีเงินดอลล่าร์และเงินหยวน ตีเป็นเงินไทยประมาณ 7 แสนบาทไทย จึงเอาเงินดังกล่าวไป ซึ่งตอนแรกชาวจีนก็ขัดขืน แต่กลุ่มชายฉกรรจ์โทรศัพท์หาล่ามมาพูดคุยเจรจากับคนจีน ทำนองว่าหากไม่ยอมก็จะถูกยัดข้อหา คนจีนจึงยอมให้เงินไปทั้งหมด ก่อนจะปล่อยให้คนขับรถเช่าพาคนจีนไปส่งหน้าห้างเทอร์มินอล 21 พัทยา แล้วก็ไม่สามารถติดต่อคนขับรถเช่าได้อีก


กระทั่งเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.67) มีคนติดต่อมาอ้างเป็นตำรวจท่องเที่ยว บอกจะเข้ามาพบที่ทำงาน โดยเอารถส่วนตัวไป และใส่นอกเครื่องแบบ ทั้งที่ควรจะนัดไปพบที่ทำการของตำรวจท่องเที่ยวมากกว่า ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจว่าเป็นตำรวจท่องเที่ยวจริงหรือปลอม จึงปฏิเสธและมาร้องเพจสายไหมต้องรอดแทน และที่สำคัญตอนนี้พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็หายตัวไปติดต่อไม่ได้ ทราบเมื่อวานนี้ว่ามีคนอ้างว่าเป็นตำรวจท่องเที่ยวเชิญตัวไปคุยข้อมูล


ด้านนาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า ได้ประสานรองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองพัทยา แล้ว ทราบว่าคนขับรถเช่าคันดังกล่าวอยู่กับตำรวจท่องเที่ยว ดังนั้นหากอยู่กับตำรวจท่องเที่ยวจริง ขอให้ส่งคนขับรถเช่า ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญให้กับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สอบสวนขยายผล เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร คนที่เป็นอุ้มเป็นใคร เป็นตำรวจจริงหรือไม่ และหากเป็นตำรวจจริง เป็นตำรวจหน่วยไหน เพราะขณะนี้ไม่มีใครสามารถติดต่อคนขับรถเช่าได้เลย และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริง ก็ต้องขยายผลให้ถึงที่สุด


ขณะที่พันตำรวจเอก ทวี กุดแถลง ผู้กำกับการ สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า จุดเกิดเหตุอยู่ช่วงหลัก กม.3 ถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้าเมืองพัทยา ขณะนี้สั่งให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และติดต่อผู้เสียหาย รวมถึงคนที่ไปให้ข้อมูลร้องเรียนแล้ว แต่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีน และคนขับรถที่อยู่ในเหตุการณ์หายตัวไปทั้งคู่ หวั่นอาจจะเกิดเรื่องไม่ดี วอนทั้งคู่ออกมาพบตำรวจด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/b4hcuvFB09M